บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ วันที่ 20 มิ.ย. 2554 นักรบมือตบรวมตัวกันเหนียวแน่น ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์โหวตโนทุกพื้นที่ เพื่อหยุดระบอบการเมืองที่ล้มเหลว
สำหรับกิจกรรมรณรงค์โหวตโน วันที่ 21 มิ.ย. เวลา 07.00 น. พี่น้องชาวโคราชนัดพบกันที่หน้าโรงแรมเมืองทอง โดยจะรณรงค์ไปที่ ปักธงชัย วังน้ำเขียว ปากช่อง
วันที่ 22 มิ.ย. พบกันที่หน้าโรงแรมเดิม (เมืองทอง) ไปพิมาย ชุมพวง บัวใหญ่
วันที่ 28 มิ.ย. พันธมิตรฯ โคราช พบกันที่หน้าโรงแรมเมืองทอง เวลา 13.00 น.มีกิจกรรมเดินรณรงค์รอบเมือง จากนั้นช่วงเย็นมีเสวนาหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม พบกับนายประพันธ์ คูณมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายชัยพันธ์ ประภาสะวัต
วันที่ 25 มิ.ย. ช่วงบ่าย พันธมิตรฯ อ.แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม จัดริ้วขบวนกว่า 10 ลำ รณรงค์ตามตลาดน้ำอัมพวา
วันที่ 22 มิ.ย. พันธมิตรฯ สงขลา นัดพบเวลา 07.00 น. ที่วงเวียนน้ำพุ โดยจะเคลื่อนขบวนไประโนด สะทิงพระ สิงหนคร ส่วนวันที่ 23 มิ.ย. เวลา 09.00 น.พบกันที่วงเวียนน้ำพุเหมือนเดิม ไปนาหม่อม นาทวี
วันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. พี่น้อง จ.ปราจีนบุรี จัดขบวนแรลลี่ พบกันที่ลานพระบรมรูป ร.5 เวลา 09.00 น.
วันที่ 25 พันธมิตรฯ ภาคตะวันตก รวมตัวกันได้ที่สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี โดยในเวลา 15.00 น.มีเสวนา พบกับ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก
สำหรับพี่น้องที่อยู่ในที่ชุมนุมเวทีมัฆวานฯ ใน วันพุธที่ 22 มิ.ย. พบกันที่แยกมิสกวัน เวลา 10.00 น. ก่อนเคลื่อนไปรณรงค์ที่ถนนประชาชื่น พงษ์เชชร สามัคคี ติวานนท์ ปากเกร็ด สนามบินน้ำ แคราย ส่วน วันที่ 25 มิ.ย. พบกันที่ปากซอยอโศก ตั้งแต่ เวลา 12.00 น. จะรณรงค์ไปตามถนนอโศก รัชดาฯ สี่แยกลาดพร้าว
โดยในช่วงเสวนาราชอาณาจักรไทยกำลังเสียดินแดน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวทิ้งว่า การรณรงค์โหวตโนของเรา เดิมทีคิดในเรื่องอำนาจต่อรองเป็นหลัก จะทำอย่างไรให้พี่น้องมีอำนาจต่อรองมากๆ จะได้ไม่ต้องมาชุมนุมกันอีก เพื่อรักษาเลือดเนื้อเอาไว้ได้ หยุดยังผู้ที่จะลุอำนาจทางการเมือง แต่เมื่อ นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ออกมาเขียนบทความถึงผลทางกฎหมายของการโหวตโน ก็ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง เพราะทำให้เรามีความหวังมากกว่าอำนาจต่อรอง คือการกำหนดชะตาประเทศโดยประชาชน
นายอนุรักษ์ คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ ออกมาเขียนบทความเช่นนี้ถือว่ามีน้ำหนักมากต่อประเด็นทางกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ตนคิดต่อทันทีว่า เราจะทำอย่างไรต่อไปในเชิงยุทธศาสตร์ ย้ำการเอาชนะผู้สมัคร 26 คนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีเสียงจากเขตที่เห็นพร้องต้องกันต้านระบอบทักษิณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ประชาธิปัตย์แต่เดิม ทั้งนี้ ที่ชวนพี่น้องประชาธิปัตย์คิดเชิงยุทธศาสตร์ด้วย ก็เพราะเล็งเห็นแล้วว่าเลือกประชาธิปัตย์ต่อไปนอกจากแพ้ระบอบทักษิณในสภาแล้วยังไปสร้างความชอบธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกต่างหาก หากทำเช่นนี้ถึงตอนนั้นพี่น้องจะไม่มีอำนาจต่อรองในมือ ต้องออกมาเผชิญหน้าอย่างไม่มีทางเลือก กลับกันถ้าหากเรามาร่วมกันโหวตโนมากๆ จะมีอำนาจต่อรองในแง่พลังจำนวนคน ยิ่งไปกว่านั้นในแง่กฎหมายเราจะกลายเป็นผู้กำหนดดุลอำนาจที่แท้จริงในอนาคต