เฟอร์นิเจอร์มือสองเป็นทางเลือกของการแต่งบ้านในช่วงที่คนเมืองหลวง และปริมณฑลผ่านพ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม เพราะไม่ต้องใช้เงินมากนัก ส่งผลให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์มือสองกลุ่มทั้งในสำนักงาน และเฟอร์นิเจอร์ที่พักอาศัย ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีในช่วงนี้
สำหรับร้านเฟอร์นิเจอร์มือสอง มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งจะแตกต่างกันที่คุณภาพ และรูปแบบ สำหรับร้านเฟอร์นิเจอร์อุปกรณ์สำนักงานมือสอง “HAPPY” เป็นร้านนำสินค้าเข้าจากประเทศญี่ปุ่นรายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 4,000 รายการ แบ่งเป็นอุปกรณ์สำนักงาน 70% และเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป 30% โดยได้รับการการันตีคุณภาพตามแบบฉบับชาวแดนอาทิตย์อุทัย
นายคาซูมิ โยชิโนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโตมิซาวา (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า บริษัทได้เข้ามาเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงานและเฟอร์นิเจอร์มือสองในประเทศไทยมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นสาขาแรกที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สินค้าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้ามือสองที่อายุการใช้งานประมาณ 5 - 10 ปี และสินค้าใหม่ซึ่งตกรุ่น และทางบริษัทไปเหมาซื้อมาจากโรงงานที่ประเทศญี่ปุ่น
“ทางร้านจะคัดเลือกคุณภาพของสินค้ามือสองเกรด A และ B เท่านั้น ซึ่งผ่านการทำความสะอาดและซ่อมพร้อมใช้งาน ที่สำคัญเป็นสินค้าแบรนด์เนมเกือบ 70% ดังนั้น เมื่อเทียบราคากับสินค้าใหม่ของไทยบางยี่ห้อ ราคาสินค้ามือสองของเราไม่ได้ต่างกันมากนัก แต่ถ้าเมื่อเทียบกับของใหม่ในแบบเดียวกัน ราคาของมือสองของเราจะถูกกว่าของใหม่คิดเป็น 1 ใน 3 ของราคาขายปลีกทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น” นายคาซูมิ อธิบาย และเล่าต่อว่า
“สินค้าที่บริษัทนำมาขายมาจากการซื้อเหมามาจากบริษัท ห้างร้านที่ต้องการเปลี่ยนปรับปรุง เปลี่ยนแปลงออฟฟิศใหม่ ย้ายสำนักงาน และไม่ต้องการจะขนของเหล่านี้ เขาก็จะขาย โดยที่ญี่ปุ่นอุปกรณ์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์มือสองได้รับความนิยมมากพอสมควร เพราะช่วยให้ผู้ซื้อประหยัดได้ เช่นเดียวกับในประเทศไทย ที่ต้องการอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์มือสอง เพราะช่วยให้ได้ของคุณภาพ ในราคาประหยัด โดยสินค้าของเราจะมีการรับประกันสินค้าให้ 3 เดือน หรือถ้าไม่ต้องการของที่ใช้แล้ว ทางร้านเราก็มีของใหม่ แต่เป็นแบบและรุ่นที่ตกเทรนด์แล้ว ซึ่งราคาจะถูกกว่าของใหม่เช่นกัน” เจ้าของกิจกรรม เสริม
นายคาซูมิ เล่าถึงลูกค้ากลุ่มบ้านพักอาศัยว่า ในสินค้ากลุ่มนี้ทางร้านจะมีสินค้าให้เลือกประมาณ 1,000 รายการ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย 70% ที่เหลือจะเป็นคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งลูกค้ารู้จักจากการขับรถผ่านหน้าร้าน และบางส่วนได้ทำการแจกแผ่นพับโฆษณาไปตามบ้านพัก และสถานที่ต่างๆ รวมถึงการขายผ่านทางหน้าเว็บไซต์
สำหรับในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ มองว่าน่าจะเป็นโอกาสให้กับเฟอร์นิเจอร์มือสอง โดยเฉพาะอุปกรณ์สำนักงาน และที่ผ่านมา เริ่มมีผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาจากน้ำท่วมเข้ามาเลือกซื้ออุปกรณ์สำนักงาน และเฟอร์นิเจอร์จากทางร้านบ้างแล้ว แต่ยังถือว่าไม่มากนัก ส่วนหนึ่งคงมาจากร้านยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากนัก อย่างไรก็ตาม หากมีการทำประชาสัมพันธ์ และได้รับการบอกต่อ น่าจะช่วยขยับยอดขายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทางร้านมั่นใจในคุณภาพของสินค้าอยู่แล้ว
“จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าคนไทย หันมาให้ความสนใจกับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเหล็กมากขึ้น ซึ่งตรงกับสินค้าของเรา ที่ส่วนใหญ่ก็จะทำมาจากเหล็ก ต่างจากในอดีต ที่ไลฟ์สไตล์ของคนไทยจะชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นเฟอร์นิเจอร์เหล็กจะมีมากกว่าไม้ พอเกิดน้ำท่วมน่าจะเป็นโอกาสการขายที่ดีของทางร้านเรา และในช่วงนี้ทางร้านมีโปรโมชั่น ลด 5% ให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 บาท ขึ้นไปด้วย” เจ้าของธุรกิจชาวญี่ปุ่น กล่าว และเล่าต่อว่า
พื้นฐานธุรกิจในอดีตจะส่งอุปกรณ์สำนักงาน และเฟอร์นิเจอร์มือสองจากประเทศญี่ปุ่นมาขายในประเทศไทย อยู่แล้ว โดยมีพ่อค้าคนกลางมารับไปขายอีกต่อหนึ่ง แต่พอมาในระยะหลังมีโครงการที่จะเปิดสาขาในต่างประเทศ จึงเลือกประเทศไทย เพราะเคยส่งสินค้ามาขายอยู่แล้ว คิดว่าน่าจะขายได้ และประกอบกับประเทศไทยมีโรงงานจากประเทศญี่ปุ่นมาเปิดเป็นจำนวนมาก เมื่อมาเปิดร้านจริง ลูกค้าหลักไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่กลับเป็นคนไทย แสดงว่าคนไทยชอบงานดีไซน์ และเชื่อมั่นในคุณภาพของเฟอร์นิเจอร์จากประเทศญี่ปุ่น
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.0-2964-5900-1 , www.tomizawa.co.th