เชื่อมั่น SMEsเดือนมิ.ย. และคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าขยับเพิ่ม อยู่ที่ 46.2 และ 56.0 ผลจากปัจจัยค่าน้ำมันแนวโน้มลดลง หนุน ผปก.คลายกังวลด้านต้นทุน ผู้บริโภคกล้าจับจ่าย พ่วงการเร่งหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. ทำให้มีเม็ดเงินในตลาดสูง ขณะที่ไตรมาส 2/2554 ดัชนีลดลงอยู่ที่ 45.8 ปัจจัยบั่นทอนมาจากนักลงทุนต่างชาติย้ายการลงทุน ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ ประจำเดือนมิถุนายน 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2554 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 46.2 จากระดับ 46.0 (เพิ่มขึ้น 0.2) โดยภาคค้าส่งและภาคค้าปลีก ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 45.6 และ 46.3 จากระดับ 45.2 และ 44.6 (เพิ่มขึ้น 0.4 และ 1.7) ส่วนภาคบริการ ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 46.4 จากระดับ 47.8 (ลดลง 1.4) เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและต่อธุรกิจตนเอง ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 34.4 และ 42.1 จากระดับ 38.8 และ 44.3 (ลดลง 4.4 และ 2.2) ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญมาจากระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่งผลให้ผู้ประกอบการคลายกังวลด้านต้นทุน และผู้บริโภคกล้าจับจ่ายมากขึ้น รวมถึง เม็ดเงินสะพัดจากการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง อีกทั้ง ส่งออกขยายตัวระดับสูงต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 21,074.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 ขณะที่ค่าเงินบาทลดลงอยู่ที่ 30.52 บาท/เหรียญสหรัฐ ส่งผลดีต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ภาคค้าส่ง กิจการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ 46.9 จากระดับ 45.5 (เพิ่มขึ้น 1.4) ภาคค้าปลีก กิจการสถานีบริการน้ำมัน ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 52.6 จากระดับ 44.5 (เพิ่มขึ้น 8.1) ขณะที่ภาคบริการ เป็นภาคธุรกิจเดียวที่ค่าดัชนีลดลง โดยมีธุรกิจบริการท่องเที่ยว ค่าดัชนีลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 44.8 จากระดับ 50.6 (ลดลง 5.8) ผลจากเข้าสู่ฤดูฝนมีฝนตกมากในหลายพื้นที่ ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวชะลอตัวลง เห็นได้จากอัตราการเข้าพักลดลงอยู่ที่ร้อยละ 54.4 จากเดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 66.5
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ พบว่าค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 56.0 จากระดับ 51.7 (เพิ่มขึ้น 4.3) และเป็นการเพิ่มขึ้นทุกประเภทกิจการ โดยภาคค้าส่ง ภาคค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 57.6 55.2 และ 56.2 จากระดับ 53.0 50.3 และ 52.9 (เพิ่มขึ้น 4.6 4.9 และ 3.3) ตามลำดับ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศ และต่อธุรกิจตนเอง ที่ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 72.5 และ 60.5 จากระดับ 61.6 และ 52.5 (เพิ่มขึ้น 10.9 และ 8.0) ตามลำดับ ทั้งนี้ค่าดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในระดับที่เกินกว่า 50 ในทุกประเภทกิจการ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการ SMEs มีความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจการในอนาคตในระดับที่ดี เนื่องจากมีความคาดหวังว่าผลการเลือกตั้งจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้น
ในส่วนดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาสที่ 2/2554 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2554 พบว่าค่าดัชนีปรับตัวลดลงทั้งดัชนีปัจจุบันและคาดการณ์ไตรมาสหน้า โดยค่าดัชนีปัจจุบันปรับตัวลดลงอยู่ที่ 45.9 จากระดับ 48.9 และเป็นการลดลงทุกภาคธุรกิจ โดยภาคค้าส่ง ภาคค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 45.8 44.5 และ 47.6 จากระดับ 48.6 47.8 และ 50.3 (ลดลง 2.8 3.3 และ 2.7) ตามลำดับ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและต่อธุรกิจตนเอง ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 36.1 และ 44.8 จากระดับ 42.9 และ 48.4 (ลดลง 6.8 และ 3.6)
“สิ่งที่เป็นปัจจัยบั่นทอนให้ค่าดัชนีปรับตัวลดลง เป็นผลจากนักลงทุนต่าประเทศเคลื่อนย้านการลงทุนจากตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ Set Index ปรับตัวลดลง 32.35 จุด ดัชนีผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 สะท้อนถึงค่าครองชีพของประชาชนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เป็นต้น” ผอ.สสว. กล่าว
