ขึ้นชื่อว่าแฟนคลับของศิลปิน ดารา นักร้อง คงหนีไม่พ้นการแสดงออกถึงความรัก และเป็นกำลังใจให้แก่ศิลปินของตน เห็นได้จากเวทีประกวดร้องเพลงที่บรรดาแฟนคลับต่างชูป้ายไฟระบุชื่อนักร้องของตนกันอย่างโดดเด่น จากเดิมเป็นป้ายกระดาษใช้สีสะท้อนแสง ถูกพัฒนากลายมาเป็นป้ายไฟจากหลอด LED ที่เห็นจนชินตา
แต่ใครจะคิดว่าป้ายไฟเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้ได้เหมือนกัน หากสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้โดนใจด้วยลูกเล่นที่ออกแบบจากมันสมองของเจ้าของธุรกิจ เกิดปรากฏการณ์ปากต่อปาก แฟนคลับแห่ใช้บริการมากที่สุด ณ เวลานี้
คำว่า “ทำได้” กับ “ทำเป็น” 2 คำนี้ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะ 'นายพลรัตน์ กุลพรศิริกุล' หรือที่บรรดาแฟนคลับรู้กันในนาม “ปิงป้ายไฟ” เลือกใช้คำว่า “ทำเป็น” มาสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจ ที่จากเดิมอาจจะแค่ทำได้ แต่ด้วยความได้เปรียบในความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า สาขาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บวกกับความไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลงานให้โดนใจลูกค้าทั้งในแง่การสื่อสารกับศิลปินและการนำไปใช้งาน
ปิงป้ายไฟ เล่าว่า การที่ตนเองเรียนจบมาทางด้านนี้ กลับกลายเป็นความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจป้ายไฟ สามารถต่อวงจรไฟฟ้าได้ และในขณะเดียวกันก็ใช้ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ออกแบบก่อนลงมือทำจริง ถึงแม้ช่วงแรกหลังเรียนจบจะไปเป็นลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ออกแบบซอฟแวร์ เพื่อจำหน่ายให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นานกว่า 7 ปี จนเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โรงงานต้องปิดตัวลง หันไปออกแบบซอฟแวร์ให้แก่เว็บไซต์หนึ่ง แต่ลึกๆ แล้วต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงเริ่มขายกระเป๋าโน้ตบุคผ่านทางเว็บไซต์แบบซื้อมาขายไปทำควบคู่ไปกับงานประจำ
จากรายได้เสริมนี้เองทำให้ปิงป้ายไฟต้องคลุกคลีอยู่กับเว็บไซต์เป็นประจำ จนไปเห็นแฟนคลับมาลงประกาศในเว็บบอร์ดว่าต้องการหาคนทำป้ายไฟเพื่อใช้เชียร์ศิลปิน ก็คิดว่ามันทำยากหรือ เพราะจากที่ตนเองจบมาทางด้านนี้คิดว่าวิธีการทำไม่ยุ่งยากเลย จึงตัดสินใจรับทำป้ายไฟทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน
“การที่เรากล้าตอบรับทำป้ายไฟเป็นครั้งแรกนั้น เพราะคิดว่าทำไม่ยาก ประกอบกับที่ผ่านมาผมก็ศึกษาเรื่องหลอดไฟ LED อยู่บ้าง ซึ่งก่อนลงมือทำป้ายไฟแผ่นแรกก็ไปดูแหล่งผลิตป้ายไฟมาก่อน คือ ย่านบ้านหม้อ เพื่อเช็คความคิดในการทำป้ายไฟของเราว่าถูกต้องแล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 4 ปีกว่า ที่ผมตัดสินใจเลือกทำธุรกิจนี้ แม้วันแรกที่ผลงานป้ายไฟ ถือว่ารูปลักษณ์และคุณภาพและคุณภาพไม่แตกต่างจากผู้ผลิตรายเดิมในตลาดบ้านหม้อ แต่มาวันนี้ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลงานเรากระจายอยู่ตามเวทีประกวดต่างๆ เป็นจำนวนมาก”
มาวันนี้ป้ายไฟ ของปิงป้ายไฟ ได้กลายมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาดป้ายไฟ สำหรับเชียร์ศิลปิน ดารา ตามเวทีประกวดระดับประเทศ โดยเฉพาะเวที เอเอฟ และเดอะสตาร์ ซึ่งนายปิง วัดความสำเร็จธุรกิจตนเองจากจำนวนป้ายไฟที่บรรดาแฟนคลับต่างนำมาโชว์ในขนาดที่แตกต่างกันออกไป ในขณะที่ลูกค้าสามารถสังเกตได้จากสติกเกอร์หลังป้ายไฟแบรนด์ “Fai For Fan” (ไฟ ฟอร์ แฟน) เพื่อการันตีฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองไทย ในราคาสมเหตุสมผล ออกแบบ และกำหนดตำแหน่งหลอดไปด้วยคอมพิวเตอร์
“จากความได้เปรียบที่เรามุ่งทำป้ายไฟให้แก่แฟนคลับมาตั้งแต่แรก ทำให้เข้าใจความต้องการและรู้ถึงพฤติกรรมการใช้ป้ายไฟของแฟนคลับ คือ ในแง่ของความเข้าใจนั้นแฟนคลับส่วนใหญ่จะต้องการความโดดเด่น แตกต่าง ซึ่งตรงนี้เราต้องขอข้อมูลศิลปินจากแฟนคลับ เพื่อนำมาออกแบบเป็นป้ายไฟ อย่าง ป้ายไฟสูงเป็นเมตรของแฟนคลับ บี้ เดอะ สตาร์ (Bie The Star) โดยผมออกแบบให้ตัวไอ (i) เป็นตัวแมลงปอตามความหมายชื่อเล่นของศิลปิน (กัมบี้ ในภาษาเหนือแปลว่า แมลงปอ) ด้วยการใช้ลูกเล่นแบบเหนือชั้น และยังไม่มีเจ้าอื่นทำมาก่อน คือ จะมีดาว 2 ดวง กระพริบไม่พร้อมกัน พอดาวดับ ปีกคู่บนกับคู่ล่างจะกระพริบติดดับไม่พร้อมกัน ในขณะที่ตัวโน้ตจะมีไฟวิ่งสลับกัน ซึ่งลูกเล่นนี้คล้ายเป็นการบอกเล่าเรื่องราว เป็นแอนิเมชั่นจากหลอดไฟ LED เป็นต้น”
สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 200-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดป้ายไฟและลูกเล่น ใช้เวลาเวลาทำป้ายขนาดเล็กเพียง 1 วัน เน้นความแข็งแรงทนทาน และน้ำหนักเบากว่าเจ้าอื่น ด้วยการออกแบบและเลือกใช้อุปกรณ์ในการผลิต นอกจากนี้ทางร้าน ยังออกแบบที่คาดผมป้ายไฟด้วย ภายใต้สโลแกน 4 in one เพราะสามารถแปลงกายได้ 4 แบบ คือ คาดผม, ป้ายไฟถอดถือได้, หลังป้ายไฟมีเข็มกลัดติดเสื้อได้ และแถมด้ามลูกโป่งเสียบหลังป้ายไฟถือได้
แม้ธุรกิจเกาะกระแสคอนเสิร์ตตามเวทีต่างๆ แต่ปิงป้ายไฟเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะเชื่อว่าเทรนด์การจัดคอนเสิร์ตไม่หมดไปอย่างแน่นอน ในขณะป้ายไฟก็สามารถประยุกต์ ออกแบบ ไปใช้กับงานอื่นๆ ได้อีกมากมาย อย่าง งานวันเกิด งานรับปริญญา วาเลนไทน์ และงานพิเศษขององค์กร ต่างๆ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
***ติดต่อ 08-1654-0112 หรือที่ www.faiforfan.com***
