ภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติ ส่งผลบวกตลาดส่งออกสินค้าอาหารไทยเติบโตสูง “ก.พาณิชย์” เร่งปรับเป้าใหม่ ขยายจากร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 11 มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอาหาร หรือ THAIFEX-World of food ASIA 2011 ว่า จากภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้สินค้าอาหารมีความต้องการอย่างสูง ถือเป็นปัจจัยบวกช่วยให้การส่งออกสินค้าอาหารไทยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่มกราคมถึงมีนาคม มีมูลค่าส่งออกกว่า 6,287.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มกว่าร้อยละ 18.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (2553)
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ เดิมตั้งเป้าว่า ภาคส่งออกสินค้าอาหารไทยปีนี้ คาดจะเติบโตได้ประมาณร้อยละ 8 จากปีที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 23,777.28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จากแนวโน้มที่ดีข้างต้น เชื่อว่า จะเติบโตได้ดีกว่าที่คาด โดยเติบโตได้ถึงกว่าร้อยละ 11 มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมทั้งด้านวัตถุดิบ กำลังผลิต คุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย และนวัตกรรมที่พัฒนาจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
นางพรทิวา ระบุต่อว่า ตลาดสำคัญของสินค้าอาหารไทย ได้แก่ อาเซียน จีน อินเดีย และรัสเซีย รวมถึง ตลาดญี่ปุ่นที่มีความต้องการอาหารเพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบแผ่นดินไหวภายในประเทศ ซึ่งทางกระทรวงฯ จะดำเนินนโยบายส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยงาน THAIFEX ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยขยายตลาด โดยตั้งเป้าว่า จะมีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศ กว่า 93,000 คน มีวงเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอาหาร หรือ THAIFEX-World of food ASIA 2011 ว่า จากภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้สินค้าอาหารมีความต้องการอย่างสูง ถือเป็นปัจจัยบวกช่วยให้การส่งออกสินค้าอาหารไทยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่มกราคมถึงมีนาคม มีมูลค่าส่งออกกว่า 6,287.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มกว่าร้อยละ 18.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (2553)
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ เดิมตั้งเป้าว่า ภาคส่งออกสินค้าอาหารไทยปีนี้ คาดจะเติบโตได้ประมาณร้อยละ 8 จากปีที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 23,777.28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จากแนวโน้มที่ดีข้างต้น เชื่อว่า จะเติบโตได้ดีกว่าที่คาด โดยเติบโตได้ถึงกว่าร้อยละ 11 มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมทั้งด้านวัตถุดิบ กำลังผลิต คุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย และนวัตกรรมที่พัฒนาจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
นางพรทิวา ระบุต่อว่า ตลาดสำคัญของสินค้าอาหารไทย ได้แก่ อาเซียน จีน อินเดีย และรัสเซีย รวมถึง ตลาดญี่ปุ่นที่มีความต้องการอาหารเพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบแผ่นดินไหวภายในประเทศ ซึ่งทางกระทรวงฯ จะดำเนินนโยบายส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยงาน THAIFEX ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยขยายตลาด โดยตั้งเป้าว่า จะมีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศ กว่า 93,000 คน มีวงเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท
