เอสเอ็มอีไทยแล้งกุนซือธุรกิจ กสอ.จัดเวทีประกวดเร่งกระตุ้น

กสอ. จัดประกวดที่ปรึกษาธุรกิจเอสเอ็มอี หวังกระตุ้นเพิ่มจำนวน และเป็นต้นแบบ แจงประเทศไทยขาดแคลนกุนซือธุรกิจอย่างหนัก ทั่วประเทศมีแค่ 3,000 พันราย ขณะที่เอสเอ็มอีมีกว่า 2.9 ล้านราย วิตกสูญเสียขีดความสามารถแข่งขันหลังเปิด AEC

นายวีรพล ศรีเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ.2558 ที่จะเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEC : ASEAN Economic Community) ทำให้เกิดการต่อสู้ทางการค้าอย่างสูง โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีต้องรับความเสี่ยงในการแข่งขันมากที่สุด ซึ่งเทียบความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจแล้ว จากการวัดโดย World Economic Forum ซึ่งพิจารณาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ประสิทธิภาพการดำเนินการ และความก้าวหน้าทางธุรกิจและนวัตกรรม ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 38 ของโลก ในขณะที่ประเทศในอาเซียน อย่างสิงคโปร์ อันดับ 3 มาเลเซีย อันดับ 24 บูรไน อันดับ 28 อินโดนีเซีย อันดับ 44 เวียดนาม อันดับ 59 ฟิลิปปินส์ อันดับ 85 และกัมพูชา อันดับ 109 เป็นต้น แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีทั้งคู่แข่งที่เหนือและด้อยกว่า หากไม่เตรียมพร้อมรับการเปิดเสรีอาเซียน จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันเสื่อมถอยลง

ทั้งนี้ กระบวนการที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น และมีเกาะป้องกันความเสี่ยงจากการเปิดเสรีอาเซียน จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาธุรกิจ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนวิเคราะห์ และพัฒนาธุรกิจให้มีขีดความสามารถมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ประเทศไทยมีจำนวนที่ปรึกษาธุรกิจ ที่จดทะเบียนกับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทย สำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง แค่ประมาณ 3,000 รายเท่านั้น ในขณะที่มีจำนวนเอสเอ็มอี ทั้งประเทศมีกว่า 2.9 ล้านราย แสดงให้เห็นว่า ปริมาณที่ปรึกษาเทียบกับจำนวนเอสเอ็มอีแล้วมีสัดส่วนน้อยมาก นอกจากนั้น ที่ปรึกษาธุรกิจส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้เอสเอ็มอีส่วนภูมิภาคไม่สามารถเข้าถึงบริการของที่ปรึกษาธุรกิจ

นายวีรพล กล่าวต่อว่า แนวทางหนึ่งที่จะส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มจำนวนที่ปรึกษามากยิ่งขึ้น ทาง กสอ. ได้จัดการประกวดรางวัลที่ปรึกษาตัวอย่างแห่งปี 2554 (DIP Consultant Award 2011) โดยครั้งนี้นับเป็นปีที่ 2 แบ่งออกเป็น 4 สาขา ได้แก่ วินิจฉัยสถานประกอบการ การบริหารจัดการ เทคนิค-วิศวการ และวิสาหกิจชุมชน โดยจะคัดเลือกที่ปรึกษาผู้มีผลงานโดดเด่น เพื่อจะให้เป็นต้นแบบแก่ที่ปรึกษารายอื่นๆ และเชิดชูขยายตลาดให้ที่ปรึกษาธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมถึง ยังเป็นการวัดขีดความสามารถและมาตรฐานของที่ปรึกษาธุรกิจไทยด้วย สำหรับการรับสมัครจะเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 14 มิถุนายน 2554 และประกาศผลในเดือนสิงหาคม 2554