นายกฯ มอบรางวัล 4 สุดยอดผลงานจากเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตั้งเป้าปี 2555 ไทยฮับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์เอเชีย สัดส่วนจีดีพีเพิ่มถึง 20% เชื่อศักยภาพคนไทย และทุนวัฒนธรรมไม่แพ้ชาติใดในโลก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานพิธีมอบรางวัล PM’s Creative Award หรือ รางวัลนายกรัฐมนตรี ผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น ว่า การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกิดมาจากความคิดสร้างสรรค์ ถือว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งความคิดสร้างสรรคค์ดังกล่าวคนไทยมีศักยภาพที่ดีจากต้นทุนทางสังคมไทย เช่น วัฒนธรรม ประเพณี งานศิลปะ ความสามารถทางการเกษตร และวัฒนธรรมไทย ดังนั้นหากได้รับการสนับสนุนที่ดีจากทุกภาคส่วนจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของเอเชียในปี 2555 ได้ไม่ยาก โดยปัจจุบันมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในส่วนสินค้าเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์อยู่ที่ประมาณ 12% และตั้งเป้าว่าในปี 2555 จะเติบโตสูงถึง 20%
ทั้งนี้ ได้มอบรางวัล PM’s Creative Award เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายตามโครงการ Creative Thailand เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 50 ท่าน ได้ทำการคัดเลือกผลงานที่สมัครเข้ามา 150 ผลงาน และคัดเลือกผลงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศจำนวน 38 ผลงาน นอกจากนี้ยังได้คัดเลือกผลงานชนะเลิศที่สุดในแต่ละสาขาๆ ละ 1 รางวัล จาก 4 สาขา ได้แก่ 1.รางวัลนริศรานุวัดติวงศ์ หรือรางวัลชนะเลิศสาขางานสร้างสรรค์ตามลักษณะงาน คือ ปราสาทสัจธรรม ของนายเล็ก วิริยะพันธุ์ 2.รางวัลคึกฤทธิ์ ปราโมช หรือ รางวัลชนะเลิศสาขาสื่อ คือ รายการคุณพระช่วย ของ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) 3.รางวัลเฟื้อ หริพิทักษ์ หรือรางวัลชนะเลิศสาขา คือ ศิลปะการแสดงสยามนิรมิต โดย บริษัท รัชดานิรมิต จำกัด และ 4.รางวัลอังคาร กัลยาณพงศ์ หรือรางวัลชนะเลิศสาขาสืบทอดทางวัฒนธรรม คือ โคมไฟไม้ไผ่ตั้งพื้น งานเกลียวกลับ ไลน์ และโคมไฟโค้งกุหลาบ โดยนายกรกต อารมย์ดี
“ผลงานที่รับรางวัลดังกล่าว ถือว่ามีความโดดเด่นในเชิงความคิดสร้างสรรค์ สามารสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้แก่สังคมไทย สื่อถึงความเป็นไทย ประเพณี ภูมิปัญญา รวมทั้งยังเป็นผลงานที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจ และเป็นที่ยอมรับในสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยแผนการดำเนินงานตามโครงการเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ทางรัฐบาลเตรียมสนับสนุนอีก 4 โครงการหลัก คือ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา สร้างระบบเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้แก่สถาบันการศึกษา กระตุ้นทุกภาคส่วนให้การสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และ สนับสนุนธุรกิจ-อุตสาหกรรม โดยเป็นความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานพิธีมอบรางวัล PM’s Creative Award หรือ รางวัลนายกรัฐมนตรี ผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น ว่า การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกิดมาจากความคิดสร้างสรรค์ ถือว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งความคิดสร้างสรรคค์ดังกล่าวคนไทยมีศักยภาพที่ดีจากต้นทุนทางสังคมไทย เช่น วัฒนธรรม ประเพณี งานศิลปะ ความสามารถทางการเกษตร และวัฒนธรรมไทย ดังนั้นหากได้รับการสนับสนุนที่ดีจากทุกภาคส่วนจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของเอเชียในปี 2555 ได้ไม่ยาก โดยปัจจุบันมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในส่วนสินค้าเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์อยู่ที่ประมาณ 12% และตั้งเป้าว่าในปี 2555 จะเติบโตสูงถึง 20%
ทั้งนี้ ได้มอบรางวัล PM’s Creative Award เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายตามโครงการ Creative Thailand เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 50 ท่าน ได้ทำการคัดเลือกผลงานที่สมัครเข้ามา 150 ผลงาน และคัดเลือกผลงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศจำนวน 38 ผลงาน นอกจากนี้ยังได้คัดเลือกผลงานชนะเลิศที่สุดในแต่ละสาขาๆ ละ 1 รางวัล จาก 4 สาขา ได้แก่ 1.รางวัลนริศรานุวัดติวงศ์ หรือรางวัลชนะเลิศสาขางานสร้างสรรค์ตามลักษณะงาน คือ ปราสาทสัจธรรม ของนายเล็ก วิริยะพันธุ์ 2.รางวัลคึกฤทธิ์ ปราโมช หรือ รางวัลชนะเลิศสาขาสื่อ คือ รายการคุณพระช่วย ของ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) 3.รางวัลเฟื้อ หริพิทักษ์ หรือรางวัลชนะเลิศสาขา คือ ศิลปะการแสดงสยามนิรมิต โดย บริษัท รัชดานิรมิต จำกัด และ 4.รางวัลอังคาร กัลยาณพงศ์ หรือรางวัลชนะเลิศสาขาสืบทอดทางวัฒนธรรม คือ โคมไฟไม้ไผ่ตั้งพื้น งานเกลียวกลับ ไลน์ และโคมไฟโค้งกุหลาบ โดยนายกรกต อารมย์ดี
“ผลงานที่รับรางวัลดังกล่าว ถือว่ามีความโดดเด่นในเชิงความคิดสร้างสรรค์ สามารสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้แก่สังคมไทย สื่อถึงความเป็นไทย ประเพณี ภูมิปัญญา รวมทั้งยังเป็นผลงานที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจ และเป็นที่ยอมรับในสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยแผนการดำเนินงานตามโครงการเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ทางรัฐบาลเตรียมสนับสนุนอีก 4 โครงการหลัก คือ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา สร้างระบบเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้แก่สถาบันการศึกษา กระตุ้นทุกภาคส่วนให้การสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และ สนับสนุนธุรกิจ-อุตสาหกรรม โดยเป็นความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน” นายกรัฐมนตรีกล่าว