ดีไซน์เรียบ หรู และอลังการ มาพร้อมการใช้งานอเนกประสงค์ นี่เป็นจุดเด่นของเครื่องหนัง แบรนด์ doys-shop (ดอยส์-ชอป) จากฝีมือของนักออกแบบหนุ่มอย่าง “ดอยธิเบศร์ ดัชนี” ซึ่งผลงานทุกชิ้นล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และมีเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัว
จุดเด่นประการแรก คือ การเพิ่มคุณค่า และสร้างการจดจำให้แก่ตัวผลิตภัณฑ์ จากลายฉลุที่ตอกและเจาะลงบนผืนหนัง โดยคิดลายขึ้นเองทั้งหมด มีความละเอียดประณีต ที่สำคัญเป็นงานทำมือล้วนๆ แสดงให้เห็นถึงฝีมือและความประณีตของช่าง และยังตัดปัญหาการลอกเลียนแบบไปได้
เจ้าของไอเดีย เสริมว่า ส่วนใหญ่เครื่องหนังที่ใช้ลูกเล่นเจาะฉลุ จะเจาะเพียงไม่กี่รูเท่านั้น และเป็นลายไม่ซับซ้อนนัก เนื่องจากการเจาะรูเล็กๆ และถี่ๆ เพื่อให้ได้ลายละเอียด ต้องทำด้วยมือเท่านั้น ไม่สามารถใช้เครื่องจักรเจาะลายได้ เพราะจะทำให้หนังฉีกขาด ดังนั้น กว่าจะเสร็จแต่ละลายต้องใช้เวลานาน และต้องทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญสูง
ไม่เพียงแค่ลายฉลุที่สะท้อนถึงความประณีต อีกจุดเด่นประการสำคัญ คือ ออกแบบให้สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเน้นออกแบบให้เป็นกระเป๋าที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ อย่างดีไซน์กระเป๋า รุ่น Ultimo Combo สามารถพลิกแพลงรูปแบบเป็นได้ทั้งกระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ กระเป๋าแบบพับหลีบ กระเป๋าคาดเอว เป็นต้น อีกทั้ง ยังแยกส่วนถอดประกอบออกมาเป็นกระเป๋าเงิน และกระเป๋าใส่เศษสตางค์ได้อีกด้วย
หรืออย่างกระเป๋า รุ่น Doys shopping Bag จะเป็นกระเป๋าหนังผสมแคนวาส สามารถปรับรูปทรงได้ถึง 3 ลักษณะ และสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ยังไม่กาง จึงเหมาะจะใช้ได้ในหลายโอกาส และใช้ได้ทั้งชายและหญิง
“การสร้างแบรนด์ของผม ต้องการให้เครื่องหนังมีบุคลิกที่ภายนอกดูเรียบหรู คลาสสิก และเมื่อได้ใช้แล้ว จะสัมผัสได้ถึงความพิเศษที่แฝงไว้ข้างใน โดยเฉพาะการออกแบบให้แปลงร่างได้ เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความประหลาดใจ สนุกสนาน ขณะเดียวกัน รู้สึกคุ้มค่า ยอมที่จะจ่ายในราคาสูง เพื่อแลกกับคุณภาพดี” ดอยธิเบศร์ เผย
ด้านวัสดุคัดเลือกเฉพาะเกรดที่ดีที่สุด อย่างหนังเจาะจงเป็นหนังวัวแท้ เกรดเอ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ซิป กระดุม ฯลฯ เป็นทองเหลืองสั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ ขณะที่กระบวนการประดิษฐ์ จะมอบหมายให้ช่างแต่ละคน ทำทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวคนเดียว ซึ่งจะได้งานที่ละเอียดประณีตมากกว่าการผลิตแบบโรงงานที่ช่างแต่ละคนจะทำแค่หน้าที่เดียว
ทั้งนี้ วางตำแหน่งสินค้ามุ่งลูกค้าตลาดบน โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ และผู้ที่รักงานดีไซน์ ระดับราคาสินค้า เริ่มต้นที่หลักร้อยถึงสูงสุดประมาณ 9 พันบาท มีสินค้าราว 10 ประเภท เช่น พวงกุญแจ สายหนังคล้องคอ กระเป๋าเงิน กระเป๋าสะพาย สมุด organizer ชุดแต่งกายตุ๊กตาหมี เป็นต้น แต่ละแบบมีให้เลือกหลายสี และคงเอกลักษณ์เจาะลายฉลุ พ่วงฟังก์ชั่นการใช้งานอเนกประสงค์ไว้ทั้งหมด โดยช่องทางตลาดวางที่ห้าง King Power และผ่านอีคอมเมิร์สที่เว็บไซต์ www.doys-shop.com
สำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องหนัง doys-shop นั้น ดอยธิเบศน์ เล่าจุดเริ่มต้นว่า เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว จากเดิมทำงานด้านศิลปะ กับงานออกแบบต่างๆ อยู่แล้ว และอยากลองทำงานเครื่องหนังดูบ้าง ซึ่งถือเป็นความแปลกใหม่ ได้ท้าทายความสามารถด้านการออกแบบของตัวเอง
“เมื่อก่อนเวลาผมเห็นสมุด organizer ก็จะรู้สึกว่า มันทำง่ายๆ แค่เป็นสมุดโน้ตปกหนัง รู้สึกคันไม้คันมืออยากลองทำบ้าง แต่พอลงมือทำจริงๆ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งผมจะมีนิยามส่วนตัวว่า ถ้าจะทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้น ทุกขั้นตอนจะผ่านกระบวนการความคิดและทดลองจนได้สิ่งที่ผมคิดว่าดีที่สุด” ดอยธิเบศร์ เผย และเล่าต่อว่า
กว่าสินค้าจะสำเร็จออกสู่ตลาด ใช้เวลาศึกษาข้อมูล และลองผิดลองถูกนานถึง 2-3 ปี โดยใช้เงินทุนไปกว่า 5 ล้านบาท ผลงานชิ้นแรกเป็นสมุด organizer หลังจากนั้น ต่อยอดเป็นสินค้าอื่นๆ ตามมาจนถึงปัจจุบัน โดยกลุ่มลูกค้าแทบทั้งหมดจะมาจากบอกปากต่อปาก โดยเป็นชาวต่างชาติ ราว 60% และคนไทย 40%
เนื่องจากสินค้าของ doys-shop มีความละเอียดประณีตสูงมาก ขณะที่ช่างทำ มีแค่ 5 คน จึงยังมีข้อจำกัดไม่สามารถจะทำในปริมาณมากๆ ได้ โดยเฉลี่ยต่อเดือนทำกระเป๋าได้เพียง 20 ใบเท่านั้น ไม่พอต่อความต้องการของตลาด
“ผมตั้งใจแต่แรก อยากจะพาสินค้าไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้จริงจัง พิสูจน์ให้เห็นว่า เราสามารถทำกระเป๋าคุณภาพดีไม่แพ้แบรนด์เนม ซึ่งในอนาคตเมื่อแบรนด์มีความแข็งแรงกว่านี้ และผมมีความพร้อมในทุกๆ ด้านแล้ว ผมตั้งใจจะเปิดร้านหรือหาตัวแทนขายในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ฯลฯ เพื่อจะทำให้คนที่ถือกระเป๋า doys-shop แล้วรู้สึกภูมิใจจริงๆ ไม่จำเป็นต้องถือเฉพาะของนอกแบรนด์เนมเท่านั้น” ดอยธิเบศร์ กล่าว
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.0-2526-1033 หรือ www.doys-shop.com