รมว. พาณิชย์ ฉลองครบรอบ 59 ปี ด้วยสองกิจกรรมสำคัญ เปิดตัว สำนักงานส่งเสริมธุรกิจ SMEs เพื่อการส่งออก และลงนามความร่วมมือกับองค์กรส่งเสริมการค้า JETRO และยักษ์ใหญ่ออนไลน์ ราคุเท็น อิงค์ รวมถึง เว็บไซต์ตลาดดอทคอม เว็บไซต์ในเครือดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อปูทางด้านการตลาดในสังคมออนไลน์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เผยหน้าที่หลักของสำนักฯ มุ่งเน้นการสร้างSMEs หน้าใหม่เข้าสู่ภาคการส่งออก
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้ทำการเปิดตัว สำนักส่งเสริมธุรกิจ SMEs เพื่อการส่งออก (Office of SMEs Support Soloution) โดยสำนักฯแห่งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อช่วยเหลือและสร้างผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่เข้าสู่ภาคการส่งออก และการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกลไกผลักดันการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า การส่งออกรวมของประเทศ และสำนักฯยังเป็นตัวประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันช่วยพัฒนา และให้ความรู้ด้านต่างๆ อาทิ กฎเกณฑ์การส่งออก สิทธิประโยชน์ด้านภาษี แนวโน้มการตลาดและอื่นๆ
โดยการเปิดศูนย์ดังกล่าว ยังได้จัดให้มีกิจกรรมลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการตลาดที่สำคัญในต่างประเทศ ระหว่างองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น JETRO และยักษ์ใหญ่ออนไลน์ ราคุเท็น อิงค์ ที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก รวมถึง www.tarad.com เว็บไซต์ในเครือที่ดำเนินธุรกิจในไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น และตลาดโลก
สำหรับในส่วนของราคุเท็น กรุ๊ป เป็นเว็บไซต์ญี่ปุ่นที่มีเครือข่ายในหลายประเทศทั่วโลก มีสมาชิกในญี่ปุ่น 35,000 ราย และมีการซื้อขายสินค้าปีละกว่า 300,000 ล้านบาท มีผู้เข้าเลือกซื้อและชมสินค้าถึง 26 ล้านคน สำหรับในประเทศไทยผู้บริโภคสามารถหาชมและสั่งซื้อผ่านทาง www.tarad.com ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกัน
ด้านประธาน JETRO กล่าวว่า ผู้บริโภคญี่ปุ่นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับคุณภาพของสินค้า ดังนั้น สินค้าที่ทางกรมฯ คัดเลือกมาจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์นี้ ก็เท่ากับเป็นการให้การรับรองคุณภาพ และความร่วมมือกับ JETRO เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการ และช่วยผลักดันให้สินค้าไทยยกระดับชั้นเป็นเวิล์ดคลาสในไม่ช้า
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้ทำการเปิดตัว สำนักส่งเสริมธุรกิจ SMEs เพื่อการส่งออก (Office of SMEs Support Soloution) โดยสำนักฯแห่งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อช่วยเหลือและสร้างผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่เข้าสู่ภาคการส่งออก และการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกลไกผลักดันการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า การส่งออกรวมของประเทศ และสำนักฯยังเป็นตัวประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันช่วยพัฒนา และให้ความรู้ด้านต่างๆ อาทิ กฎเกณฑ์การส่งออก สิทธิประโยชน์ด้านภาษี แนวโน้มการตลาดและอื่นๆ
โดยการเปิดศูนย์ดังกล่าว ยังได้จัดให้มีกิจกรรมลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการตลาดที่สำคัญในต่างประเทศ ระหว่างองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น JETRO และยักษ์ใหญ่ออนไลน์ ราคุเท็น อิงค์ ที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก รวมถึง www.tarad.com เว็บไซต์ในเครือที่ดำเนินธุรกิจในไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น และตลาดโลก
สำหรับในส่วนของราคุเท็น กรุ๊ป เป็นเว็บไซต์ญี่ปุ่นที่มีเครือข่ายในหลายประเทศทั่วโลก มีสมาชิกในญี่ปุ่น 35,000 ราย และมีการซื้อขายสินค้าปีละกว่า 300,000 ล้านบาท มีผู้เข้าเลือกซื้อและชมสินค้าถึง 26 ล้านคน สำหรับในประเทศไทยผู้บริโภคสามารถหาชมและสั่งซื้อผ่านทาง www.tarad.com ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกัน
ด้านประธาน JETRO กล่าวว่า ผู้บริโภคญี่ปุ่นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับคุณภาพของสินค้า ดังนั้น สินค้าที่ทางกรมฯ คัดเลือกมาจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์นี้ ก็เท่ากับเป็นการให้การรับรองคุณภาพ และความร่วมมือกับ JETRO เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการ และช่วยผลักดันให้สินค้าไทยยกระดับชั้นเป็นเวิล์ดคลาสในไม่ช้า
