ปฏิวัติอีคอมเมิร์ชไทย!! "ตลาดดอทคอม"เต็มใจให้ลอก

"ตลาดดอทคอม"ผ่าทางตันธุรกิจเช่าร้านออนไลน์ไม่โต ดึง"รากุเทน"ยักษ์ใหญ่ปลาดิบร่วมทุนเปิดตัวร้านออนไลน์รูปแบบใหม่หวัง 5 ปีขึ้นเบอร์หนึ่งในไทย ให้ตัวช่วยพร้อมแนะนำร้านค้าเต็มที่เพื่อดันยอดขายไปด้วยกัน มั่นใจทุกฝ่ายได้ประโยชน์เพราะตลาดฯรับทรัพย์เพิ่ม-ร้านค้าขายได้-ผู้ซื้อยิ้มออก การันตีเงินลงทุนเยอะไม่ต้องห่วง ประกาศเต็มใจให้รายอื่นทำตามเพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดดอทคอม จำกัด ให้สัมภาษณ์หลังการเปิดตัวรูปลักษณ์และคุณสมบัติใหม่ของร้านค้าบนเว็บไซต์ตลาดดอทคอมด้วยความมั่นใจว่า การนำระบบและคุณสมบัติใหม่ที่ประสบความสำเร็จงดงามในตลาดญี่ปุ่นมาใช้ในเว็บไซต์ตลาดดอทคอม จะช่วยแก้ไขจุดอ่อนที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยมีมาโดยตลอด ทั้งในส่วนผู้ค้า ผู้ซื้อ และผู้สร้างเทคโนโลยี

"จุดต่างของระบบใหม่ในตลาดดอทคอมและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทั่วไปมีหลายมุม หนึ่งคือผู้ซื้อ เรารับประกันการส่งสินค้า หากไม่ได้รับคืนเงินให้เลยสูงสุด 50,000 บาทตามแต่กรณี ระบบชำระเงินก็ง่ายขึ้นและมั่นใจได้ สองคือผู้ขาย ในอนาคตเราจะเพิ่มระบบ เพิ่มเทคโนโลยีขึ้นมาวิเคราะห์เพื่อช่วยเหลือการจัดการร้านให้มากขึ้น ตอนนี้เรียกว่าสิวๆ รับรองว่าจะขนฟีเจอร์มากมายมาให้ อีกจุดคือ ECC (E-Commerce Consultant) ที่ปรึกษาผู้ค้าออนไลน์ที่จะเหมือนเป็นเพื่อนให้คำปรึกษาผู้ค้า ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่มีใครเหมือน เว็บอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่คุณโตคุณตายก็เรื่องของคุณ นี่เองที่ทำให้เราตัดสินใจร่วมมือกับรากุเทน"

ระบบใหม่ของตลาดดอทคอมนั้นจะเกิดขึ้นในส่วนพรีเมียมมอลล์ เป็นส่วนที่แยกต่างหากจากส่วนพลาซ่า (พลาซาคือส่วนที่ตลาดเปิดให้ผู้ค้ารายย่อยสามารถเช่าร้านบนตลาดดอทคอมได้ตามอิสระ โดยสามารถเลือกทั้งแบบฟรีและเสียแพคเกจค่าบริการตามคุณสมบัติ) จุดนี้ภาวุธระบุว่า ตลาดดอทคอมจะเปิดกว้างให้ผู้ค้าทุกขนาดสามารถเป็นส่วนหนึ่งของพรีเมียมมอลล์ได้ขอเพียงไม่ได้จำหน่ายสินค้าผิดกฏหมาย โดยตลาดดอทคอมและผู้ค้าพรีเมียมมอลล์จะมีการเจรจาถึงเงื่อนไขการรับประกันความเชื่อมั่นต่างๆ และมีสิทธิรับบริการ ECC หรือไม่ก็ได้

"การการันตีสินค้าเราจะคุยกับผู้ค้าก่อน ว่าเป็นกฏของร้านเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ขณะเดียวกันเราจะเป็นตัวกลางในการชำระเงินโดยเก็บเงินไว้ที่เราระยะหนึ่ง เราจะทำให้ผู้ค้ามั่นใจว่าเงินไม่หาย เราจะเช็กว่าได้เงินแล้วจึงแจ้งให้ร้านส่งของ ส่วน ECC ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มตามแพลตฟอร์ม แต่จะคิดส่วนแบ่งเมื่อขายสินค้าได้เท่านั้น"

ภาวุธระบุว่าส่วนแบ่งที่ตลาดดอทคอมจะคิดนั้นอยู่ที่ราว 4-6% ซึ่งเป็นอัตราก้าวหน้าที่มองว่าเป็นธรรมกับผู้ค้า โดยในช่วงปีแรกจะเน้นดึงร้านค้าในส่วนพลาซ่าที่มีจำนวนราว 180,000 ร้านค้าในขณะนี้ มาเป็นสมาชิกพรีเมี่ยมมอลล์ให้มากขึ้น ร่วมกับการดึงผู้ค้ารายใหม่ที่ยังไม่เคยมีร้านกับตลาดดอทคอมมาก่อน โดยจำนวนร้านค้าพรีเมี่ยมยังมีหลักร้อยเนื่องจากเพิ่งเริ่มโครงการเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา

นัยสำคัญของการหักเปอร์เซ็นต์จากการขาย 4-6% นี้คือการเพิ่มรายได้ให้ตลาดดอทคอม ตรงนี้ภาวุธยอมรับว่าการหวังให้ธุรกิจเติบโตจากบริการเช่าร้านออนไลน์อย่างเดียวนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะเช่าพื้นที่ออนไลน์ในแพคเกจราคาต่ำ ไม่สนฟีเจอร์ช่วยขายที่จะทำให้ค่าเช่าร้านแพงขึ้น

"ยอมรับว่าโมเดลนี้จะช่วยผลักดันให้ร้านค้าหันมาใช้ระบบช่วยการขายหรือฟีเจอร์ในเว็บตลาดเพิ่มขึ้น เราบอกไม่ได้ว่าสัดส่วนการใช้งานฟีเจอร์ของร้านค้าในพลาซ่าเป็นเท่าไหร่ และไม่ได้ประเมินว่าหลังการเพิ่ม ECC เข้ามาจะทำให้มีการใช้งานฟีเจอร์ช่วยขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไร ตรงนี้เชื่อว่าโมเดล ECC เหมาะกับประเทศไทยมากและอีกไม่นานก็โดนก็อป แต่เอาเลย ผมเสียสละตัวเองไปร่วมทุนกับบริษัทญี่ปุ่น เพื่อเป็นกรณีศึกษาก่อน เราจะดึงภูมิปัญญาเมืองนอกเข้ามา และดึงคนไทยออกไปสู่ตลาดโลก ใครจะทำตามขอให้ตามเลย เรายินดี เพราะตลาดเมืองไทยใหญ่พอ"

การร่วมทุนที่ภาวุธพูดถึงนี้คือการขายหุ้นตลาดดอทคอมจำนวนกว่า 67% ให้บริษัทรากุเทน (Rakuten) ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยไม่เปิดเผยมูลค่า การร่วมทุนนี้ทำให้"โทชิยะ มัตซึโอะ"อดีตผู้บริหารรากุเทนได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานบริหารบริษัทตลาดดอทคอม ซึ่งมัตซึโอะระบุว่าส่วนแบ่งรายได้ระหว่างรากุเทนและตลาดดอทคอมนั้นไม่ใช่สาระสำคัญของการร่วมทุน แต่การเน้นขยายตลาดให้เป็นเบอร์หนึ่งในประเทศไทยนั้นสำคัญกว่า

"เราตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายให้ได้ 6,000 ล้านบาทใน 5 ปี มียอดรายการซื้อไม่ต่ำกว่า 3.5 ล้านทรานแซกชัน ดันให้ตลาดดอทคอมเป็นเบอร์หนึ่งในประเทศไทยให้ได้ งบประมาณลงทุนไม่สามารถบอกได้แต่ยอมรับว่าจะลงทุนให้มากที่สุด"

ภาวุธระบุว่าปลายปีนี้ตลาดดอทคอมจะเริ่มเปิดให้ร้านค้าไทยทำการค้าระหว่างประเทศกับร้านค้าในกลุ่มรากุเทนแบบเต็มตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะดันร้านค้าในตลาดดอทคอมให้แจ้งเกิดในประเทศอย่างญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน สหรัฐอเมริกา และทั่วโลก

ภาวุธทิ้งท้ายว่าอีคอมเมิร์ซประเทศไทยนั้นเติบโตต่อเนื่องไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร สินค้าขายดีตลอดกาลคือสินค้าผู้หญิง เช่น เสื้อผ้ากระเป๋าแฟชัน เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ และตลาดดอทคอมมีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ภายใน 5 ปีหลังจากที่สามารถเป็นเบอร์ 1 ในตลาดอีคอมเมิร์ซเมืองไทยแล้ว

"5 ปี ตลาด (ดอทคอม) เข้าตลาด (หลักทรัพย์) ชัวร์ครับ"

Company Relate Link :
TARAD