บีโอไอ เผยปี 2553 เอสเอ็มอีไทยยื่นขอลงทุน 147 โครงการ เพิ่มขึ้น 12 เท่า รวมเงินทุน 2,592 ล้านบาท กิจการที่ลงทุนเป็นการผลิตถนอมอาหาร สิ่งปรุงแต่ง ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร พลาสติก ตั้งเป้าลงทุนปี 2554 ไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท ยังคงเน้นไปที่อาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน ไฟฟ้า อิเลกทรอนิกส์
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในปี 2553ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 147 โครงการ มูลค่าเงินทุนรวม 2,592ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 12 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมเพียง11 โครงการ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกิจการผลิตถนอมอาหาร สิ่งปรุงแต่งอาหารที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย กิจการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะ รวมทั้งชิ้นส่วนโลหะกิจการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ และกิจการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก หรือเคลือบด้วยพลาสติก
"นโยบายส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอีที่ปรับปรุงใหม่นี้ สะท้อนให้เห็นว่านโยบายส่งเสริมการลงทุนแก่เอสเอ็มอีของบีโอไอเดินมาถูกทางแล้ว ช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มศักยภาพของเอสเอ็มอีไทย" นางอรรชกากล่าว
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในปี 2554คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 400,000ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2554 ได้แก่ อาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พลังงานไฟฟ้ารวมถึงปิโตรเคมี.
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในปี 2553ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 147 โครงการ มูลค่าเงินทุนรวม 2,592ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 12 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมเพียง11 โครงการ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกิจการผลิตถนอมอาหาร สิ่งปรุงแต่งอาหารที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย กิจการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะ รวมทั้งชิ้นส่วนโลหะกิจการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ และกิจการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก หรือเคลือบด้วยพลาสติก
"นโยบายส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอีที่ปรับปรุงใหม่นี้ สะท้อนให้เห็นว่านโยบายส่งเสริมการลงทุนแก่เอสเอ็มอีของบีโอไอเดินมาถูกทางแล้ว ช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มศักยภาพของเอสเอ็มอีไทย" นางอรรชกากล่าว
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในปี 2554คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 400,000ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2554 ได้แก่ อาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พลังงานไฟฟ้ารวมถึงปิโตรเคมี.