"ดีเอฟเอ็ม" รุกหนักขยายตลาดเข้าถึงทุกธุรกิจ SMEs และแฟรนไชส์ ร่วมสร้างโอกาส และอาชีพแก่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ส่งรถร้านค้าเคลื่อนที่เข้าร่วมงาน “ Makro HoReCa 2010" หวังเจาะตลาดลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจโรงแรมร้านอาหารและจัดเลี้ยง รวมถึงพันธมิตรทางการค้าห้างแม็คโคร
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย รถกระบะเอนกประสงค์ดีเอฟเอ็ม เปิดเผยว่า จากโครงการ “แม็คโคร มิตรแท้โชห่วย” ที่ ดีเอฟเอ็ม ได้ร่วมจัดทำรถมินิมาร์ทเคลื่อนที่ เพื่อเป็นการต่อยอดให้กับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโดยผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร แฟรนไชส์ หรือแม้แต่บุคคลทั่วไป ซึ่งดีเอฟเอ็มได้ทำตลาดโดยเข้าร่วมงาน “มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 5” หรือ Makro HoReCa 2010 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคม 2553 ณ ฮอลล์ 2-3 อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อเป็นโอกาสของผู้สนใจ ในการนำรถดังกล่าวไปต่อยอดธุรกิจ ส่งเสริมธุรกิจเคลื่อนที่แบบมีรูปแบบ และขยายโอกาสช่องทางการขายใหม่ๆไปยังผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง ไปจนถึงพันธมิตรทางการค้าของแม็คโคร
สำหรับรูปแบบ และค่าใช้จ่ายในการลงทุนนั้น รถร้านค้ากาแฟเคลื่อนที่ (Coffee Mobile Truck) มีราคาเริ่มต้นที่ 385,000 บาท รถอาหารเคลื่อนที่ (Fast Food Mobile Truck)ราคาเริ่มต้นที่ 385,000 และ รถกระบะ 1.1L LPG-MPI ราคาเริ่มต้นที่ราคา 285,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท DFM ยินดีให้คำปรึกษา และจัดทำแบบตามความต้องการของลูกค้า
สำหรับจุดขายของรถกระบะอเนกประสงค์ดีเอฟเอ็ม คือ ราคารถที่ไม่แพง การลงทุนอยู่เพียงหลักหมื่น งวดผ่อนแค่หลักพัน จึงทำให้ธุรกิจมีต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับการเช่าพื้นที่หรือร้านค้าทั่วไปที่ต้องวางเงินมัดจำ และ ลงทุนตกแต่งหน้าร้าน
“ต้นทุนของเราคือ ค่าน้ำมัน ซึ่งเรามีระบบก๊าซ LPG หรือ CNG มากับตัวรถทำให้ค่าใช้จ่ายต่ำ รวมทั้งต้นทุนการบำรุงรักษา ค่าบริการและราคาอะไหล่มีราคาไม่แพงจึงทำให้ผู้ใช้หายห่วง เรื่องค่าบำรุงซ่อมแซมจากการใช้รถทุกวันเพื่อขายสินค้า นอกจากนี้ยังได้โฆษณาไปในตัวด้วยเพราะรถที่ตกแต่งไม่เหมือนใครย่อมเป็นที่จับตามองของประชาชนทั่วไป”
นายพิทยา กล่าวต่อว่า ทางบริษัทจะดำเนินการทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ในการโปรโมทให้คนหันมาสนใจจุดเด่นของรถกระบะดีเอฟเอ็มในแง่มุมของการประหยัดต้นทุนในธุรกิจ และขนส่ง โดยวางงบจัดกิจกรรมส่งเสริม กระตุ้นการขายในปีนี้ไว้ประมาณ 30 ล้านบาท