xs
xsm
sm
md
lg

เทียนดอกไม้ขั้นไฮคลาส ย้ำคุณภาพ โตสวนวิกฤตทรุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในยุคที่ไม่ใช่ขาขึ้นของผลิตภัณฑ์เทียนหอมแฟนซี อีกทั้ง เศรษฐกิจโลกหดตัว ลูกค้าต่างชาติลดการสั่งซื้อ กระทบผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เทียนอย่างรุนแรง ไม่กี่รายที่จะฝ่าวิกฤตไปได้ แต่แบรนด์ “Blooming Bliss” เป็นหนึ่งในนั้น และไม่เพียงเอาตัวรอดมาได้เท่านั้น แต่ธุรกิจกลับโตสวนกระแส อะไรคือ เคล็ดลับ “กัณฑ์พัฒน วงศ์ศิริกุล” เจ้าของธุรกิจ มาเฉลยและเล่าประสบการณ์ให้ฟัง…
กัณฑ์พัฒน วงศ์ศิริกุล
“คุณภาพ และคุณภาพ” เขากล่าว และย้ำว่า เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ที่พยายามทำ และสั่งสมมายาวนานนับ 10 ปีตั้งแต่เริ่มธุรกิจเมื่อปี พ.ศ. 2541 ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจ และกลายมาเป็นขาประจำ

กัณฑ์พัฒน ขยายความต่อว่า คุณภาพที่กล่าวถึง หมายรวมตั้งแต่วัตถุดิบทุกอย่างเลือกเกรดที่ดีที่สุด ผ่านมาตรฐานสากล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตรงกับความต้องการของตลาดต่างชาติที่ให้ความใส่ใจด้านสุขภาพและความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้ง สูตรการผสมเทียนที่เป็นเคล็ดลับเฉพาะตัว ทำให้เทียนที่ผลิตขึ้น สามารถเผาไหม้ได้หมดจด เช่น เทียนในถ้วยเล็กๆ จุดได้นานถึงกว่า 4 ชั่วโมง ขณะที่เทียนราคาถูก จุดได้นานเพียงประมาณ 10 นาที
ทำเป็นของชำร่วยสำหรับพิธีแต่งงาน
เช่นเดียวกับสีที่ใช้ทาตกแต่งเทียน สามารถคงความสดใส อยู่ทนนานไม่จืดจางอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป แม้แต่ไส้เทียนยังต้องทอเอง และการประดิษฐ์เป็นแรงงานฝีมือที่ผ่านการอบรมอย่างดี และมีระบบตรวจสอบคุณภาพ เพื่อมั่นใจว่า สินค้าทุกชิ้นออกมาจะได้คุณภาพดีที่สุด


“ผมกล้ายืนยันได้ว่า ทุกวันนี้ ตลาดเทียนส่งออกของไทยซบเซาลงมาก ไม่เหมือนเมื่อ 5-6 ปีก่อน ปัญหาสำคัญเกิดจากผู้ผลิตตัดราคาแข่งกันเอง เมื่อต้องขายถูก ก็ต้องไปลดต้นทุนวัตถุดิบ ยิ่งมีสินค้าจีนมาแย่งตลาด คุณภาพสินค้าเลยแย่ตามๆกันไป ขณะที่ผมเลือกจะรักษาคุณภาพของตัวเองไว้ ไม่ลงไปแข่งในตลาดล่าง พยายามบอกตัวเองเสมอว่า ทำดีเข้าไว้ เดี๋ยวลูกค้าดีๆ จะมาเอง ซึ่งในความเป็นจริงมันยากนะครับ เพราะช่วงตลาดบูม มีออเดอร์ใหญ่เข้ามาเยอะมาก แต่ถ้าโลภอยากได้เงินไปรับผลิตโดยไม่ดูศักยภาพตัวเอง เร่งผลิต คุณภาพมันก็จะแย่ลงไป ผมเลยเลือกที่จะไม่ลดเกรดสินค้าไปตาม ซึ่งถึงที่สุด คุณภาพที่เราพยายามรักษา มันช่วยให้ลูกค้ามั่นใจ ปีที่แล้วที่ลูกค้าจำเป็นต้องลดปริมาณซื้อลง เขาจะเลือกเฟ้นซื้อเฉพาะจากผู้ผลิตที่ไว้ใจได้เท่านั้น ซึ่งขาประจำยังเลือกที่จะสั่งสินค้าจากผม”

ด้วยคุณภาพที่วางไว้ขั้นสูงสุด ดังนั้น กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกำหนดเป็นตลาดบนเท่านั้น และยังเสริมความแข็งแรงให้แก่สินค้า ด้วยการสร้างเอกลักษณ์เด่น เจาะจงผลิตเป็นรูปดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่มีดีไซน์เป็นของตัวเอง เน้นดอกไม้สากลสีสว่างสดใส อยู่ภายใต้บรรจุภัณฑ์สวยงามและหรูหรา ทั้งหมดมีรวมกว่าร้อยดีไซน์ ราคาขายปลีกประมาณ 10 – 30 ยูโร เมื่อหักต้นทุนทุกด้านแล้วจะเหลือกำไรสุทธิประมาณ 15%
ในโรงงานผลิต ที่ จ.นครนายก
“โดยเฉลี่ยราคาเทียนของผม จะสูงกว่าสินค้าจากจีน กว่า 30-50% แต่ด้วยกลุ่มลูกค้าของผม เป็น niche market จริงๆ ซึ่งกำลังซื้อสูงมาก ทำให้ด้านราคาแทบไม่มีผลกับลูกค้าของผมเลย เพราะเขาจะเลือกที่คุณภาพ และความพึงพอใจที่มีต่อสินค้า”

ช่องทางตลาดนั้น จะส่งออกต่างประเทศทั้งหมด ในยุคบุกเบิกธุรกิจ เน้นที่ตลาดสหรัฐฯ จากนั้น ไปประสบความสำเร็จอย่างสูงที่ยุโรป ลูกค้ารายใหญ่ที่สุด คือ รับจ้างดีไซน์และผลิต (Original Design Manufacturing : ODM) ให้ห้างแสดงสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม เมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา พยายามยกระดับจากเป็นผู้ผลิตแบบ ODM เท่านั้น มาสู่การสร้างแบรนด์ของตัวเองควบคู่กันไป ในชื่อ “Blooming Bliss”

เจ้าของธุรกิจ เผยว่า ปัจจุบัน มีฐานลูกค้ารายใหญ่ ที่สั่งออเดอร์เป็นประจำต่อเนื่องทุกปี ประมาณ 20 ราย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงธุรกิจ จำเป็นต้องเก็บรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้ดีที่สุด ขณะเดียวกัน พยายามเปิดหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เสมอ ผ่านการออกงานแฟร์ และในปีนี้ (2553) กำลังจะเริ่มทำตลาดในประเทศด้วย รวมถึง ลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจส่งออกทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายด้วยเงินหลากหลายสกุล และทำประกันภัยส่งออก เป็นต้น
พยายามบอกตัวเองเสมอว่า ทำดีเข้าไว้ เดี๋ยวลูกค้าดีๆ จะมาเอง ซึ่งในความเป็นจริงมันยากนะครับ เพราะช่วงตลาดบูม มีออเดอร์ใหญ่เข้ามาเยอะมาก แต่ถ้าโลภอยากได้เงินไปรับผลิตโดยไม่ดูศักยภาพตัวเอง เร่งผลิต คุณภาพมันก็จะแย่ลงไป ผมเลยเลือกที่จะไม่ลดเกรดสินค้าไปตาม ซึ่งถึงที่สุด คุณภาพที่เราพยายามรักษา มันช่วยให้ลูกค้ามั่นใจ
ในปีที่แล้ว แม้ผู้ส่งออกจำนวนมาก จะบ่นดังๆ ว่า ยอดขายตกต่ำ แต่สำหรับผู้ผลิตเทียนไฮคลาสรายนี้ กลับสวนกระแส ผลประกอบการ รวมยังไม่หักค่าใช้จ่าย สูงกว่า 8 หลัก และยังมีออเดอร์รอจ่อคิว จนผลิตไม่ทัน ต้องให้พนักงานทำพิเศษล่วงเวลาทุกวัน โดยการผลิตเวลานี้ มีโรงงานที่ จ.นครนายก แรงงานทั้งหมดราว 50 คน ผลิตในลักษณะหัตถอุตสาหกรรม กำลังผลิตต่อเดือน เทียนดอกไม้ชิ้นเล็กๆ ประมาณ 2 แสนชิ้น ส่วนเทียนดอกไม้ชิ้นใหญ่ ประมาณ 2 หมื่นชิ้น

เมื่อย้อนถามถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจ ไม่น่าเชื่อว่า เดิมเจ้าของธุรกิจคนนี้ เคยเป็นทั้งไกด์นำเที่ยวต่างประเทศ และมีกิจการรับเหมาก่อสร้างมูลค่าร้อยล้าน แต่ที่สุดประสบวิกฤตต้มยำกุ้ง จำเป็นต้องตั้งต้นหาอาชีพใหม่ จนได้ไอเดียจากภรรยาที่เปิดโรงเรียนสอนงานหัตถกรรม หนึ่งในนั้น คือ งานเทียน จากประสบการณ์เดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง มองเห็นโอกาสของธุรกิจ จึงเริ่มผลิตและออกงานแสดงสินค้าของขวัญของชำร่วยเพื่อการส่งออก เมื่อปี 2541 ซึ่งประสบความสำเร็จได้ออเดอร์ทันที จากนั้นค่อยๆ พัฒนาและเพิ่มทุนโดยได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มาเป็นทุนหมุนเวียน และก่อสร้างโรงงาน ช่วยให้ธุรกิจเติบโตมาโดยลำดับจนถึงปัจจุบัน

ท้ายสุด กัณฑ์พัฒน ระบุหัวใจของการทำธุรกิจส่งออก คือ ภาษาอังกฤษ ที่ไม่เพียงแต่ใช้ได้เท่านั้น แต่ต้องเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้ง เพราะจะมีผลอย่างสูงต่อ ทั้งการเจรจา และตอบโต้เอกสารธุรกิจ ต่อมา คือ ความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลาในการรับส่งสินค้า อีกทั้ง ควรนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้เหมาะสม และเหนือสิ่งอื่นใด คือ สินค้าคุณภาพดีที่ต้องรักษาไว้ตลอดไป

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

โทร.037-323-588 หรือ www.becrafts.co.th
กำลังโหลดความคิดเห็น