กรมส่งเสริมการส่งออก แนะผู้ส่งออกควรรู้เร่องมาตรการขอคืนภาษีส่งออก เชื่อจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และพร้อมแข่งขันกับต่างชาติ เตรียมเปิดอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการส่งออกเดือน ก.พ.นี้
นางศรีรัตน์ รัษฏปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึง มาตรการการขอคืนภาษีกับการนำมาใช้ประโยชน์ในภาคการส่งออกว่า การคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ เป็นสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการส่งออก ที่ภาครัฐให้การช่วยเหลือกับผู้นำเข้า-ส่งออก ในการที่จะคืนค่าภาษีอากรการนําเข้าให้กับผู้ที่นําเข้าสินค้าเพื่อมา ผลิต ผสม ประกอบ หรือบรรจุ ในการส่งออกตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ภาครัฐได้ให้ความสนใจและได้ดำเนินนโยบายให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในธุรกิจภาคการส่งออกเป็นอย่างมาก ดังนั้น มาตรการคืนภาษีที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ส่งออกและการอำนวยสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมการลงทุน ที่ให้แก่กิจกรรมที่ดำเนินการผลิตสินค้าและให้บริการเพื่อการส่งออก เป็นวิธีการหนึ่งที่ภาครัฐใช้เป็นเครื่องมือในการให้การส่งเสริมและสนับสนุน
“ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากยังไม่รู้เกี่ยวกับข้อมูลเรื่องการคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ และการชดเชยค่าภาษีอากร ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการได้มีโอกาสรับรู้และเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้ว จะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง สามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลงได้ส่วนหนึ่ง อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ในการแข่งขันธุรกิจของไทยในตลาดต่างประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย” อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกกล่าว
ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้มอบหมายให้ สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการพัฒนาผู้ประกอบการส่งออกทั้งรายใหม่และรายเดิมให้มีขีดความสามารถแข่งขันกับนานาประเทศ จัดโครงการฝึกอบรม “เจาะลึกการคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ และการชดเชยค่าภาษีอากร” ขึ้น ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้รับความรู้ในรายละเอียดเกี่ยวกับการขอคืนค่าภาระภาษีอากร สำหรับวัตถุดิบนำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก และค่าธรรมเนียมภาษีอื่นๆ รวมทั้งการขอคืนเงินค่าภาษีอากรที่อยู่ในต้นทุนการผลิตสินค้าส่งออก ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
นางศรีรัตน์ รัษฏปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึง มาตรการการขอคืนภาษีกับการนำมาใช้ประโยชน์ในภาคการส่งออกว่า การคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ เป็นสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการส่งออก ที่ภาครัฐให้การช่วยเหลือกับผู้นำเข้า-ส่งออก ในการที่จะคืนค่าภาษีอากรการนําเข้าให้กับผู้ที่นําเข้าสินค้าเพื่อมา ผลิต ผสม ประกอบ หรือบรรจุ ในการส่งออกตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ภาครัฐได้ให้ความสนใจและได้ดำเนินนโยบายให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในธุรกิจภาคการส่งออกเป็นอย่างมาก ดังนั้น มาตรการคืนภาษีที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ส่งออกและการอำนวยสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมการลงทุน ที่ให้แก่กิจกรรมที่ดำเนินการผลิตสินค้าและให้บริการเพื่อการส่งออก เป็นวิธีการหนึ่งที่ภาครัฐใช้เป็นเครื่องมือในการให้การส่งเสริมและสนับสนุน
“ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากยังไม่รู้เกี่ยวกับข้อมูลเรื่องการคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ และการชดเชยค่าภาษีอากร ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการได้มีโอกาสรับรู้และเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้ว จะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง สามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลงได้ส่วนหนึ่ง อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ในการแข่งขันธุรกิจของไทยในตลาดต่างประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย” อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกกล่าว
ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้มอบหมายให้ สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการพัฒนาผู้ประกอบการส่งออกทั้งรายใหม่และรายเดิมให้มีขีดความสามารถแข่งขันกับนานาประเทศ จัดโครงการฝึกอบรม “เจาะลึกการคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ และการชดเชยค่าภาษีอากร” ขึ้น ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้รับความรู้ในรายละเอียดเกี่ยวกับการขอคืนค่าภาระภาษีอากร สำหรับวัตถุดิบนำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก และค่าธรรมเนียมภาษีอื่นๆ รวมทั้งการขอคืนเงินค่าภาษีอากรที่อยู่ในต้นทุนการผลิตสินค้าส่งออก ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
