อาหารญี่ปุ่นถือเป็นอาหารที่ครองใจคนไทยไว้ได้ไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าเป็นช่วงแรกที่เมนูอาหารญี่ปุ่นทำให้คนไทยต้องใช้เวลา และระดมเมนูที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ราเมน อาหารทอด ข้าวปั้น และอาหารประเภทปิ้งย่าง ให้คนไทยได้เลือกสรร จนมาวันนี้คนไทยเริ่มคุ้นเคยอาหารญี่ปุ่นกันเป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เจาะจงประเภทอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเริ่มมีมากขึ้นหวังเอาใจผู้บริโภค
และหนึ่งในนั้นคือร้านอาหารญี่ปุ่น “AKA” (อากะ) ที่ถึงแม้ชื่อร้านจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เจ้าของธุรกิจเป็นคนไทย 100% คือ สุภาเจษฐ (แอน) และชิตพล (โบ๊ท) วิวัฒนาเกษม เจ้าของร้าน ที่เป็นคนรุ่นใหม่รักการทำอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ โดยสุภาเจษฐถึงกับไปเรียนการทำอาหารด้านนี้โดยตรง พร้อมกับมองหาช่องว่างทางการตลาดในไทย ว่ายังขาดในเรื่องใด สุดท้ายมาลงตัวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทปิ้งย่าง และอาหารจานร้อน ที่เน้นการคัดสรรวัตถุดิบเกรดเอ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่นำมาย่าง เพราะหากได้เนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ เนื้อนุ่ม ก็หมายถึงการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอาหารประเภทปิ้งย่างไปกว่าครึ่ง เนื่องจากคุณสมบัติของเนื้อที่มีของดีอยู่ในตัว
“ก่อนที่เราจะตัดสินใจเปิดร้าน AKA ก็ศึกษาวัฒนธรรม สูตรอาหาร ที่บางเมนู ต้องเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้น ตามรสนิยมของคนไทยรวมถึงการเลือกเฟ้นอุปกรณ์สำหรับการรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่างและชาบู เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งเราได้เลือกนำเข้าเตาถ่านคุณภาพเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความปลอดภัยสูง และมีระบบดูดควันที่มีประสิทธิภาพ โดยลูกค้าไม่ต้องกังวลในเรื่องของกลิ่นควัน ที่อาจจะติดตัวออกไป เพราะจะมีน้อยมาก ซึ่งลูกค้าสามารถไปทำธุระต่อได้ ในขณะถ่านที่นำมาใช้ก็เป็นถ่านที่ให้ความร้อนสม่ำเสมออยู่ได้นานประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง โดยเป็นถ่านที่ผลิตในประเทศและส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นด้วย”
สำหรับจุดเด่นของวัตถุดิบหลักอย่างเนื้อสัตว์ที่นำมาให้บริการกับลูกค้านั้น ทางร้านได้คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดี เช่น เนื้อวัว จะใช้เนื้อโกเบ และเนื้อวากิว โดยเป็นเนื้อที่เกิดจากการนำพันธุ์วัวจากประเทศญี่ปุ่น นำไปเลี้ยงที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งนำไขมันน้อยกว่าเนื้อโกเบ ในขณะที่เนื้อหมู จะเลือกชนิดปลอดสาร ทั้งซี่โครงหมู คอหมู และเนื้อหมู ซึ่งทั้งเนื้อหมู และเนื้อวัวจะไม่มีการหมัก แต่จะใช้การราดซอสที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่มีรสชาติกลมกล่อม รวมถึงทางร้านยังมีคู่มือแนะนำการปิ้งเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานเนื้อสัตว์ที่อร่อย และใช้ระยะเวลาการย่างที่เหมาะสม ซึ่งอาหารที่ให้บริการในร้านมีทั้งอาหารชุดและบุฟเฟ่ต์ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล) ราคาเริ่มต้นอาหารชุดอยู่ที่ 130-250 บาท ส่วนบุฟเฟ่ต์คิดในราคาหัวละ 359 บาท ซึ่งขณะนี้มีโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่มา 5 ท่าน จ่ายเพียง 4 ท่าน ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2553 นี้อีกด้วย
“เราใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในการชิมอาหารประเภทปิ้งย่างทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยเฉพาะน้ำจิ้มซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของอาหารประเภทปิ้งย่าง ดังนั้นเราจึงใส่ใจเป็นพิเศษ รวมถึงเมนูใหม่ ก็มีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ เนื่องจากการเปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้ามีคู่แข่งเยอะ ที่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจไปรับประทานร้านอื่นได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากเมนูพัฒนา ยังเป็นเมนูเดิมๆ ลูกค้าอาจจะเบื่อหน่ายได้”
ปัจจุบันร้าน AKA มีสาขาในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าหลากหลายสาขา ได้แก่ สาขาCentral World (ไม่มีบุฟเฟ่ต์), พระราม 3, พระราม 2, แจ้งวัฒนะ, ปิ่นเกล้า, พัทยา, และจังหวัดขอนแก่น
***ติดต่อ
สาขา พระราม 3 โทร. 0-2673-5597
,สาขา Central World โทร. 0-2646-1364 และ 08-4752-1300***
