หลังจากที่ตลาดเก่า ได้รับความนิยมในกลุ่มของนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดการอนุรักษ์และฟื้นฟูตลาดเก่าในหลายพื้นที่ และสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับชื่อเสียงของตลาดเก่าเหล่านี้ ก็คือ ร้านโบราณที่อยู่คู่ตลาดมาหลายสิบปี เช่นเดียวกับ ร้านสามแม่ครัวเตาฟืน ที่ตลาดเก่าบ้านใหม่ 100 ปี อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ยังคงอนุรักษ์การทำกับข้าวด้วยเตาฟืน ด้วยฝีมือของสามแม่ครัวที่อายุรวมกันเฉียด 300 ปี
นางอำนวย รุ่งสะอาด แม่ครัวมือหนึ่งของร้านและเจ้าของตำนานร้านสามแม่ครัวเตาฟืน เล่าว่า ร้านสามแม่ครัวเตาฟืนเปิดให้บริการขายอาหารตามสั่ง มานานกว่า 80 ปี อยู่คู่กับตลาดบ้านใหม่มาตั้งแต่ตนเองจำความได้ และตกทอดมาจนถึงปัจจุบันก็เป็นรุ่นที่ 3 โดยที่ยังคงรูปแบบการทำอาหาร ซึ่งใช้เตาฟืนในลักษณะนี้มาตลอด
กลุ่มลูกค้าเป็นข้าราชการ และคนที่เดินทางมาซื้อของและต่อเรือที่ตลาดใหม่แห่งนี้ แต่ในระยะหลังประมาณสัก 50 ถึง 60 ปีที่แล้ว ความเจริญเริ่มเข้ามาถนนหนทางก็เริ่มมีมากขึ้น การใช้เรือโดยสารน้อยลงไป เพราะไม่สะดวกสบายเหมือนใช้รถ ทำให้เรือโดยสารถูกยกเลิกไป รวมถึงตลาดคนซื้อลดน้อยลงไปเรื่อย เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะมีทางเลือกในการไปซื้อของมากขึ้น มีตลาดนัดอยู่ทั่วไปทุกแห่ง ทำให้คนไม่มาซื้อของที่ตลาดทำให้คนขายของในตลาดเลิกกิจการไป
บางครอบครัวส่งลูกไปเรียน และไม่ได้กลับมาสืบทอดกิจการก็ต้องเลิกกิจการไปเช่นกัน ทำให้ตลาดบ้านใหม่แห่งนี้ปิดตัวไปโดยปริยาย จะเหลือร้านค้าเพียงไม่กี่แห่งรวมถึงร้านสามแม่ครัวเตาฟืนที่ยังคงยืนหยัด และขายได้มาตลอด ส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือการปรุงของสามแม่ครัว ที่ยังคงรสชาติเหมือนกับในยุคแรกอย่างคงเส้นคงวา รวมถึงเมนูอาหารหลายเมนูที่เป็นเมนูตั้งแต่สมัยรุ่นแรก ก็ยังคงไว้เช่นเดิม ทำให้ลูกค้าหลายคนที่ชื่นชอบเมนูอาหารในยุคอดีต ที่ไม่สามารถหาทานได้ในปัจจุบันก็ยังคงต้องแวะเวียนมาทานกันที่ร้านแห่งนี้
สำหรับเมนูที่ขึ้นชื่อของร้าน คือ ปลาช่อนผัดขึ้นฉ่าย ผักบุ้งผัดกะปิ ไส้หมู เป็ดพะโล้ ต้มยำกุ้ง ซึ่งเมนูเหล่านี้จัดได้ว่าเป็นเมนูโบราณที่อยู่คู่กับร้านมาตั้งแต่ยุคแรก และนอกจากยังคงรสชาติเมนูอาหารโบราณเดิมเอาไว้ ปัจจุบันได้มีการเพิ่มเมนูอาหารใหม่เข้ามาอีกทำให้ปัจจุบันมีเมนูให้ลูกค้าได้เลือกเกือบ 40 เมนู ในส่วนของการปรุงรสชาติ ยังคงใช้เครื่องปรุงแบบในอดีต ซึ่งจะไม่มีการใส่เครื่องปรุงรสแบบใหม่ที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนที่สร้างชื่อให้กับร้านในยุคที่ตลาดบ้านใหม่กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ในรูปแบบของการท่องเที่ยวย้อนยุคตลาดเก่า 100 ปี นอกจากรสชาติ คือ การยังคงใช้เตาฟืน และเสน่ห์ของการใช้เตาฟืนที่หลายคนติดใจและเมื่อมาตลาดเก่าต้องแวะมาชิมร้านนี้ เพราะรสชาติและกลิ่นอาหารที่ได้จากเตาฟืน ซึ่งการใช้เตาอื่นๆจะไม่ได้กลิ่นอาย และรสชาติของอาหารเหมือนกับการใช้เตาฟืน ซึ่งลูกค้าผู้ใหญ่จะชื่นชอบมาก ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เองก็ชื่นชอบ เพราะการรับประทานอาหารทำจากเตาฟืนอย่างนี้ไม่ได้มีให้กินกันง่าย บวกกับเมนูที่ย้อนยุค ช่วยเสริมให้ตลาดเก่าบ้านใหม่ดูมีมนต์ขลังน่าท่องเที่ยวและค้นหามายิ่งขื้น
ทั้งนี้ จากยอดขายจะเป็นเครื่องวัดได้ถึงรสชาติ เพราะปัจจุบันร้านสามแม่ครัวสามารถขายได้สูงสุดต่อวันอยู่ในหลักหมื่นบาท ในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ ในส่วนวันธรรมดายอดขายต่อวันประมาณ 5,000 บาทถึง 8,000 บาท โดยร้านจะเปิดขายข้างศาลเจ้าพ่อโกมินทร์ ทุกวันในตอนเที่ยงโต๊ะซึ่งมีอยู่ 6 ที่นั่ง รองรับลูกค้าได้ประมาณ 40 คนจะเต็มไปด้วยคนที่มารอนั่งทานอาหารเป็นอย่างนี้ทุกวัน โดยร้านสามแม่ครัวแห่งนี้ไม่เคยปิดร้าน จะเปิดขายอย่างนี้ทุกวันมานานกว่า 80 ปี ซึ่งในวันธรรมดาจะมีลูกค้ากลุ่มข้าราชการ พนักงานบริษัทแวะมาทานอาหารกลางวันหรือ ในตอนเช้าจะขายให้นักเรียน แวะมากินก่อนไปโรงเรียน เพราะขายราคาไม่แพง
สาเหตุที่เราต้องใช้เตาฟืนถึง 3 เตา ก็เพราะทางร้านมีลูกค้ารอคิวกันเป็นจำนวนมาก เตาเดียวจะไม่เพียงพอต่อการปรุงอาหารในแต่ละครั้ง และแต่ละเตาจะต้องร้อนตลอดเวลา พร้อมที่จะปรุงอาหารได้ตลอด ซึ่งเราเปิดร้านตั้งแต่เช้าก่อน 8 โมงทุกวัน โดยแต่วันจะใช้ฟืนจำนวนมาก และถ่านวันละ 1 กระสอบ ส่วนฟืนจะสั่งซื้อเป็นคันรถ จะเห็นว่าการใช้ฟืนไม่ได้ประหยัดต้นทุนมากไปกว่า การใช้เตาแก้ส แต่ที่ยังคงใช้เตาฟืน ส่วนหนึ่งมาจากเราถนัดตรงนี้ และต้องการอนุรักษ์รูปแบบเดิม ที่สำคัญคือ ลูกค้าขอให้เราใช้เตาฟืนอย่างนี้ในการปรุงอาหาร”
สนใจสามารถแวะไปทานกันได้ที่ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ในอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ห่างจากวัดหลวงพ่อโสธร เพียงไม่กี่กิโลเมตร วันเสาร์- อาทิตย์ ตลาดเก่าบ้านใหม่ จะมีสีสันและมีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะมีร้านค้าหลายร้านกลับมาเปิดขายกันอีกครั้ง นอกจากอาหารและของโบราณให้เลือกชิมและชอปกันแล้ว ตลาดเก่าแห่งนี้มีบริการเรือ สามารถล่องเรือเที่ยวได้