สสว. เผยผลสำรวจผู้ประกอบการหน้าใหม่ส่งท้ายปี 2552 พบผู้ประกอบการหน้าใหม่เพิ่มกว่า 2 แสนราย เหตุจากผลกระทบเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้มีคนตกงานเพิ่ม ต้องหันทำกิจการส่วนตัวเพิ่ม พร้อมกันนี้ สสว.เตรียมเสนอแนวคิดยกระดับแผงลอยตลาดสดที่ไม่ได้ลงทะเบียนกว่า 2 ล้านราย เข้าสู่ระบบเพื่อยกระดับมาตรฐาน ชี้ ไม่ได้เกี่ยวกับภาษีแต่อย่างใด
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิเคราะห์ และเตือนภัย SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)ทั่วประเทศ ในช่วงปี 2552 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รายใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้าน 6 แสนราย เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้าน 8 แสนราย สัดส่วนเอสเอ็มอีรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในระบบปีนี้ กว่า 2 แสนราย ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้มีคนตกงาน และหันมาเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่กันมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจจะเห็นผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดมากขึ้น ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องเลิกกิจการไป ยังอยู่ในสัดส่วนปกติประมาณ 50% ของผู้ประกอบการที่เกิดขึ้นใหม่
ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในปี 2552 จำนวน 2 ล้าน 8 แสนราย นั้น แบ่งเป็นผู้ประกอบการ โอทอปประมาณ 50,000 ราย ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประมาณ 500,000 ราย ที่เหลือ ก็เป็นผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป ซึ่งมีมากถึง 2 ล้านกว่าราย และในจำนวน 2 ล้านกว่ารายยังมีผู้ประกอบการแผงลอย ขายของตามตลาดจำนวนมาก โดยเฉพาะขายอาหาร ถ้าสามารถเข้าสู่ระบบได้จะช่วยยกระดับและพัฒนากิจการเหล่านี้ ให้สามารถอยู่รอด และได้มาตรฐานมากขึ้น ง่ายต่อการที่หน่วยงานส่งเสริมเอสเอ็มอีอย่างสสว.จะเข้าไปดูแลได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น ที่ร้านอาหารส่วนใหญ่เข้าระบบแฟรนไชส์ ทำให้ได้มาตรฐานเดียวกัน
ดังนั้น ทางสสว.มีแนวคิดที่จะเข้าไปพัฒนายกระดับผู้ประกอบการรายย่อยแผงลอย ที่ไม่ได้อยู่ในระบบกว่า 2 ล้านราย เหล่านี้ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำเสนอแนวคิด เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาการสำรวจผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ในต่างจังหวัด ได้รับความร่วมมือจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลให้การช่วยเหลือ ซึ่งถ้าแนวคิดดังกล่าวมีความเป็นไปได้ก็คงต้องขอความร่วมมือ จากหน่วยงานดังกล่าวด้วย
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิเคราะห์ และเตือนภัย SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)ทั่วประเทศ ในช่วงปี 2552 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รายใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้าน 6 แสนราย เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้าน 8 แสนราย สัดส่วนเอสเอ็มอีรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในระบบปีนี้ กว่า 2 แสนราย ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้มีคนตกงาน และหันมาเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่กันมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจจะเห็นผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดมากขึ้น ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องเลิกกิจการไป ยังอยู่ในสัดส่วนปกติประมาณ 50% ของผู้ประกอบการที่เกิดขึ้นใหม่
ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในปี 2552 จำนวน 2 ล้าน 8 แสนราย นั้น แบ่งเป็นผู้ประกอบการ โอทอปประมาณ 50,000 ราย ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประมาณ 500,000 ราย ที่เหลือ ก็เป็นผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป ซึ่งมีมากถึง 2 ล้านกว่าราย และในจำนวน 2 ล้านกว่ารายยังมีผู้ประกอบการแผงลอย ขายของตามตลาดจำนวนมาก โดยเฉพาะขายอาหาร ถ้าสามารถเข้าสู่ระบบได้จะช่วยยกระดับและพัฒนากิจการเหล่านี้ ให้สามารถอยู่รอด และได้มาตรฐานมากขึ้น ง่ายต่อการที่หน่วยงานส่งเสริมเอสเอ็มอีอย่างสสว.จะเข้าไปดูแลได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น ที่ร้านอาหารส่วนใหญ่เข้าระบบแฟรนไชส์ ทำให้ได้มาตรฐานเดียวกัน
ดังนั้น ทางสสว.มีแนวคิดที่จะเข้าไปพัฒนายกระดับผู้ประกอบการรายย่อยแผงลอย ที่ไม่ได้อยู่ในระบบกว่า 2 ล้านราย เหล่านี้ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำเสนอแนวคิด เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาการสำรวจผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ในต่างจังหวัด ได้รับความร่วมมือจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลให้การช่วยเหลือ ซึ่งถ้าแนวคิดดังกล่าวมีความเป็นไปได้ก็คงต้องขอความร่วมมือ จากหน่วยงานดังกล่าวด้วย