xs
xsm
sm
md
lg

“เจษฎ์” ศิลปินรั้วเพาะช่าง เนรมิตรภาพวาดสร้างคนสวยใน 30 นาที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเจษฎ์ กัลญาณชาติ
การเป็นศิลปิน ที่ถ่ายทอดผลงานศิลปะสู่กลุ่มคนที่ชื่นชอบในเรื่องเดียว ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงาน ส่งผลให้ผู้ที่เรียนมาทางด้านศิลปะ หันมาเอาดีทางการวาดภาพเหมือนขาย พร้อมต่อยอดความรู้ด้านศิลปะการแต่งหน้า เพื่อการบริการที่ครบวงจรให้กับลูกค้า

จากผู้ที่เลือกเรียนในวิทยาลัยเพาะช่าง สาขาจิตกรรมสากล ที่ในช่วงแรกตัดสินว่าจะเรียนเน้นไปที่ด้านงานปั้น หรือการเพ้นท์ดี แต่สุดท้ายก็เอาความชอบและพฤติกรรมส่วนตัวมาเป็นที่ตั้ง คือ เป็นคนที่ชอบมองสีสันต่างๆ แม้จะเป็นสิ่งของทั่วๆ ไปก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากคนทั่วไป เช่น หากเห็นคนเดินมา บางคนอาจจะมองที่แบบเสื้อผ้าที่ตัดเย็บ หรือหน้าตาของผู้ที่สวมใส่ แต่สำหรับ “นายเจษฎ์ กัลยาณชาติ” นักวาดภาพอิสระ และช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ที่ยืนยันมาตนเองเป็นผู้ชายแท้ แต่ที่เลือกเรียนการแต่งหน้า เพราะถือเป็นงานศิลปะแขนงหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากการแต่งหน้าคนบนกระดาษ แต่มาแต่งหน้าให้กับคนจริงๆ กลับมองลึกไปที่สีสันต่างๆ ว่าต้องนำสีอะไรมาผสมกับอะไร เพื่อให้ออกมาเป็นสีสันที่สวยงามนี้ เป็นต้น ซึ่งงานศิลปะจะสามารถดัดแปลงไปในงานอื่นๆ ได้ เช่น การออกแบบจิวเวอรี่ การจัดแสงเงาในฉากภาพยนต์ รวมถึงการไปเป็นครูสอนศิลปะ

ดังนั้นนายเจษฎ์ จึงตัดสินใจเลือกเรียนทางด้านงานเพ้นท์รูป ซึ่งเมื่อจบก็ไปรับเขียนรูปตามห้างสรรพสินค้า และวาดภาพเหมือนตามท้องถนน แต่ด้วยรายได้ที่ไม่แน่นอน ทำให้การยึดอาชีพดังกล่าวเป็นอาชีพหลักจึงลำบาก จึงคิดหางานประจำ เพื่อให้รายได้ที่แน่นอน จึงจัดสินใจไปเป็นครูฝึกสอนวิชาศิลปะให้กับเด็กได้ประมาณ 2-3 เดือน ก็ลาออกไปเป็นครูสอนศิลปะที่โรงเรียนเอกชนอีก 1 ปี แต่ด้วยในระหว่างการสอนก็พบว่าเด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบศิลปะมากนัก เลือกเรียนตามแฟชั่น ทำให้นายเจษฎ์ ออกมาเป็นจิตรกรแบบเต็มตัว โดยรับจ้างเขียนภาพศิลปะจากศิลปินชื่อดังระดับโลกที่พัทยา ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของค่าจ้างที่ถูกเอาเปรียบอย่างมาก คือได้ค่าจ้างภาพละ 500 บาท เท่านั้น ซึ่งทำได้เพียง 2 ปี ก็ต้องกลับมาอยู่กรุงเทพฯ เรียนด้านการแต่งหน้าเพิ่มเติม ตามคำแนะนำของพี่สาว

“ก่อนที่ผมจะตัดสินใจเรียนแต่งหน้า ยอมรับว่าทำใจอยู่นาน เพราะจากที่จับพู่กันวาดหน้าคน แต่นี่ต้องไปจับหน้าผู้หญิง แต่สุดท้ายก็คิดว่าเป็นงานศิลปะและความท้าทายอย่างหนึ่ง ซึ่งในช่วงแรกยังทาแป้งรองพื้นไม่ได้ เพราะยังติดวิธีการลองพื้นในภาพวาดอยู่ ทำให้การรองพื้นหน้าคนจริงๆ หนาเกินไปไม่เรียบเนียน แถมยังใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ในการทาแป้งรองพื้น แต่ก็ฝึกฝนอย่างหนัก ลองแต่งหน้าพี่สาวจนได้ผลงานที่น่าพอใจ ต่อมาจึงได้เรียนรู้การแต่งหน้าเอฟเฟกต์ ที่ถือเป็นงานท้าทายอย่างหนึ่งที่ผมอยากเรียนรู้”

ทั้งนี้การเรียนแต่งหน้า สุดท้ายก็สามารถสร้างอีกหนึ่งอาชีพให้กับนายเจษฎ์ได้ตามที่คาดหวังไว้ โดยนำร่องด้วยการเข้าไปเป็นช่างแต่งหน้าตามกองถ่ายละคร และกองถ่ายทำภาพยนต์ แต่ด้วยวงการนี้จะไม่มีผู้ชายแท้เข้าไปทำงานกัน ทำให้บางครั้งการแต่งหน้าให้กับดารานักแสดงที่เป็นผู้หญิง จะได้รับควงาไม่ไว้วางใจสุดท้ายจึงต้องออกมารับงานเป็นช่างแต่งหน้า และรับวาดภาพเหมือน เป็นศิลปินอิสระจนถึงปัจจุบัน

สำหรับจุดเด่นและฝีมือของนายเจษฎ์ ในการวาดภาพเหมือน เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะสามารถเจข้าถึงความต้องการของลูกค้าคนไทยได้เป็นอย่างดี คือ ต้องการภาพวาดที่สวยกว่าตัวจริงเล็กน้อย ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เหมือนตัวเจ้าของภาพนั่นเอง โดยเทคนิคที่สำคัญคือ นายเจษฎ์ จะพยายามลบจุดด้อยของตัวจริง เช่น การเพิ่มจมูกให้โด่งขึ้น หน้าเรียวขึ้นสำหรับคนที่มีรูปหน้ากลม ทำให้ตาโตขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสุดท้ายเมื่อภาพที่ออกมาทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารูปหน้าใช่เจ้าของภาพ แต่สวยกว่า ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบ ซึ่งแตกต่างกับชาวต่างชาติการวาดภาพเหมือนจะต้องเหมือนตัวจริงทุกประการ เพราะไม่เหมือนลูกค้าต่างชาติจะไม่พอใจ

“ผมใช้เวลาในการวาดภาพเหมือนประมาณคนละ 30 นาที ภาพละ 200-300 บาท ซึ่งส่วนที่วาดยากที่สุดคือ ตา เพราะต้องสื่อถึงแววตาที่มีชีวิตชีวา ออกมาให้ได้มากที่สุด โดยปัจจุบันผมรับไปวาดภาพตามออฟฟิศ ด้วย ถ้าลูกค้าสามารถรวบรวมคนมาได้ประมาณ 10 คน ในขณะที่งานแต่งหน้านอกสถานที่ ก็ทำด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการรับแต่งหน้ารับปริญญา ราคา 1,000 บาท แต่งหน้าเจ้าสาวพร้อมทำผม 5,000 บาท ซึ่งอาชีพทั้ง 2 อย่าง ผมรักที่จะทำเพราะนอกจากจะทำให้เราได้แสดงความสามารถในงานศิลปะที่ได้เรียนมาแล้ว ยังทำให้คนไม่สวยกลายเป็นคนสวยได้” นายเจษฎ์กล่าวทิ้งท้าย

***สนใจติดต่อ 08-4321-8532***
กำลังโหลดความคิดเห็น