ถึงจะไม่ได้ร่ำเรียนมาด้านศิลปะโดยตรง แต่ผลงานสร้างสรรค์ตุ๊กตาปั้นจากดินญี่ปุ่นของ “อลงกต สกุลอารีย์มิตร” ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Phici-co” ก็มีดีไซน์โดดเด่นเป็นของตัวเอง ในสไตล์สยองแต่แฝงไปด้วยความน่ารัก จนเป็นที่ถูกใจของผู้พบเห็น ช่วยให้จากงานอดิเรกที่ทำเล่นสนุกๆ ถูกต่อยอดเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เสริมอย่างเป็นกอบเป็นกำ
เจ้าของไอเดีย เล่าว่า เริ่มทำเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ยังยังเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากแรงบันดาลใจแค่อยากทำงานฝีมือที่ตัวเองรัก หมั่นฝึกฝนด้วยตัวเอง แล้วลองเอาผลงานไปขายที่ตลาดอินดี้อินทาวน์ บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิล์ด
“ตอนแรก ผมไม่ได้จะคิดจะขายจริงจังเลย ทำแค่สนุกๆ ซึ่งแบบตอนแรกจะไม่มีการจำกัดเลย เน้นเอามันส์ๆ ไว้ก่อน ออกมาแนวการ์ตูนโหดๆ กวนๆ ในท้องตลาดไม่เคยมีมาก่อน เช่น ตุ๊กตาโดนมีดสับหัว แขวนหัว หรือมีเลือดอาบ เป็นต้น ส่วนใหญ่เน้นสำหรับตั้งโชว์ ซึ่งพอลองไปขายที่อินดี้อินทาวน์ ปรากฏว่า ได้ผลตอบรับอย่างดีมาก” อลงกต เล่าถึงจุดเริ่มต้น
เมื่อมีลูกค้าให้ความสนใจสินค้ามากยิ่งขึ้น จึงพัฒนารูปแบบให้ซื้อง่ายขายคล่องถูกใจลูกค้ายิ่งขึ้น โดยปรับขนาดเล็กลง และใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งทำเป็นสินค้าทั้งต่างหู พวงกุญแจ ที่ห้อยโทรศัพท์ แม่เหล็กติดตู้เย็นฯลฯ ขณะที่หน้าตาของตุ๊กตาสร้างสรรค์เป็นสไตล์ของตัวเอง มีลักษณะหัวกลมตาโตดูแล้วน่ารัก แต่ก็แฝงความกวนสไตล์โหดซ่าไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากขายตามตลาดนัดสำหรับนักศึกษา ผลงานตุ๊กตาดินญี่ปุ่น ที่เขาให้ชื่อว่า “Phici-co” ได้ไปเข้าตาผู้ค้าขายส่งหลายราย เริ่มสั่งออเดอร์ไปขายตามแหล่งต่างๆ ทั้งแหล่งชอปปิ้งวัยรุ่น และแหล่งท่องเที่ยว รวมถึง มีสั่งไปขายต่างประเทศอีกด้วย ทั้งเกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เป็นต้น ทำให้จากงานอดิเรกได้ก้าวมาเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วม
“ตอนที่ผมทำแรกๆ ที่บ้านก็มองว่า เป็นแค่ของงานของเด็ก ทำเล่นๆ ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่พอเริ่มมีออเดอร์เข้ามา เขาก็เริ่มยอมรับว่า มันช่วยสร้างรายได้ได้จริง ผมเลยดึงสมาชิกในบ้านเข้ามาช่วยกันทำ โดยจะแบ่งหน้าที่ให้ตามความถนัด เช่น ผสมสีดิน ประกอบ และลงสี เป็นต้น ส่วนผม กับน้องสาว (ดวงสมร สกุลอารีย์มิตร) จะมีหน้าที่หลักในการออกแบบ ซึ่งไอเดียได้จากสิ่งของที่เห็นอยู่รอบๆ ตัว มาปรับให้เข้ากับสไตล์ของผมเอง” อลงกต อธิบาย
สำหรับช่องทางจำหน่าย ได้เพิ่มเติมไปขอเช่าพื้นที่เล็กๆ ในตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ร้าน A.M.P. โครงการ 2 ซอย 2 นอกจากนั้น ขายผ่านออนไลน์ที่ www.phicico.com โดยจะแนะนำเว็บไซต์ผ่านการโพสต์ข้อความโปรโมทตามเว็บท่าชื่อดัง
อลงกต เล่าให้ฟังถึงขั้นตอนการผลิต เริ่มจากวัตถุดิบดินญี่ปุ่น หาซื้อได้ตามร้านขายสินค้าหัตถกรรมทั่วไป ราคาประมาณ 200 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากนั้นนำมาผสมสีตามต้องการ แล้วจึงปั้นดินเป็นรูปร่างตามต้องการ และประกอบเป็นตัว จากนั้นนำไปตากแดด และสุดท้าย คือ ลงสีและเก็บรายละเอียด โดยเฉลี่ย 2 วันจะทำสินค้าชิ้นเล็กๆ เช่นต่างหูได้ประมาณ 100 ชิ้น
สินค้าที่สร้างสรรค์ขึ้นมีรวมกันนับร้อยแบบ ทั้งเป็นตัวคน อาหาร สัตว์ ฯลฯ โดยทำเป็นสินค้าหลากหลาย เช่น ต่างหู (59 บาท) พวงกุญแจ ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ (79 บาท) และสร้อยคอ (199 บาท) เป็นต้น นอกจากนั้น นำตัวตุ๊กตาไปประดับบนสินค้าต่างๆ เพิ่มความสนใจและเป็นการเพิ่มค่าให้สินค้า เช่น โคมไฟ ที่เสียบนามบัตร เป็นต้น โดยสินค้าขายดีอันดับหนึ่ง ได้แก่ ต่างหู ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสุภาพสตรี ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน
ด้านปัญหานั้น เนื่องจากเป็นงานแฮนด์เมด หากมีออเดอร์สั่งจำนวนมากๆ จะไม่สามารถผลิตได้ทัน บรรจุภัณฑ์ยังไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจไว้ และการตลาดยังไม่กว้างเท่าที่ควร
“ผมเชื่อว่า สินค้าแฟชั่น ยังมีโอกาสจะขยายไปได้อีก ซึ่งในอนาคต ผมอยากพัฒนาตัวการ์ตูนเป็นคาแรกเตอร์ดีไซน์ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่สามารถนำแคแรกเตอร์ตัวการ์ตูนแต่ละตัวไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ” อลงกต กล่าวทิ้งท้าย
&&&&&&&&&&&
โทร. 08-7700-0945 หรือ www.phicico.com