xs
xsm
sm
md
lg

ผงหมักเนื้อเอนไซม์จากพืช นวัตกรรมสินค้าเกษตรไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผงเนื้อนุ่ม ในซองขนาดขาย 120 บาท
ผงหมักเนื้อจากเอนไซม์ธรรมชาติที่ทำมาจากพืช เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการ Food Ingredients ที่ไม่มีส่วนประกอบการของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเทศไทยถือได้ว่าโชคดีที่เราเป็นแหล่งผลิตอาหาร มีวัตถุดิบต้นทุนต่ำมากมายที่พร้อมจะนำมาแปรรูปเป็นอาหารออกไปจำหน่าย

สำหรับผงหมักเนื้อนุ่ม "โชตธนโชติ" เป็นการนำผงเอนไซม์บรอมิเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ได้มาจากสับปะรด มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เป็นส่วนประกอบอาหาร Food Ingredients ผลงานการคิดค้นของ “นางสาววิภาดาว กัปปิยบุตร” ผู้ผลิตผงเอนไซม์จากพืชธรรมชาติ 100% รายแรกของประเทศไทย
นางสาววิภาดาว กัปปิยบุตร เจ้าของผงหมักเนื้อนุ่ม โชตธนโชติ
นางสาววิภาดาว เล่าว่า ทางบริษัทโชตธนโชติ จำกัด ได้ทำการผลิตเอนไซม์ที่ทำจากพืช ประเภทสับปะรด มานานกว่า 9 ปี จุดเริ่มต้นมาจากครอบครัวของเรามีไร่ปลูกสับปะรด อยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้มีการศึกษาถึงการแปรรูปและเพิ่มผลผลิตสับปะรดในบ้านเราให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างไร และได้ศึกษาพบว่า เอนไซม์ที่ทำจากสับปะรด มีคุณสมบัติเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้ไปศึกษากระบวนการผลิตเอนไซม์

จนกระทั่งได้เริ่มลงทุนทำโรงงานผลิตผงเอนไซม์ขึ้นมา เริ่มจากการทำเอนไซม์จากสับปะรด ได้เอนไซม์ที่มีชื่อว่าบรอมิเลน ต่อมาทำเอนไซม์ปาเปนทำมาจากมะละกอ เอนไซม์ฟิซิน ทำมาจากมะเดื่อ และเอนไซม์แอคทินิดิน ทำมาจากกีวี แต่ต่อมาเนื่องจากเราต้องการทำเอนไซม์จากพืชที่ปลอดสารพิษ จึงต้องใช้เอนไซม์จากสับปะรดได้เพียงอย่างเดียว เพราะสามารถควบคุมดูแลการผลิตให้ปลอดสารได้เนื่องจากการเป็นผู้ผลิตเอง
สเต็กทีผ่านการหมักจากผงหมักเนื้อนุ่ม
ทั้งนี้ในช่วงเริ่มต้น สินค้าของเราเกือบทั้งหมดเป็นการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศในแถบยุโรป เพราะผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะรู้เรื่องของผงเอนไซม์กันดีอยู่แล้ว โดยผงเอนไซม์ที่ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และในกลุ่มอาหารสัตว์ ซึ่งสุดท้าย เมื่อเขานำแปรรูปออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลับมาขายบ้านเราในราคาที่สูงมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เราคิดทำผงเนื้อนุ่มเอนไซม์จากพืช

โดยพบว่าปัจจุบัน แม้ว่าประเทศไทยเราจะเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านอาหารที่สำคัญของโลก แต่ในส่วนของส่วนประกอบของอาหาร หรือ Food Ingredients เรากลับต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ในราคาที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนในการผลิตอาหารส่งออกสูงตามไปด้วย และด้วยเหตุนี้เอง เราเองต้องการช่วยให้คนไทยด้วยกันได้มีโอกาสใช้ผงปรุงรสที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย และในราคาที่ไม่สูงมาก จึงได้ทำผงเนื้อนุ่มตัวนี้ออกมาจำหน่าย”

ผงหมักเนื้อนุ่มรสดั้งเดิม
สำหรับในช่วงแรกต้องยอมรับว่าคนไทยรู้จักผงหมักเนื้อจากเอนไซม์นี้น้อยมาก ต้องอธิบายและสาธิตการทำอาหารต่างๆให้ลูกค้าได้เห็นถึงข้อดีของผงหมัก และข้อดีของการใช้ผงปรุงรสที่มาจากวัสดุธรรมชาติ จนปัจจุบันมีโรงงานผลิตอาหารชื่อดังหลายแห่ง ที่ได้ทดลองใช้และรู้จักข้อดีของเอนไซม์สับปะรด ก็มีการซื้อไปใช้ รวมถึงร้านอาหารต่างๆ เช่น ร้านสุกี้ และหมูกระทะ

ทั้งนี้ ในปีนี้ ได้มีการขยายตลาดในประเทศมากขึ้น เพราะคนไทยที่ได้ใช้จะชื่นชอบ และมีการบอกกันแบบปากต่อ เนื่องจากเราเป็นผู้ประกอบการรายย่อยไม่ได้มีงบประมาณ ในการไปทำตลาดแข่งกับผู้ผลิตผงปรุงรสรายใหญ่ แต่อาศัยให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการที่จะเลือกผงปรุงรสที่ปราศจากสารเคมี โดยปัจจุบันมีการนำสินค้าไปวางจำหน่ายใน ศูนย์การค้าหลายแห่ง อาทิ แม็คโคร คาร์ฟู และบิ๊กซี ฯลฯ

ส่วนตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาได้มีการออกงานแสดงสินค้าร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกหลายครั้ง ทำให้เป็นที่รู้จักในหลายประเทศ เช่น ประเทศสเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน และยังได้รับรางวัล Innovative Product งานแสดงสินค้า SIAL CHINA ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่จัดโดยหอการค้าฝรั่งเศส และที่เขาเลือกเราเพราะเห็นว่าเราเป็นสินค้าอาหารที่ทำจากธรรมชาติ และเป็นนวัตกรรมด้านอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันในโลกนี้มีโรงงานที่ทำผงเอนไซม์จากธรรมชาติ 100 % เพียงไม่เกิน 10 แห่ง

ปัจจุบันได้มีการพัฒนาผงเนื้อนุ่ม ออกมาหลายรสชาติ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน โดยมีอยู่ด้วยกัน 6 สูตร สูตรดั้งเดิม สูตรสมุนไพร สูตรสเต็กหอม สูตรพริกไทยดำ สูตรเทริยากิ สูตรยาคินิคุ ส่วนราคาอยู่ที่ซองละ 120 บาท ราคาค่อนข้างสูง เพราะต้นทุนในการทำผงเอนไซม์นั้นค่อนข้างสูงมาก โดยกระบวนการทำผงเอนไซม์ ต้องใช้วัตถุดิบสับปะรดจำนวน 1 ตันสามารถทำผงเอนไซม์ออกมาได้เพียง 2 กิโลกรัม ส่วนราคาผงเอนไซม์อยู่ที่กิโลกรัมละ 6,000 บาท

จากการที่ได้ออกงานแสดงสินค้าในต่างจังหวัด ทำให้รู้ว่าลูกค้ามีความต้องการสินค้าในขนาดซองที่เล็กลงประมาณ 10 บาท 20 บาท เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าดังกล่าวจึงได้มีแผนที่จะทำซองขนาดเล็กออกมาจำหน่าย และที่ทำออกมาช้า เพราะเราเป็นเอสเอ็มอีมีทุนน้อย การทำบรรจุภัณฑ์แต่ละครั้งต้องใช้งบเป็นล้าน

“ความสำเร็จในวันนี้ ของเราเกิดขึ้นมาจากเราสามารถผ่านพ้นวิกฤติ ไปได้ โดยไม่ต้องปลดพนักงาน และได้ช่วยเกษตรกรปลูกสับปะรดได้ขายสินค้าในราคาที่เหมาะสมและไม่ลำบาก และสินค้าของเราเป็นที่พึ่งพอใจของลูกค้า และผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

โทร. 08-1577-1317
กำลังโหลดความคิดเห็น