xs
xsm
sm
md
lg

ที.ซี.รุกเครื่องดื่มสุขภาพขยายส่งออกตลาดยุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที.ซี.บุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพปีหน้า หลังตลาดเพื่อความงามอิ่มตัว แตกไลน์ฟังก์ชันนัลดริงก์ใหม่ รับเทรนด์ตลาดบูม สั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มไลน์การผลิตเครื่องดื่ม ระบุตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ 2,000 ล้านบาท ชะลอการเติบโต ปัจจัยลบรุมเร้า

นายปิยะ กิตติธีรพรชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี.แนลเชอรัล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บริ๊งค์ เปิดเผยว่า แผนการตลาดในปีหน้าจะขยายโปรดักส์ไลน์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นหลัก รองรับตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่องทางขายตรง เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องดื่มเพื่อความงามชนิดเข้มข้นมูลค่า 1,000 ล้านบาท พบว่า ตลาดเริ่มอิ่มตัว จากการมีเครื่องดื่มเพื่อผิวขาว เพื่อชะลอริ้วรอยทำตลาด

ส่วนอีก 500 ล้านบาท เป็นเครื่องดื่มอื่นๆ อาทิ เพื่อบำรุงสมอง คอเลสเตอรอล เป็นต้น ส่วนที่เหลืออีก 1,000 ล้านบาท เป็นฟังก์ชันนัลดริงก์บรรจุขวดเพ็ท นอกจากนี้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยังมีเซกเมนต์ใหม่ๆ อีกมาก ที่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคเฉพาะเจาะจงอีกมาก

“ปีนี้บริ๊งค์ใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท โดย 7 ปีของการทำตลาดที่ผ่านมา บริ๊งค์มีสินค้าครบทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น การชะลอริ้วรอย นาโน คิวเท็น และล่าสุด เปิดตัว บริ๊งค์ ไวท์ ดริ๊งค์ผลักดันปีนี้มีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 35-40% จากเมื่อปีที่ผ่านมา มีส่วนแบ่ง 33% ดังนั้น จากนี้บริษัทโฟกัสสู่กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ”

นายปิยะ กล่าวว่า ในปีหน้านี้บริษัทวางแผนขยายตลาดส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับการทำตลาด 4 เดือนสุดท้าย เน้นการรักษายอดขายโดยการจัดกิจกรรม อย่างไรก็ตาม แนวทางการตลาดบริษัทโฟกัสกลุ่มเครื่องดื่มมากกว่าจะเป็นอาหารเสริมชนิดแคปซูล ล่าสุด ได้สั่งซื้อเครื่องจักร 1 ไลน์ เพื่อขยายกำลังการผลิตบริ๊งค์ชนิดน้ำ โดยปัจจุบันกลุ่มบริ๊งค์รูปแบบแคปซูลเหลือเพียงสัดส่วน 20% และเครื่องดื่ม 80%

ภาวะตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม หรือฟังก์ชันนัลดริงก์ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโตกว่า 10% หรือราว 2,200-2,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดเติบโตมากกว่า 50% ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวสินค้าใหม่และการใช้งบการตลาด และล่าสุด มีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ทำให้คนลดการเดินห้างสรรพสินค้าลง

จากปัจจัยลบต่างๆ ทำให้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งงเป้าเติบโต 10% โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างยอดขายลดลงกว่า 10% จากการที่คนลดการเที่ยวสถานบันเทิง ผับ บาร์ แต่จากการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโอเม็กซ์เติบโต 20-30% จากปกติผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีอัตราการเติบโต โดยคาดว่า สิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตไม่เกิน 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตมากกว่า 50% แบ่งเป็น รายได้จากกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ 50% ของรายได้รวม โดยบริ๊งค์เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 70-80% ที่เหลืออีก 20-30% เป็นอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น