“มาร์ค” จี้โอทอปสร้างมาตรฐาน ขึ้นชั้นตัวแทนสินค้าจากเมืองไทย

“อภิสิทธิ์” ยันเดินหน้าสานต่อโครงการโอทอป ไม่สนรัฐบาลเก่าจะได้หน้า ระบุตั้งสมัชชาโอทอปเข้ามามีส่วนพัฒนาสินค้าโอทอป ชี้ต้องเร่งสร้างมาตรฐานให้โอทอปเป็นยี่ห้อตัวแทนของประเทศไทย ด้านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เชื่องาน “โอทอป ชอปช่วยชาติ OTOP Midyear 2009” ประชาชนมาร่วมงาน 70,000 -80,000 คนต่อวัน เงินสะพัดกว่า 500ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า แม้ว่าโครงการโอทอปจะเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลเก่า แต่ถือว่ามีประโยชน์ ดังนั้น ขอยืนยันจะสานต่อ และพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งสมัชชาโอทอป ให้ผู้ประกอบการโอทอปเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อช่วยกันพัฒนาสินค้าโอทอปไทยในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตลาด คุณภาพ ซึ่งสะท้อนมาให้ด้านที่ในรายการเชื่อมั่นประเทศฯ มีการนำสินค้าโอทอปมาประชาสัมพันธ์ อีกทั้ง ปรับปรุงเว็บไซต์เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าที่ http://thaiotop.cdd.go.th/thaiotop/index.php

นอกจากนั้น ยังได้ช่วยการตลาดโดยมีการจัดงาน “โอทอป ช้อปช่วยชาติ OTOP Midyear 2009” ระหว่างวันที่ 22-30 ส.ค. 52 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาสำคัญของสินค้าโอทอป คือ ประการแรก ในหลายพื้นที่ถ้าขาดความเข้มแข็งพื้นฐาน ผลิตสินค้าไม่ได้สะท้อนถึงวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง บางครั้งต้องยอมรับในช่วงที่ทำโครงการแรก ๆ ก่อนหน้านี้ บางทีในแต่ละพื้นที่ไม่ได้คิดเอง มีกระบวนการราชการหรืออะไรต่าง ๆ เข้าไป หรือว่าทำตามคนอื่น และไม่ประสบความสำเร็จ ประการที่ 2 มีปัญหาธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การตลาด ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ

นายอภิสิทธิ์ ระบุด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่สมัชชาโอทอปเสนอมา และคิดว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจต้องเร่งแก้ไข คือ สร้างมาตรฐานสินค้าโอทอปให้เป็นที่ยอมรับ จัดสรรว่า อะไรจะเป็นโอทอป อะไรจะไม่เป็น เพราะถ้าเรามีเป้าหมายว่า จะส่งเสริมสินค้าโอทอปไปต่างประเทศ ดังนั้น คำว่า โอทอป จึงเหมือนเป็นยี่ห้อของสินค้าวิสาหกิจชุมชนจากประเทศไทย เหมือนเราซื้อของจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่เราจะมั่นใจ ไม่มั่นใจ ดูจากยี่ห้อ ดังนั้น เราก็ต้องมีความมั่นใจว่าจะเรียกผลิตภัณฑ์ใดเป็นโอทอป มีหลักมีเกณฑ์ และเรื่องการจัดมาตรฐานของตัวสินค้า จะมีต้องมาตรฐานชัดเจน โปร่งใส

นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงาน “โอทอป ชอปช่วยชาติ OTOP Midyear 2009” ระหว่างวันที่ 22-30 ส.ค. 52 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ได้มีชาวบ้านนำสินค้าชุมชนระดับ 3-5 ดาว และสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านมาร่วมออกงานกว่า 2,000 บูท โดยมีสินค้ากว่าหมื่นรายการมาร่วมจำหน่ายในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงาน 70,000 -80,000 คนต่อวัน ตลอดทั้งจัดงานคาดว่าจะมีเงินสะพัดในการซื้อสินค้ามากกว่า 500ล้านบาท

นอกจากนี้ ทางกรมการพัฒนาชุมชนยังพร้อมสนับสนุนการนำสินค้าโอทอปส่งออกไปยังต่างประเทศ เพราะยังมีต่างชาติให้ความสนใจซื้อสินค้าโอทอปของไทย เนื่องจากมีเอกลักษณ์และมีคุณภาพ แต่ยอมรับว่า การผลิตสินค้าคุณภาพมักมีปัญหาผลิตไม่ทันความต้องการของตลาดต่างชาติเพราะต้องใช้เวลาและฝีมือในการผลิต ทำให้สินค้าบางรายการอาจผลิตไม่ทัน คาดว่ายังสามารถผลักดันโอทอปเพื่อการส่งออกได้มากว่า 500 ล้านบาท เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐได้เข้ามาให้การรับรองมาตรฐานสินค้า ทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ นอกจากนี้ ยังมีสถาบันการเงินของรัฐมาร่วมงานด้วยเพื่อเป็นส่วนช่วยเหลือด้านเงินทุนให้กับผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รักษาการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในงานดังกล่าวได้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาร่วมงานมากว่า 2,000 ราย ดังนั้น ธ.ก.ส. จึงได้นำโครงการสินเชื่อด้านต่าง ๆ มาเปิดให้ผู้ประกอบการ หรือวิสาหกิจชุมชนได้มาขอสินเชื่อ เช่น สินเชื่อเพื่อการท่องเที่ยว สินเชื่อ108 อาชีพ สินเชื่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะเมื่อได้เปิดโครงการสินเชื่อฟาสแทร็ก ร่วมกับธนาคารของรัฐแล้วจะมีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนช่วยเหลือรายย่อยมากได้ขึ้น