ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังจากประเทศไทย ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ ดูได้จากยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาตลอด แต่ที่ใช้แบรนด์ของตนเอง และมีการทำตลาดอย่างจริงจังในต่างประเทศ นั้นมีไม่กี่ราย และ “อัลเบโด้” ก็เป็นหนึ่งในเครื่องหนังสัญชาติไทยที่ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะการคาดหวังที่จะเทียบชั้นเครื่องหนังแบรนด์ชั้นนำจากอิตาลี
นายธวัฒน์ จิว ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องหนัง ภายใต้แบรนด์ “อัลเบโด้” เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะผลิตและทำตลาดเครื่องหนัง “อัลเบโด้” ผมได้นำเข้าแบรนด์เครื่องหนังจากต่างประเทศ และเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเองโดยเน้นสินค้าอุปกรณ์เครื่องหนังสำหรับใช้ในสำนักงาน จนเมื่อเราเห็นโอกาสและเชื่อมั่นในศักยภาพประกอบกับทีมเวิร์คที่ดี พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษาจากต่างประเทศ ทำให้เราริเริ่มที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง คือ แบรนด์อัลเบโด้ (Albedo)จนวันนี้ก็เกือบ 20 ปีแล้ว
ทุ่มสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่าสินค้า
“ความคาดหวังในอัลเบโด้ สำหรับส่วนตัวอัลเบโด้มาถึงทุกวันนี้ เราภูมิใจมาก เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนไทยจะสามารถสร้างแบรนด์เครื่องหนัง สักแบรนด์หนึ่ง และในวันนี้ถือได้ว่าเรามาไกลมาก เราสามารถหยิบกระเป๋าของเราไปสู้กับเครื่องหนังอิตาลีได้แล้ว แต่สิ่งที่เป็นก้าวต่อไปของอัลเบโด้ก็คือการสร้างแบรนด์ให้ชัดเจนขึ้น ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ”
ปัจจุบัน เครื่องหนังอัลเบโด้ วางจำหน่ายที่แผนกเครื่องหนังชายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำแทบจะครบทุกห้าง และมี Albedo Boutique Shop อีก 2- 3 แห่ง โดยมี Flagship Store ที่ตึก All Season สำหรับในต่างประเทศอัลเบโด้มีจำหน่ายแล้วในทวีปยุโรปกว่า 6 - 7 ประเทศ, แถบตะวันออกกลาง, ญี่ปุ่น, อเมริกาเป็นต้น โดยกลยุทธ์การตลาดจะเน้นที่การพัฒนาสินค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยออกคอลเล็คชั่นใหม่ปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง และออกคอลเล็คชั่นย่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของอัลเบโด้ ส่วนราคาสินค้าเริ่มต้น 2,000 - 18,000 บาท
สำหรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ ทำให้ยอดขายของเราลดลงจากปีที่แล้วมาก และประกอบกับปีที่ผ่านมายอดขายของเราค่อนข้างจะเติบโตมาก อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เป้าหมายของเรา คือ หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และสร้างมูลค่าที่แบรนด์มากขึ้น
เน้นดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์
นายธวัฒน์ กล่าวต่อว่า การดีไซน์ของอัลเบโด้จะมีการสร้างเอกลักษณ์ในทุกคอลเล็คชั่น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเอ็กคลูซีฟที่ลูกค้าจะได้รับ อีกทั้งการเพิ่ม value added ให้กับสินค้า โดยเฉพาะในคอลเล็คชั่นเด่นๆ ของแต่ละปี อาทิ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวคอลเล็คชั่น Passage ซึ่งถือว่าได้รับนิยมมาก กับหนังชนิดพิเศษที่สามารถป้องกันน้ำและน้ำมัน และแฝงลูกเล่น ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ชายในปัจจุบันที่ต้องโดดเด่นในกิจกรรมทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ และล่าสุด เปิดตัว คอลเล็คชั่น Padova ในลุคส์ Urban Exclusive ที่มีจุดเด่นด้วยหนังลายไม้ ที่ทำด้วยมือตลอดทั้งผืน ผลงานการดีไซน์ของอัลเบโด้ ยังคำนึงถึงการใช้งานและความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันของผู้ชายและผู้หญิงด้วย
“กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่ม Young Executive - Senior Executive ตรงนี้เราไม่อยากระบุอายุเพราะสำหรับอัลเบโด้เราเลือกที่จะโฟกัสไปที่ไลฟ์สไตล์และรสนิยมของลูกค้ามากกว่า ซึ่งบ่อยมากที่เราจะพบเห็นกลุ่ม first jobber ใช้กระเป๋าอัลเบโด้ และก็พบกลุ่มผู้บริหารระดับสูงใช้กระเป๋าอัลเบโด้ ซึ่งคนสองกลุ่มแม้อายุต่างกัน แต่พวกเขามีความต้องการแบบเดียวกัน คือ ต้องการสินค้าที่เติมเต็มลุคส์ที่ดูเป็นมืออาชีพและมีรสนิยม”
ลูกค้าสนใจคุณภาพ
มากกว่าแบรนด์เนม
สำหรับภาพรวมของตลาดเครื่องหนังในเมืองไทย มีแนวโน้มที่ดี เพราะตลาดมีการพัฒนาขึ้นมากคนไทยเริ่มมีความรู้ในการเลือกใช้ของมากขึ้น ไม่ได้เน้นของถูกแบบเมื่อก่อน และเริ่มรับเทรนด์เมืองนอกที่ไม่เฉพาะเจาะจงใช้แต่สินค้าแบรนด์เนม แต่จะเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ และตรงกับไลฟ์สไตล์โดยขณะนี้ การแข่งขันของตลาดเครื่องหนังในเมืองไทยถือว่าไม่รุนแรง เพราะสินค้าแฟชั่นแม้จะดูว่าอยู่ในตลาดเดียวกัน แต่ก็จะมี กลุ่มลูกค้าในแต่ละไลฟ์สไตล์ จึงทำให้แม้จะเหมือนแข่งขันแต่ก็ไม่ได้รุนแรง ในจุดนี้เรียกว่าต้องแข่งกับตัวเองเพื่อพัฒนาแบรนด์มากกว่า
“ด้านตลาดต่างประเทศ ในช่วงนี้ถือว่าอยู่ในช่วงดีตลาดกำลังจะดีขึ้น หลังจากที่เงียบๆ ไปในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งจากกระแสตอบรับจากการไปร่วมงานแสดงสินค้าที่ประเทศอิตาลีก็เห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น และทำให้เห็นเทรนด์โลกที่ชัดเจนมากขึ้น แม้จะเป็นชาวอิตาลีก็ไม่ได้คลั่งไคล้แบรนด์เนมแบบเมื่อก่อนแล้ว มันถึงจุดที่คนจะมองหาสินค้าแฟชั่นที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ และมองที่ความคุ้มค่าในการใช้งาน จึงถือว่าเป็นโอกาสของอัลเบโด้ อีกทั้งเราลงทุนมากในการหาที่ปรึกษาด้านดีไซน์จากต่างประเทศ เพื่อสร้างแนวทางชัดเจนในการพัฒนาสินค้าของอัลเบโด้ โดยลำดับแรกเราจะเน้นที่คุณภาพ ซึ่งตอนนี้มาตรฐานในเรื่องคุณภาพของเราทัดเทียมกับเครื่องหนังอิตาลีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพหนัง การเย็บ และฟังก์ชั่นการใช้งาน ลำดับต่อไปจะเน้นเรื่องของดีไซน์ และการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น” นายธวัฒน์ กล่าวในที่สุด
โทร. 02-685-3430