xs
xsm
sm
md
lg

จานข้าวสื่อแทนคำ.....ไอเดียของคนช่างคิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อทานอาหารจนหมด ข้อความก็จะปรากฎ
“I am a talking plate” จานข้าวพูดได้ เป็นผลงานขายไอเดียของหนุ่มสถาปนิก นักออกแบบผลิตภัณฑ์ ชื่อว่า “ นายสุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์” ที่ได้นำแนวคิดมาจากตนเองเป็นคริสเตียน ซึ่งหัวใจการสอนของคริสเตียน คือ สอนให้คนรักกัน และการบอกรักกันตรง ๆ บางครั้งอาจจะดูเขินอาย และไม่เซอร์ไพร์ท จึงเป็นไอเดียของ talking plate สื่อกลาง แทนความรักความห่วงใยซึ่งกันและกัน

นายสุรเสกข์ เล่าว่า ความคิดแรกของการทำจานสื่อรัก เกิดขึ้นมาจาก การเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคปัจจุบัน ครอบครัวอยู่ด้วยกันน้อยลง เพราะต่างคนต่างก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน มีเวลาให้กันน้อยลง แต่ความรักไม่ได้น้อยลง จานข้าวพูดได้จะเป็นสื่อกลาง และสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนรักได้ ภรรยา เซอร์ไพรส์ สามี หรือ เซอร์ไพรส์คนรักในวันพิเศษ เป็นต้น
ในกล่องที่ออกแบบเพื่อป้องกันกระแทก
รูปแบบของจานสื่อรัก หรือ talking plate เป็นการแสดงข้อความลงบนด้านหลังจานแก้ว ด้วยเทคนิคการกัดกรดเพื่อฝั่งข้อความ และใช้ดินสอสีที่แนบให้มาขีดเน้นข้อความที่ต้องการจะเซอร์ไพรส์คนรัก และเมื่อใส่อาหารหรือข้าวลงไป จะปิดข้อความทั้งหมด และเมื่อกินอาหารจนหมดจะปรากฏข้อความดังกล่าว ซึ่งจานหนึ่งใบจะมีข้อความประมาณ 5 ถึง 6 ข้อความ ต้องการข้อความไหนใช้ดินสอขีดเน้นบนข้อความนั้นด้านหลังจาน

โดยรูปแบบของจานแก้วสื่อรักจะมีอยู่ด้วยกัน 6 รูปแบบ เพื่อความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ได้แก่ Childen Love Office Sorry Occasions Cheer up ซึ่งแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มตามรูปแบบ เช่น กลุ่มลูกค้าเด็ก คนรัก พนักงานออฟฟิศ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังใจ ขอโทษ หรือ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการของขวัญในโอกาสพิเศษ เป็นต้น ซึ่งลูกค้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์แปลกใหม่ หรือของสะสม อายุเฉลี่ย 20 ปีจนถึง 30 กว่าปี
นายสุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์ เจ้าของกิจการ
ทั้งนี้ สินค้าจะขายดีในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลวาเลนไทน์ วันขึ้นปีใหม่ วันเกิด วันพ่อ วันแม่ หรือในโอกาสพิเศษที่มีความสุข เช่น วันรับปริญญา หรือ ต้องการขอคนรักแต่งงาน เขียนข้อความเซอร์ไพรส์ คนรัก เป็นต้น และในช่วงเทศกาล เช่น วาเลนไทน์ จะขายได้มากกว่าช่วงปกติ 2 ถึง 3 เท่าตัว ยอดขายปกติ 40 ถึง 50 ใบ แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลขายได้ถึง 100 ใบขึ้นไป

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย เริ่มจากการขายผ่านเว็บไซต์www.surasekk.com และนอกจากนี้ ทางเว็บไซต์ Design Boom เป็นเว็บอันดับ 1 ด้านดีไซน์ระดับโลก ได้เลือกสินค้าของเราไปลงในเว็บไซต์ของเขาด้วย รวมถึงการขายผ่าน ร้านLoft เป็นร้านขายสินค้าด้านดีไซน์ และวางโชว์ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ที่ ชั้น 24 เอ็มโพเรียม ทาวเวอร์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

ในครั้งแรกที่ผมตัดสินใจมาทำงานชิ้นนี้ เกิดขึ้นมาจากต้องการจะมีสินค้าดีไซน์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเองออกมาจำหน่าย แต่ปีแรก ก็พบอุปสรรค จนทำให้ต้องคิดจะเลิก เพราะขายสินค้าไม่ได้เลย และต้นทุนในการทำงานก็สูงมาก ไม่รู้ว่าจะทำตลาดอย่างไรต่อไป แต่โชคดีที่ได้มาพบกับ TCDC ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ซึ่งในช่วงนั้นมีการจัดประกวดสินค้าดีไซน์ ในโครงการ Ploy-Saeng 2 มีผู้ส่งผลงานกว่า 150 ราย คัดเลือกไว้เพียง 20 ราย และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำให้ได้ทำงานชิ้นนี้ต่อ”
รูปแบบคำขอโทษ และคำรัก
ทาง TCDC ได้เข้ามาช่วยเหลือในหลายด้าน ทั้งแนะนำข้อความเพื่อให้ดูน่าสนใจ และปรับขนาดของจานให้ดูไม่ใหญ่มากเกินไป ปัจจุบันใช้จานขนาดความกว้าง 7 นิ้ว ครึ่ง และให้การช่วยเหลือด้านการตลาด ได้นำสินค้าไปวางโชว์ที่ ศูนย์แสดงสินค้าของ TCDC ทำให้ได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และการได้ลงในเว็บไซต์ระดับโลก ทำให้ได้ออร์เดอร์จากหลายประเทศ เช่น ลูกค้าจากร้านดีไซน์ชื่อดังจากฝรั่งเศส “COLETTE” ซื้อสินค้าไปวางขาย เป็นต้น

เป้าหมายของผม คือ การได้ทำสินค้าดีไซน์ที่เป็นแบรนด์ของผมเอง เพื่อในอนาคตผมตั้งใจจะเปิดบริษัทรับออกแบบสินค้าให้กับผู้สนใจ แต่การจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาว่าจ้างได้ เราจะต้องมีสินค้าที่เป็นแบรนด์ของเรา ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดก่อน จึงจะมีผู้มาว่าจ้างให้เราออกแบบให้ และวันนี้ สามารถทำได้ในระดับที่น่าพอใจ เพราะเริ่มมีคนรู้จักผมมากขึ้นในระดับ 50-60% จากที่ผมตั้งใจไว้”

นายสุรเสกข์ เล่าว่า จากความสำเร็จของแบรนด์ ทำให้เรามีโอกาสในการที่จะออกแบบสินค้าในรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ “SURASEKK” ได้อีกไม่ยาก เพราะว่าแบรนด์เป็นที่รู้จัก แต่ต้องยอมรับว่า จุดเริ่มต้นมันยากมาก ไม่สามารถคิดทันที และจะทำได้เลย มันต้องใช้เวลา การตลาด การโปรโมทสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ การพัฒนาสินค้า ก็ต้องทำให้ถูกจุด โดยส่วนตัวใช้เงินในการพัฒนาสินค้าไปกว่า 100,000 บาท

ออกแบบเอาใจเด็กๆ
ส่วนรายได้ตั้งเป้ายอดขายไว้เดือนละ 100 ใบ ก็พอใจแล้ว เพราะเป็นรายได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับเงินเดือนประจำที่เคยได้รับ ตอนนี้รายได้ก็ค่อยไต่ระดับเดียวกับเงินเดือนประจำ ซึ่งก็ยอมรับว่า ตัดสินใจถูกที่ลาออกจากงานประจำ เพราะถ้ายังทำงานอยู่ ก็ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่มีอะไรของตัวเอง และวันนี้ ได้มีสินค้าของตัวเอง แม้ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีลู่ทางที่ดี อย่างไรก็ตาม การออกมาทำงานส่วนตัว ก็ต้องดูให้ถูกที่ถูกเวลา ด้วย

โทร. 08-9517-2561
กำลังโหลดความคิดเห็น