ภาคเอกชนยังฮึด ชี้การเมืองป่วนไม่กระทบจัด BIG & BIH 2009 แจงผู้ซื้อเชื่อมั่นคุณภาพ ดีไซน์สินค้าไทย อีกทั้ง เริ่มชาชินกับความวุ่นวายแล้ว จี้ผู้ประกอบการต้องเร่งพัฒนาคุณภาพ เพิ่มมูลค่าทดแทนออเดอร์หด
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เผยภายหลังการเปิดงานแสดงสินค้าของขวัญ และงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (BIG & BIH 2009) ว่า แม้จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง แต่ยอดผู้ซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งลงทะเบียนจะมาร่วมงานกว่า 2,000 ราย ไม่มีการแจ้งยกเลิกเข้าร่วม แม้แต่รายเดียว เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อแทบทั้งหมดเป็นฐานลูกค้าเดิม ซึ่งคุ้นเคยและเชื่อมั่นในคุณภาพและดีไซน์ของผู้ผลิตสินค้าไทยอยู่แล้ว อีกทั้ง เข้าใจในสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ กลุ่มผู้ซื้อเหล่านี้ยังเดินทางเข้ามาเลือกซื้อสินค้าเช่นเดิม
“งาน BIG เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็จัดภายหลังเกิดเหตุการณ์สลายม็อบ วันที่ 7 ตุลาฯ แต่ก็ยังมีผู้ซื้อต่างชาติเข้าชมงานกว่า 4,000 ราย แสดงให้เห็นว่า จริงๆ แล้ว ผู้ซื้อต่างชาติค่อนข้างเข้าใจในสถานการณ์ของไทย ปีนี้ลงทะเบียน 2,000 ราย แต่เชื่อว่า จำนวนผู้ซื้อจริงๆ ที่จะเข้าชมงานคงไม่น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการ ก็พยายามปรับกลยุทธ์ เช่น เน้นผลิตสินค้าคุณภาพ มูลค่าสูง เพื่อทดแทนในส่วนคำสั่งซื้อที่ลดน้อยลงไป” นายจิรบูลย์ ระบุ
นายจิรบูลย์ กล่าวต่อว่า ในฐานะภาคเอกชนย่อมกังวลต่อสถานการณ์การเมืองที่อาจจะวุ่นวายต่อไป ดังนั้น สมาคมฯ ได้ปรับกลยุทธ์ เพื่อช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ของประเทศไทย โดยไม่มีผู้ประกอบการรายใดถอนตัวจากการร่วมงานครั้งนี้เลย อีกทั้ง สมาคมฯ ร่วมกับภาครัฐ อย่างกรมส่งเสริมการส่งออก ไปเปิดตลาดใหม่ ๆ เช่น อาเซียน และตะวันออกกลาง เป็นต้น
ด้านนายสุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย เผยว่า ถึงการเมืองจะวุ่นวายเพียงใดก็ตาม แต่สำหรับในธุรกิจเครื่องใช้ในครัวเรือน ตลาดยังเติบโตได้ดี โดยในปี 2550 และ 2551 ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมกว่า 670-730 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราเติบโตร้อยละ 6-7 ส่วนปีนี้ (2552) คาดว่า ยอดขายยังเติบโตต่อเนื่อง ร้อยละ 3-5 มูลค่ากว่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม จากความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น กระทบผู้ประกอบการในการทำธุรกิจให้ยากลำบากกว่าเดิม ในฐานะภาคเอกชน พยายามช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุดอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน อยากให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมในด้านการพาไปเปิดตลาดใหม่ เช่น สนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วน ทั้งค่าขนส่ง ค่าเดินทาง เป็นต้น รวมถึง แหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการ
ด้าน ผศ.ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานเปิดงาน ระบุว่า งานครั้งนี้ มีผู้ประกอบการร่วมกว่า 700 บริษัท จำนวน 1,680 บูท เชื่อมั่นระหว่างการจัดงานตั้งแต่วันนี้ (21 เม.ย.) ถึงสิ้นสุดงานวันที่ 26 เม.ย. จะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน วงเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท