ธ.ก.ส. เผยเตรียมเงินก็ 5,000 ล้านบาท รับโครงการแรงงานคืนถิ่น ต่อยอดผู้ตกงานที่ผ่านการอบรมต้นกล้าอาชีพ ที่ต้องการกู้เงินประกอบอาชีพหารายได้ ชี้ลูกค้า ธ.ก.ส.ที่เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพทั่วประเทศมีเพียง 2,000-3,000 รายเท่านั้น โดยต้องการเงินกู้เพื่อลงทุนกิจการก็น้อยเช่นกัน ระบุหวั่นสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเมื่อกู้เงินไปลงทุน ก็อาจประสบปัญหาขาดทุนได้
นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการรักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามที่ ธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินกู้ไว้ 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการ "แรงงานคืนสู่ถิ่น" ที่ ธ.ก.ส.ร่วมกับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจัดทำโครงการ เพื่อรองรับคนงานที่ถูกเลิกจ้างจากภาคอุตสาหกรรมและกลับเข้าสู่แรงงานภาคเกษตร ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับ ธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินประมาณไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท หลังจากที่ผู้ตกงานได้ผ่านการอบรมต้นกล้าอาชีพ และความประสงค์ที่จะต้องการแหล่งเงินกู้เพื่อเริ่มกิจการของต้นเอง รวมถึงการจัดทำโครงการเกษตรกรพันธ์ใหม่ เพื่อรองรับแรงงานอีกทางหนึ่ง โดยความคืบหน้าขณะนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมต้นกล้าอาชีพ อยู่ระหว่างการอบรมและหลังจากสำเร็จ กระทรวงแรงงานฯ ก็จะแจ้งรายชื่อผู้ที่มีความต้องการเงินกู้มาให้ ธ.ก.ส. ทราบเพื่อให้เงินกู้ต่อไป โดยเฉลี่ย จะมีตั้งแต่รายละ ไม่กี่บาท จนถึงหลักแสนบาท
อย่างไรก็ตาม จากการทำแบบสอบถามและพูดคุยกับลูกค้า ธ.ก.ส.ที่เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพทั่วประเทศพบว่ามีเพียงส่วนน้อย หรือประมาณ 2,000-3,000 รายเท่านั้นที่บอกว่าต้องการเงินกู้เพื่อลงทุนกิจการ โดยความเห็นส่วนใหญ่ของผู้เข้าอบรมมีความเห็นว่าการอบรมจะช่วยให้สามารถหางานให้มากกว่า แต่การที่จะกู้เงินมาลงทุน เกรงว่าสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเมื่อกู้เงินไปลงทุน ก็อาจประสบปัญหาขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องการให้เงินกู้ช่วยเหลือนี้ ธ.ก.ส.คงปล่อยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ต้องการเงินกู้มากกว่า ในวันเดียวกันนี้ ธ.ก.ส. ยังได้จัดงานค่ายเยาวชนสำหรับบุตรหลานลูกค้าในช่วงปิดภาคเรียน โดยมีเยาวชนเข้าร่วม 450 คน เพื่ออบรมให้เรียนรู้ถึงหลักการและภาคปฏิบัติเรื่องการประหยัดและพอเพียง พร้อมมอบทุนการศึกษารายละ 1,000 บาทด้วย
นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการรักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามที่ ธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินกู้ไว้ 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการ "แรงงานคืนสู่ถิ่น" ที่ ธ.ก.ส.ร่วมกับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจัดทำโครงการ เพื่อรองรับคนงานที่ถูกเลิกจ้างจากภาคอุตสาหกรรมและกลับเข้าสู่แรงงานภาคเกษตร ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับ ธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินประมาณไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท หลังจากที่ผู้ตกงานได้ผ่านการอบรมต้นกล้าอาชีพ และความประสงค์ที่จะต้องการแหล่งเงินกู้เพื่อเริ่มกิจการของต้นเอง รวมถึงการจัดทำโครงการเกษตรกรพันธ์ใหม่ เพื่อรองรับแรงงานอีกทางหนึ่ง โดยความคืบหน้าขณะนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมต้นกล้าอาชีพ อยู่ระหว่างการอบรมและหลังจากสำเร็จ กระทรวงแรงงานฯ ก็จะแจ้งรายชื่อผู้ที่มีความต้องการเงินกู้มาให้ ธ.ก.ส. ทราบเพื่อให้เงินกู้ต่อไป โดยเฉลี่ย จะมีตั้งแต่รายละ ไม่กี่บาท จนถึงหลักแสนบาท
อย่างไรก็ตาม จากการทำแบบสอบถามและพูดคุยกับลูกค้า ธ.ก.ส.ที่เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพทั่วประเทศพบว่ามีเพียงส่วนน้อย หรือประมาณ 2,000-3,000 รายเท่านั้นที่บอกว่าต้องการเงินกู้เพื่อลงทุนกิจการ โดยความเห็นส่วนใหญ่ของผู้เข้าอบรมมีความเห็นว่าการอบรมจะช่วยให้สามารถหางานให้มากกว่า แต่การที่จะกู้เงินมาลงทุน เกรงว่าสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเมื่อกู้เงินไปลงทุน ก็อาจประสบปัญหาขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องการให้เงินกู้ช่วยเหลือนี้ ธ.ก.ส.คงปล่อยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ต้องการเงินกู้มากกว่า ในวันเดียวกันนี้ ธ.ก.ส. ยังได้จัดงานค่ายเยาวชนสำหรับบุตรหลานลูกค้าในช่วงปิดภาคเรียน โดยมีเยาวชนเข้าร่วม 450 คน เพื่ออบรมให้เรียนรู้ถึงหลักการและภาคปฏิบัติเรื่องการประหยัดและพอเพียง พร้อมมอบทุนการศึกษารายละ 1,000 บาทด้วย
