xs
xsm
sm
md
lg

‘คิดดี้ ทอยส์’ ของเล่นไม้ทวนกระแส ดึงเทคโนโลยีผงาดตลาดโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่ามกลางพิษเศรษฐกิจทรุด ระบาดทั่วโลก ผู้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกของไทย ต่างได้รับผลกระทบตามๆ กันไป ทว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ หากสามารถพัฒนาตัวเอง และคว้าโอกาสจากช่องทางในตลาดได้สำเร็จ

อย่างในราย บริษัท คิดดี้ ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายของเล่นเด็กจากไม้ยางพาราแบรนด์ “คิดดี้ ทอยส์” (Kiddy Toys) เป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กๆ มีพนักงานแค่ 9 คน ตั้งอยู่ใน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เริ่มต้นธุรกิจจากลองผิดลองถูก ขาดทักษะการผลิต จนของเสียเต็มโรงงาน แต่ด้วยสายตามองแนวโน้มตลาดอย่างแม่นยำ มุ่งผลิตสินค้าปลอดภัยได้คุณภาพ โดยนำเทคโนโลยีมาช่วย ประกอบกับพุ่งเข้าหาความช่วยเหลือของภาครัฐ จนสามารถผลิตสินค้าเป็นที่พึงพอใจของลูกค้า ทำให้วันนี้แม้ประเทศกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เอสเอ็มอีไทยรายนี้ กลับยังคงยืนหยัดอยู่รอดได้อย่างมั่นคง
อัญชลี วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คิดดี้ ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
อัญชลี วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คิดดี้ ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เล่าให้ฟังว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี เดิมผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้สัก แต่เมื่อไม้สักหายากขึ้น ประกอบกับตลาดเฟอร์นิเจอร์การแข่งขันรุนแรง จึงหันมาผลิตของเล่นและเกมส์ลับสมองสำหรับเด็กจากไม้จามจุรีและไม้ยางพาราแทน

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่เดิมใช้ผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่ ประกอบกับความคุ้นชินของพนักงานในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ พอมาทำของเล่นที่เป็นงานชิ้นเล็ก ความละเอียดสูง ทำให้สินค้าที่ผลิตออกมาไม่ได้คุณภาพ และไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ตลาดไม่ตอบรับ จนเกือบต้องปิดกิจการ

“การขาดทักษะและไม่มีความรู้พื้นฐานการทำของเล่นมาก่อน ทำให้ประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องแรงงาน เครื่องจักร ของเสียและสินค้าที่ด้อยคุณภาพเต็มโรงงาน รู้สึกท้อใจมาก เงินทุนที่มีอยู่ก็เริ่มร่อยหรอ จนเกือบถึงขั้นต้องปิดโรงงาน แต่การตัดสินใจครั้งสุดท้าย ลองไปร่วมออกบูทกับกรมส่งเสริมการส่งออก ที่ประเทศเยอรมนี โดยบริษัทใช้ประสบการณ์ที่ได้รับคำตำหนิของลูกค้าจากที่เคยไปออกบูทที่ฮ่องกงก่อนหน้านี้มาปรับปรุง อีกทั้ง ศึกษาตลาดในประเทศเยอรมนีด้วย ปรากฏว่าได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าหนึ่งราย แม้ยังถูกตำหนิอยู่บ้างด้านคุณภาพสินค้า แต่เขาก็ยอมสั่งออร์เดอร์ และช่วยแนะนำว่าควรปรับปรุงสินค้าอย่างไร ซึ่งลูกค้ารายนี้ยังคงเป็นคู่ค้าที่ดีกับเรามาโดยตลอด ถือเป็นจุดที่ทำให้คิดดี้ทอยส์ อยู่มาจนถึงวันนี้ ” อัญชลี กล่าว

ในส่วนการผลิตต้องพบอุปสรรคอย่างมากเช่นกัน เพราะเครื่องจักรที่ใช้อยู่เป็นเครื่องจักรเก่าผลิตเฟอร์นิเจอร์ ไม่เหมาะทำของเล่น ดังนั้น ตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องจักรทันสมัยเข้ามาใช้อย่างขาดความรู้ พอใช้ไปได้สักระยะต้องประสบปัญหาอีก ทั้งเหลือเศษไม้สูญเปล่าปริมาณมาก อีกทั้ง คนงานขาดความรู้ด้านเทคนิค จึงใช้ไม้อย่างสิ้นเปลือง

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว บริษัทได้เข้ารับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ( iTAP ) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้โครงการ “การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของเล่นเด็กและเกมส์จากไม้ยางพาราและไม้จามจุรี” และโครงการ “พัฒนาการทำ Line สี” โดย iTAP ได้จัดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา ช่วยพัฒนาเทคนิคอบไม้ ลดการสูญเสียจากกระบวนการผลิต และการให้ความรู้ในเรื่องของคุณสมบัติของสีที่ใช้

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อัญชลี ระบุว่า บริษัทสามารถลดการสูญเสีย และสิ้นเปลืองไม้ จากเดิมร้อยละ 60 - 70 เหลือเพียงร้อยละ 10 ช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก อีกทั้ง พนักงานได้รับความรู้และเสริมทักษะในการผลิต ช่วยเพิ่มกำลังผลิตขึ้นกว่าร้อยละ 50

นอกจากนี้ สามารถพัฒนาการผลิตได้แทบทุกขั้นตอน ตั้งแต่คัดเลือกวัตถุดิบ การตรวจคุณภาพไม้ กระบวนการผลิต เทคนิคอัดน้ำยารักษาเนื้อไม้ที่ถูกต้อง รวมไปถึง ใช้สีเหมาะสมไม่เป็นอันตราย และไม่มีสารปนเปื้อน ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้มาตรฐานสากล และยังมีความหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศได้ดีขึ้น ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 ล้านบาทต่อปี เป็น 60 ล้านบาทต่อปี โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20

อัญชลี ระบุด้วยว่า จากวิกฤตขาดความน่าเชื่อถือสินค้าของเล่นที่ผลิตจากประเทศจีน ทำให้โรงงานของเล่นจีน ต้องปิดตัวลงกว่า 4 พันแห่ง เป็นผลดีให้ตลาดของเล่นทั่วโลกทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา ฯลฯ หันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยแทน และจากที่บริษัทได้ปรับตัวยกระดับมาตรฐานการผลิตไว้พร้อมแล้ว จึงได้รับอานิสงส์มียอดสั่งเพิ่มสูงขึ้น จนผลิตแทบไม่ทัน โดยปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 60 คน จากเดิมที่มีอยู่เพียง 9 คน ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ส่งออกต่างประเทศกว่าร้อยละ 95 ส่วนที่เหลือ ขายในโชว์รูมหน้าโรงงาน
โชว์รูม คิดดี้ ทอยส์
“ จากการพัฒนาคุณภาพที่ไม่หยุดนิ่งและการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ทำให้ปัจจุบัน บริษัทสามารถยืนหยัดได้ แม้ประเทศประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งจะเห็นได้จากยอดการสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนผลิตแทบไม่ทัน แม้ยอดสั่งซื้อจากตลาดหลัก เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี จะชะงักลงไป แต่บริษัทฯ ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะนอกจากลูกค้าเดิมในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางแล้ว ยังได้ลูกค้าใหม่จากตลาดยุโรปและสหรัฐฯ กลับเข้ามา โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 ของผู้ซื้อของเล่นไม้รายใหญ่ของโลก ทำให้วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ” อัญชลี กล่าว
 
ภายในโรงงานผลิต ใน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
********************************

โทร. (053)311-134 หรือ www.kiddytoys.com
กำลังโหลดความคิดเห็น