xs
xsm
sm
md
lg

Eagle Coffee ลุยแฟรนไชส์ ครบสไตล์กาแฟ อิตาเลี่ยนยันยกล้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทุกวันนี้ร้านกาแฟขนาดย่อม ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจยอดฮิตของคนไทย ในท้องตลาดจึงมีทางเลือกลงทุนธุรกิจประเภทนี้หลากหลายแบรนด์ หนึ่งในนั้น คือ “อีเกิล คอฟฟี่” (Eagle Coffee) ของผู้ผลิตกาแฟคั่วบดรายใหญ่อย่าง “โซลิโต้” ได้คว้าโอกาสวิกฤตเศรษฐกิจ คนจำนวนมากกำลังมองหาอาชีพ ด้วยเหตุนี้ จึงโดดลงมาหวังชิงเค้กก้อนนี้เช่นกัน

อัคคพันธ์ ลีวุฒินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอฟฟี่ บีนเนอรี่ จำกัด
อัคคพันธ์ ลีวุฒินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอฟฟี่ บีนเนอรี่ จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องชงกาแฟ และผู้ผลิตเมล็ดกาแฟคั่วบด แบรนด์ “โซลิโต้” เผยแนวคิดการขยายธุรกิจในรูปแบบสร้างเครือข่ายร้านกาแฟขนาดย่อม “อีเกิล คอฟฟี่” เนื่องจากผลสำรวจระบุว่า ธุรกิจร้านกาแฟขนาดเล็ก ติด1ใน 3 สุดยอดอาชีพในฝันของคนไทย ส่วนในแง่ผู้บริโภค มีความต้องการดื่มกาแฟสดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่จากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้มีพฤติกรรมการใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น เป็นผลให้ความต้องการสินค้ามุ่งไปที่กาแฟคุณภาพดี ในราคาย่อมเยา และหาซื้อได้ง่าย

ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมที่จะตอบความต้องการข้างต้นได้ทั้งหมด ทั้งด้านวัตถุดิบ การผลิต การตลาด และประสบการณ์ในธุรกิจกาแฟ บริษัทจึงเสนอทางเลือกขายธุรกิจร้านอีเกิล คอฟฟี่ แก่ผู้ต้องการมีร้านกาแฟขนาดย่อมเป็นของตัวเอง หรือผู้มองหาอาชีพใหม่ ด้วยเงินลงทุนไม่สูงนัก

อัคคพันธ์ เผยว่า การบริหารอีเกิล คอฟฟี่ จะเป็นลักษณะกึ่งแฟรนไชส์ ให้ผู้สนใจมาเป็นสมาชิกใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 65,999 บาท ได้รับคีออส เครื่องชง เครื่องบด และอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมเปิดร้าน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีข้อกำหนดสำคัญต้องซื้อวัตถุดิบหลัก อย่างเมล็ดกาแฟ ผงกาแฟบด รวมถึงอุปกรณ์จำเป็นที่มีแบรนด์ อีเกิล คอฟฟี่ จากบริษัทเท่านั้น
โลโก้ของอีเกิล คอฟฟี่
เขา ระบุด้วยว่า จุดเด่นของอีเกิล คอฟฟี่ คือ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เนื่องจากบริษัทอยู่ในวงการกาแฟมายาวนานกว่า 60 ปี มีความพร้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สามารถสานฝันผู้อยากมีร้านกาแฟได้ครบวงจร โดยวัตถุดิบที่จะส่งให้สมาชิก เป็นชนิดเดียวกับที่ส่งให้ร้านกาแฟชื่อดังต่างๆ นำมาจากแหล่งปลูกทางภาคเหนือ และใต้ของไทย โดยผลิตภายใต้โรงงานที่ได้มาตรฐานสากล ผ่านรับรองทั้ง GMP HACCP และฮาลาล เป็นต้น

นอกจากนั้น ดีไซน์คีออสโดดเด่นสะดุดตา อยู่บนพื้นที่ไม่เกิน 2 ตารางเมตร ทำให้แทรกตัวไปวางในทำเลต่างๆ ได้ง่าย

และที่สำคัญ ภายในร้านมีสินค้าให้เลือกครบครัน ตั้งแต่กาแฟสไตล์อิตาเลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นเอสเปรสโซ คาปูชิโน ลาเต้ ไปจนถึงสไตล์ไทยโบราณ อย่างโอเลี้ยง ยกล้อ ชาดำเย็น ชาเย็น รวมทั้งหมดกว่า 16 รายการ ในราคาที่ผู้บริโภคยอมรับได้ แก้วละ 25-40 บาท ซึ่งราคานี้ หักค่าใช้จ่ายแล้ว สมาชิกจะมีกำไรต่อหน่วยประมาณ 30-40% สามารถคืนเงินลงทุนได้ภายในประมาณ 1-1.5 ปี

“ผมไม่ต้องการปั้นตัวเลข เหมือนแบรนด์อื่นๆ ที่บอกว่า จะคืนทุนได้ใน 3-6 เดือน แต่ผมเลือกจะประเมินคืนทุนจากข้อมูลความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งคำนวณจากปัจจัยต่างๆ ครบถ้วนแล้วว่า ระยะเวลานี้จะคืนทุนอย่างแท้จริง เพื่อให้ผู้จะมาเป็นสมาชิก ไม่ตั้งความหวังเกินความเป็นจริง และได้พิจารณาว่า ธุรกิจนี้เหมาะกับเขาหรือไม่” เจ้าของธุรกิจ ระบุ

ด้านการดูแลคุณภาพสาขานั้น เน้นควบคุมที่วัตถุดิบต้องสั่งจากบริษัทเท่านั้น และก่อนเปิดร้าน จัดฝึกอบรมให้สมาชิกสามารถทำเครื่องดื่มได้มาตรฐานเดียวกัน และมีคู่มือมอบไว้ให้ศึกษาอีก 1 เล่ม อีกทั้ง เรียกเก็บเงินค้ำประกันสัญญา 10,000 บาท เพื่อกำหนดให้สมาชิกต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ทำต่อกันไว้อย่างเคร่งครัด

ด้านการช่วยเหลือสมาชิก บริษัทจะดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ต่อเนื่อง ผ่านการออกงานแฟร์ อีกทั้ง จัดทีมให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาต่างๆ ให้แก่สมาชิกด้วย

ทั้งนี้ อีเกิล คอฟฟี่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา มีสมาชิกแล้วประมาณ 10 ราย และเป้าที่วางไว้ถึงสิ้นปีนี้ จะมีสมาชิกเปิดร้านกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 100 สาขา
คีออสอีเกิล คอฟฟี่
อัคคพันธ์ ระบุด้วยว่า แม้ปัจจุบัน จะมีคู่แข่งร้านกาแฟขนาดย่อมจำนวนมาก แต่ความต้องการของตลาดยังมีอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันการดื่มกาแฟกลายเป็นชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว โดยหัวใจที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ คือ ทำเลเหมาะสม ในวงเล็บว่า ค่าเช่าต้องไม่สูงเกินไป

“ผมมองว่า ธุรกิจร้านกาแฟขนาดเล็ก จะอยู่ได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ หากตั้งอยู่ในทำเลที่ใช่ และตอบโจทย์เรื่องรสชาติและราคาได้ตรงใจผู้บริโภค ดังนั้น ผู้ที่จะเป็นสมาชิก ผมแนะนำว่า ทำเลต้องเหมาะสม อย่างบางแห่งทำเลอาจจะดีมาก อยู่ในย่านชุมชน แต่ค่าเช่าสูงเกินไป รายได้ก็จะไปจมกับค่าเช่าทั้งหมด ดังนั้น ทำเลที่เหมาะสมในความหมายของผม คือ อยู่ในแหล่งชุมชน ในราคาค่าเช่าไม่สูงเกินไป หรืออาจจะต่อยอดกับธุรกิจเดิมของเขา เช่น เปิดร้านอาหารอยู่แล้ว ก็นำธุรกิจนี้ไปเสริม เป็นต้น” อัคคพันธ์ อธิบาย

*****************************

ลงทุนธุรกิจ Eagle Coffee
- เงินลงทุนเบื้องต้น 65,999 บ.
- ต้องสั่งวัตถุดิบหลักจากบริษัทเท่านั้น อย่างต่ำครั้งละ 1,500 บ.
- ราคาขายปลีกแก้วละ 25-40 บ. กำไรต่อหน่วยประมาณ 30-40%
- ควรมีเงินทุนหมุนเวียน 20,000 บ.ต่อเดือน
- คาดการณ์คืนทุนใน 1 -1.5 ปี
- บริษัทสนับสนุนการฝึกอบรม ทีมที่ปรึกษา และทำตลาดต่อเนื่อง
- เรียกเก็บเงินค้ำประกันสัญญา 10,000 บาท อายุสัญญา 2 ปี



*****************************

โทร.0-2440-0040 หรือ www.zolito.com
กำลังโหลดความคิดเห็น