‘แม่อุ้ย’ ปลุกชีพสารส้มดับกลิ่น ปั้นสูตรโบราณเปิดตลาดขึ้นห้าง

คนสมัยโบราณนิยมนำ “สารส้ม” มาถูบริเวณรักแร้เพื่อระงับกลิ่นกายหลังจากอาบน้ำ มาในยุคปัจจุบันการใช้สารส้มคลายความนิยมลงไป ถูกทดแทนด้วยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นรุ่นใหม่นานาชนิด ทว่า สรรพคุณของสารส้มยังคงได้รับการยกนิ้วให้เลยว่า ระงับกลิ่นได้ชะงักจริง ๆ

อย่างในรายผลิตภัณฑ์ผงระงับกลิ่น ตรา “แม่อุ้ย” ได้ปลุกชีพตำรับโบราณขนานนี้อีกครั้ง โดยนำเสนอความยอดเยี่ยมของ “สารส้ม” ซึ่งเป็นต้นตำรับระงับกลิ่นได้ผลดีที่สุด ทำจากธรรมชาติแท้ๆ จึงไม่ก่ออันตรายแก่ผู้ใช้

เอกธนัช บุณยมานพ เจ้าของธุรกิจ เล่าว่า เริ่มแรกทำธุรกิจเกี่ยวกับผ้าไหม อยู่ที่ จ.นครราชสีมา แต่เนื่องจากในภาคอีสาน มีผู้ผลิตผ้าไหมจำนวนมาก ทำให้มีการแข่งขันกันสูง ส่วนตัวมองว่าตลาดเริ่มตันแล้ว จึงพยายามมองหาธุรกิจใหม่ทดแทน กระทั่งวันหนึ่ง ลูกสาวโตขึ้น สังเกตเห็นว่าเริ่มมีกลิ่นตัว จนขาดความมั่นใจไม่กล้าเข้ากลุ่มเพื่อน ไม่กล้าเล่นกีฬา ในฐานะแม่รู้สึกไม่สบายใจ พยายามหาวิธีช่วยลูก

“ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้นึกถึงคุณปู่เลยนะ เพราะเราเคยสังเกตว่าทำไมปู่เราถึงไม่มีกลิ่นตัวเลย ทั้งๆ ที่ไม่เคยใช้ลูกกลิ้ง หรือน้ำหอม เห็นคุณปู่ใช้แป้งสีขาวทาซึ่งไม่รู้ว่าเป็นแป้งอะไร คุณปู่เสียไปนานแล้วเหลือแต่คุณย่าก็เลยไปถามว่าปู่ใช้อะไร คุณย่าบอกว่าใช้สารส้ม ซึ่งเป็นสูตรในวัง ซึ่งคุณย่าเคยทำงานอยู่ หลังจากนั้นก็เลยลองทำตามที่คุณย่าบอก ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ ให้ลูกสาวทดลองใช้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จกลิ่นตัวหายไปเลย พี่เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นก็เลยนำไปแจกจ่ายญาติพี่น้องลองใช้ดู ปรากฏว่าทุกคนใช้ได้ผลเหมือนกัน”

เจ้าของผลิตภัณฑ์ “แม่อุ้ย” ยอมรับว่า เวลานั้น ธุรกิจผ้าไหมไม่ค่อยดี เมื่อประสบความสำเร็จกับการทดลองผลิตแป้งระงับกลิ่นกาย เกิดความคิดว่า น่าจะผลิตออกขาย เพื่อเป็นรายได้เสริม หวังไว้ลึก ๆว่า จะเป็นธุรกิจหลักได้ในอนาคต หลังจากนั้น เริ่มผลิตโดยช่วงแรกใส่กระปุกขายคนใกล้ชิด พอเขาใช้ได้เกิดการบอกต่อไปเรื่อยๆ เป็นการทำตลาดในรูปแบบ “ปากต่อปาก”ใช้กลยุทธ์นี้มาแต่ต้นจนปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ได้ผลอย่างสูง

“ถ้าให้ประเมินความสำเร็จ “แม่อุ้ย” ตอนนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว เพราะ “แม่อุ้ย” มีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า เช่น ห้างเดอะมอลล์ และในแคตตาล็อกของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนเงินทุนวงเงิน 500,000 บาทจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) ช่วยให้มีทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ”

ทั้งนี้ สูตรของผลิตภัณฑ์ “แม่อุ้ย” คือ การนำเอาภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดกับมาเป็นร้อยปีพัฒนาต่อยอดโดยไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งสูตรของแม่อุ้ยได้จดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้ว มีส่วนผสมหลัก ๆ ประกอบด้วย สารส้ม 80% เมนทอล 15% และพิมเสน 5% โดยกระบวนการผลิตสะอาดถูกหลักอนามัย ผ่านการตรวจสอบ อย.เรียบร้อยแล้ว

จุดเด่นเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมี และสารตกค้าง จึงปลอดภัยต่อสุขภาพผู้บริโภค สามารถดับกลิ่นได้ทุกส่วนของร่างกาย มีประสิทธิภาพระงับกลิ่นได้นานครั้งละ 24 ชั่วโมง ไร้สีและกลิ่น เหมาะสำหรับผู้ชอบใช้น้ำหอม เพราะกลิ่นจะไม่ไปรบกวนหรือหักล้างน้ำหอมที่ใส่อยู่ รวมถึง ไม่มีส่วนผสมของครีมหรือน้ำมัน ทำให้ไม่เปื้อนเสื้อผ้า


สำหรับลักษณะของผลิตภัณฑ์จะคล้ายแป้งผง แต่ในความเป็นจริง ไม่มีส่วนผสมของแป้งเลย และจากการทดลองใช้ร่วมกับแป้งจะไม่สามารถขจัดกลิ่นกายได้เลย ดังนั้นจะแนะนำว่า หากใช้แม่อุ้ยอย่าใช้ร่วมกับแป้งโดยเฉพาะบริเวณรักแร้จะทำให้ไม่ได้ผล

“ดิฉันกล้าการันตีหากใช้ไม่ได้ผลมาเอาเงินคืนได้ภายใน 7 วัน แต่มีข้อแม้ว่าอย่าใช้ร่วมกับแป้ง แป้งทาส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ แต่บริเวณที่มีแบคทีเรีย อาทิ รักแร้ เท้า อย่าใช้ทาร่วมกัน เพราะจะไม่ได้ผล โดยปกติทั่วไปผงระงับกลิ่นกายจะอยู่ได้นาน 48 ชั่วโมง ในกรณีคนที่มีกลิ่นกายแรงตามปกติแนะนำให้ใช้เพียงวันละ 1 ครั้ง ถ้ามีกลิ่นแรงมาก ๆ จนผิดปกติมาก ๆ แนะนำว่าจะใช้ทุก 6 ชั่วโมง เชื้อแบคทีเรียจะค่อย ๆ หายไป เพราะสารส้มจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย”

เอกธนัช อธิบายตัวผลิตภัณฑ์ว่า ปัจจุบันแบ่งสินค้าออกเป็น 3 ชนิด คือ ผงระงับกลิ่นกาย ผงระงับกลิ่นเท้า บรรจุกระปุกละ 75 กรัม ราคาขายปลีกกระปุกละ 120 บาท นอกจากนั้น คือ ผงขัดผิวนมขมิ้น บรรจุ 75 กรัม ขายคู่กับ วิตามิน 4 แคปซูล ราคา 150 บาท

ด้านการตลาดนอกจะกระจายตามห้างสรรพสินค้าแล้ว ขณะนี้ต้องการตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งรายการส่งเสริมการขาย สั่ง 1 โหลส่งขวดละ 100 บาท ราคาปกติหน้าร้าน 120 บาท ถ้าสั่ง 2 โหลส่งขวดละ 90 บาท ถ้าสั่งจำนวนมาก 50 ขวดขึ้นไปส่งขวดละ 80 บาท และ 100 ขวดขึ้นไปส่งในราคา 70 บาท โดยจัดสั่งซื้อผ่านไปรษณีย์ ซึ่งราคาดังกล่าวตัวแทนจำหน่ายจะมีกำไรกว่า 40%ต่อหน่วย สำหรับตลาดต่างประเทศจะมีคนมารับสินค้าไปขายบ้างแล้ว ทว่า ออร์เดอร์ยังมีไม่มาก เช่น ไนจีเรีย จีน ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น ซึ่งจะพยายามเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้มากที่สุด เพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้นตามไปด้วย

************************************

โทร. 081-876-3823 WWW.MAS-C.COM