มท.1 เผยเคลียร์ปัญหากับผู้ประกอบการสินค้าโอทอปแล้ว เชื่อเปลี่ยนสถานที่จัดงานไม่กระทบยอดคนร่วมงานน้อยลง ฟุ้งช่วยยกระดับโอทอปขึ้นชั้นอินเตอร์ได้ ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับห้างดัง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การจัดงานโอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้ 2009 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. - 5 เม.ย. 2552 รวม 10 วัน ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงสถานที่จัด จากเดิมรวมแห่งเดียว ณ อิมแพคเมืองทองธานี มาเป็นกระจายจัดตั้งแต่สนามศุภชลาศัย ศูนย์การค้ามาบุญครอง สยามดิสคัฟเวอรี ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิล์ด อมรินทร์พลาซ่า และห้างสรรพสินค้าดิเอ็มโพเรียม
ทั้งนี้ จากที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ประกอบการโอทอปส่วนหนึ่ง เพราะหวั่นจะขายไม่ดีเหมือนเดิม แต่หลังการเจรจาสามารถตกลงกันได้แล้ว และมั่นใจว่า การจัดงานจะไม่มีปัญหา โดยมีผู้ค้ามาร่วมทั้งหมดกว่า 3,300 ราย และมั่นใจว่า การจัดงานดังกล่าว จะเป็นการยกระดับสินค้าโอทอปให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติได้เพิ่มขึ้น
นายชวรัตน์ กล่าวต่อว่า การใช้รูปแบบดังกล่าว เป็นลักษณะแหล่งชอปปิ้งสตรีท เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีชาวไทยและต่างชาติมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก จะถือโอกาสนี้แนะนำสินค้าโอทอปดีมีคุณภาพตั้งแต่ระดับ 2-5 ดาว ให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก มั่นใจว่าจะมีผู้มาซื้อสินค้าเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าที่จัดที่อิมแพค เมืองทองธานี อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังกล่าวเชิญชวนผู้ผลิตสินค้าโอทอปมาร่วมงาน โดยขอให้คิดว่าเป็นการให้ความสะดวกแก่ผู้บริโภคและผู้ซื้อถือเป็นเรื่องสำคัญกว่า ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมทางด้านการบริการอีกแบบ พร้อมยืนยันการจัดงานครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร ไม่มีผลประโยชน์กับห้างสรรพสินค้าต่างๆ และขอให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลจะไม่พากลุ่มผู้ผลิตโอทอปมาขายขาดทุน
นายชวรัตน์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเอกชนตามแนวถนนสุขุมวิทตั้งแต่สนามศุภชลาศัยจนถึงสวนเบญจศิริ ต่างจากงานโอทอปในอดีต ซึ่งจะได้เป็นเพิ่มศักยภาพการผลิต และเพิ่มคุณค่าให้สินค้าโอทอป โดยกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนให้สร้างความสะดวกให้ผู้ซื้อเดิม ขยายไปกลุ่มผู้ซื้อใหม่ที่มีกำลังซื้อมากขึ้น จึงจัดงานบริเวณศูนย์การค้าสำคัญ และยังสามารถประหยัดงบได้ไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าร่วมงาน สามารถแจ้งสายตรงมหาดไทยที่หมายเลข 1789 ได้
ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การย้ายสถานที่จัดงานโอทอปมาไว้บริเวณนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจปัจจุบัน กำลังซื้อลดลงมาก ถ้าเราไม่กล้าทำสิ่งที่แตกต่าง ยอดขายสินค้าอาจตกได้ จึงต้องหาลูกค้ากลุ่มที่กล้าใช้เงิน ซึ่งขอขอบคุณ รมว.และ รมช.มหาดไทย ที่เสนอโครงการนี้ เพราะต้องการนำภูมิปัญญาไทยเข้าสู่จุดที่มีกำลังซื้อมากที่สุด มีทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบกับการแจกเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจคนละ 2 , 000 บาท กับประชาชน 5.5 ล้านคน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. ดังนั้นก็สามารถนำมาเป็นกำลังซื้อได้ส่วนหนึ่ง เราไม่กระตุ้นการซื้อสินค้านำเข้าฟุ่มเฟือย แต่จะนำสินค้ามาใกล้ผู้มีกำลังซื้อ