‘คลองท่อม คอฟฟี่’ สดแท้แดนใต้ ยกเครื่องกาแฟชาวบ้านขึ้นห้าง

ด้วยตำแหน่งพื้นที่ และอากาศเหมาะสม ผลผลิตเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ที่ปลูกในพื้นที่สูงของ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม ขายได้ราคาสูง กลายเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งประจำท้องถิ่น ที่ผ่านมา เกษตรกรในพื้นที่ จึงเพาะปลูกต้นกาแฟเป็นอาชีพหลักจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี สำหรับผลิตผลทางการเกษตร หนีไม้พ้น ปัญหาราคาขึ้นลงตามมูลค่าการตลาด จากเมล็ดกาแฟสดที่เคยขายได้ในราคาสูงเกือบ 200 บาทต่อกิโลกรัม พอมาถึงปี พ.ศ. 2545 กลับร่วงลงมาเหลือแค่ 22 บาทต่อกิโลกรัม แถมแนวโน้มยังลดลงเรื่อยๆ ด้วย

จากปัญหาดังกล่าว เกษตรกรส่วนใหญ่เลือกหนีภาวะขาดทุน โค่นต้นกาแฟทิ้งหันไปปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมันและพืชชนิดอื่นแทน ต่างกับรายของ “ประไพ จันทรักษ์” ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส หันมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตด้วยการแปรรูปเมล็ดกาแฟสด เป็นสินค้าประเภทต่างๆ ตามความต้องการของตลาด ภายใต้ชื่อว่า “คลองท่อม คอฟฟี่ ตรา นกแต้วแร้ว “

ประไพ จันทรักษ์ หนึ่งในเจ้าของสวนกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ใน ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เล่าว่า ชาวสวนกาแฟในท้องถิ่นส่วนใหญ่เคยขายแต่เมล็ดกาแฟสด พอประสบปัญหาราคาตกต่ำก็ถอดใจ หาทางออกด้วยการตัดทิ้งหันไปปลูกพืชชนิดอื่นๆ แทน

“สำหรับป้าไม่อยากจะทิ้งอาชีพทำสวนกาแฟ พอราคาตก ป้ากลับมองว่านี่คือโอกาส ทดลองนำเมล็ดกาแฟดิบที่ขายไม่ได้ราคามาแปรรูปคั่วบด ตั้งร้านชงขายแบบสดๆ ในตลาด คิดค้นสูตรลองผิดลองถูกจนได้รสชาติถูกใจคอกาแฟยามเช้า ซึ่งก็ขายได้ดี จากนั้นก็เริ่มชักชวนเพื่อนบ้าน ทำกาแฟคั่วบดฝากขายตามร้านต่างๆ จนสินค้ากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น” ประไพ เผยจุดเริ่มต้นธุรกิจ และเล่าต่อว่า

เมื่อมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้ อยากแบ่งปันโอกาสให้แก่เพื่อนคนอื่นๆ ที่ยังรักสวนกาแฟ ในปี 2545 จึงรวบรวมสมาชิก จัดตั้ง “กลุ่มสตรีเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้” ขึ้น โดยรับหน้าที่เป็นประธานกลุ่ม ทำหน้าที่บริหารจัดการทุกอย่าง

ในการผลิตสินค้าประจำกลุ่มฯ เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน 1,000,000 บาท ที่ขอกู้จากโครงการกองทุนหมู่บ้าน ก่อสร้างอาคาร จัดซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ ลงมือทำกันอย่างจริงจังจนเห็นผลเป็นรูปธรรม สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดียิ่งๆ ขึ้นอีก จนปัจจุบันมีสมาชิกมากถึง 40 คน

ประไพ ระบุว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนอกจากได้รับความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม ยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ สาธารณสุขจังหวัด กรมการพัฒนาชุมชน อุตสาหกรรมจังหวัด เป็นต้น ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้ แนะนำเทคนิคต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกระบวนการผลิต คุณภาพสินค้า รวมถึงบรรจุภัณฑ์ จนได้รับรองมาตรฐานทั้งจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) รวมถึงได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาว

“หลังจากจัดตั้งกลุ่มได้ 2 ปี เราก็เริ่มเห็นความสำเร็จ ได้ออกบูทงานสินค้าโอทอปที่เมืองทองธานี และตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ปี 2547 สร้างยอดขายได้กว่า 500,000 บาท จากนั้นก็ขายดีมาเรื่อยๆ และเมื่อปีที่มาได้รับความอนุเคราะห์จากห้างเทสโก้ โลตัส สาขากระบี่ ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้นำสินค้าไปวางจำหน่ายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้เรามีช่องทางกระจายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก” ประธานกลุ่มฯ ระบุ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้น อยู่ที่รสชาติเข้มข้น กับกลิ่นหอมกรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมล็ดกาแฟสดภาคใต้ 100%

ทั้งนี้ การผลิตกาแฟคั่วบดให้ได้คุณภาพตามต้องการนั้น เคล็ดลับต้องพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเก็บเมล็ดสดต้องคัดเอาเฉพาะเมล็ดสุกที่ได้คุณภาพเท่านั้น ตากแดดให้แห้งสนิทประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วนำไปสีเอาเปลือกออก จากนั้นนำสารกาแฟที่ได้บ่มไว้ประมาณ 1 ปี จึงนำเอามาคั่ว

หลังจากนั้น หมักไว้อีกประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วนำไปบดให้ละเอียด โดยก่อนจะบดต้องคัดเมล็ดอ่อนหรือเสียทิ้งไป เพราะหากปล่อยให้ปะปนลงไปจะส่งผลรสชาติกาแฟเปลี่ยนทันที ขั้นตอนสุดท้าย นำผงกาแฟที่บดละเอียดผสมกับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งสั่งมาจากภาคเหนือ ในสัดส่วนที่ลงตัวได้รสชาติตามต้องการ

และที่สำคัญอีกประการ สินค้าต้องใหม่ สด อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นจะผลิตตามจำนวนออร์เดอร์ ไม่มีสินค้าค้างสต็อก เพื่อรักษาคุณภาพ ส่งตรงถึงมือลูกค้าภายในเวลาที่กำหนด

ด้านช่องทางตลาด ผลิตตามออเดอร์ส่งตามโรงแรมที่พัก ใน จ.กระบี่ และใกล้เคียง อีกทั้ง ส่งเข้าขายในห้างเทสโก้โลตัส สาขากระบี่ นอกจากนั้น ผ่านการออกบูทในงานโอทอปประจำปี มีให้เลือกทั้งกาแฟสดคั่วบดชั่งเป็นกิโลขายสูตรร้อน ราคา 350 บาท/กิโลกรัม สูตรเย็น ราคา 300 บาท/กิโลกรัม อีกทั้ง มีแบบกาแฟสดคั่วบดบรรจุซองสำเร็จรูปพร้อมชงดื่ม บรรจุในกล่อง ๆ ละ 10 ซอง ราคา 80 บาท

ด้วยวัยที่ล่วงเข้าสู่ปีที่ 68 แล้ว ประไพ ระบุว่า ไม่คิดขยายกิจการให้ใหญ่โตเกินตัว ขอยึดหลักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต ทำงานในสิ่งตัวเองถนัดให้ดีที่สุด มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐานยิ่งๆ ขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเพื่อนสมาชิก

********************************************

โทร. 089- 787-7446, 075-640-279