สสว. จับมือ สวสท. แถลงผลงาน 2 โครงการทำร่วมกัน คือ โครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจ และ โครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับ SMEs โดยมีผู้ผ่านการอบรมและได้รับมอบประกาศนียบัตรจำนวน 45 ราย
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ เปิดเผยภายหลังปิดโครงการและมอบประกาศนียบัตรโครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจและโครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับ SMEs ว่า สสว.ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างสสว. และสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) โดยดำเนินการผ่าน 2 โครงการหลัก โครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับ SMEs และโครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจ
สำหรับโครงการที่ปรึกษาธุรกิจ จะสามารถนำมาตอบโจทย์เกี่ยวกับความจำเป็นในการพัฒนาธุรกิจภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการว่าจ้างที่ปรึกษาหรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้านเข้ามาช่วยคิด พัฒนา และปรับปรุงธุรกิจแต่ละประเภทในด้านที่ SMEs ประสบปัญหา เพื่อที่จะสามารถพัฒนาสินค้าหรือบริการจนสามารถเข้าสู่ตลาดได้ และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน
ส่วนในปี 2551 นับเป็นปีแรกที่สมาคมฯได้เริ่มดำเนินนโยบายต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมาในระยะแรก นอกจากจะมุ่งเน้นการนำเสนอภาพรวมของสมาคม ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศและประชาชนทั่วไปแล้ว ซึ่งทาง สสว. และสมาคมฯ จึงได้จัดให้มีพิธีปิดโครงการแถลงผลการดำเนินโครงการ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ที่ผ่านการอบรมและเข้ารับคำปรึกษาจากคณะที่ปรึกษาโครงการ Consultancy จำนวน 45 บริษัท
ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังจัดให้มีโครงการต่างๆ อันเป็นประโยชน์และสามารถต่อยอดองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการได้นำไปใช้ได้จริงผ่านโครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจ (โครงการ Consultancy) และโครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management (KM) เพื่อใช้กับ SMEs (โครงการ KM.) โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ตามแผนปฏิบัติการส่งเสริม SMEs ปี 2551 หลักจากได้ดำเนินโครงการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทาง สสว. และสมาคมฯ จึงได้จัดให้มีพิธีปิดโครงการแถลงผลการดำเนินโครงการ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ผลสรุปปิดโครงการพบว่า โครงการ Consultancy ดำเนินการจัดอบที่ปรึกษาด้านธุรกิจแก่ SMEs โดยเน้นด้านการตลาดและการบัญชี ให้ความรู้ สอดแทรกด้วยการให้คำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างใกล้ชิดโดย นาง สุณี สถตินันท์ ประธานโครงการ ร่วมมือกับศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจมหาวิทยาลัยอัมสัมชัญ และผู้แทนศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านธุรกิจสมาคมนักศึกษาเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ก่อนที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้ ปัญหาที่พบคือเป็นองค์กรที่ยังไม่ได้จัดระบบและ 95% ที่พบยังไม่ค่อยสนใจในเรื่องของบัญชีและด้านการตลาดมากนัก หลังจากได้อบรมครั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการทุกองค์กรได้ให้ความสำคัญของด้านระบบบัญชีมากขึ้นเห็นเป็นรูปธรรม ได้ประโยนช์จริงๆ แล้วนำตรงนี้ไปวางแผนธุรกิจในอนาคตได้
ด้านนายคมสัน เหล่าศิลปเจริญ ประธานโครงการจัดกิจกรรม I-INSPIRE เสริมสร้างแรงจูงใจและพัฒนาองค์ความรู้ธุรกิจ SMEs โดยวิทยากรให้ความรู้ทรงคุณวุฒิจากบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศจัดไทยจัดโปรมแกรมดูงาน ณ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศ และ บริษัท S.P.S. COOPERATE ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อส่งออก และฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยตอนนี้มีหน่วยงานเกิดขึ้นมาก การจ้างงานลดลงจะเชื่อมโยงกับภาครัฐอย่างไรสร้าง SMEs จึงจะมีความแข็งแกร่ง จึงได้สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการที่เข้าอบรมสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อพัฒนาองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ เปิดเผยภายหลังปิดโครงการและมอบประกาศนียบัตรโครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจและโครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับ SMEs ว่า สสว.ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างสสว. และสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) โดยดำเนินการผ่าน 2 โครงการหลัก โครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับ SMEs และโครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจ
สำหรับโครงการที่ปรึกษาธุรกิจ จะสามารถนำมาตอบโจทย์เกี่ยวกับความจำเป็นในการพัฒนาธุรกิจภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการว่าจ้างที่ปรึกษาหรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้านเข้ามาช่วยคิด พัฒนา และปรับปรุงธุรกิจแต่ละประเภทในด้านที่ SMEs ประสบปัญหา เพื่อที่จะสามารถพัฒนาสินค้าหรือบริการจนสามารถเข้าสู่ตลาดได้ และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน
ส่วนในปี 2551 นับเป็นปีแรกที่สมาคมฯได้เริ่มดำเนินนโยบายต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมาในระยะแรก นอกจากจะมุ่งเน้นการนำเสนอภาพรวมของสมาคม ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศและประชาชนทั่วไปแล้ว ซึ่งทาง สสว. และสมาคมฯ จึงได้จัดให้มีพิธีปิดโครงการแถลงผลการดำเนินโครงการ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ที่ผ่านการอบรมและเข้ารับคำปรึกษาจากคณะที่ปรึกษาโครงการ Consultancy จำนวน 45 บริษัท
ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังจัดให้มีโครงการต่างๆ อันเป็นประโยชน์และสามารถต่อยอดองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการได้นำไปใช้ได้จริงผ่านโครงการพัฒนาและสนับสนุนระบบที่ปรึกษาธุรกิจ (โครงการ Consultancy) และโครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management (KM) เพื่อใช้กับ SMEs (โครงการ KM.) โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ตามแผนปฏิบัติการส่งเสริม SMEs ปี 2551 หลักจากได้ดำเนินโครงการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทาง สสว. และสมาคมฯ จึงได้จัดให้มีพิธีปิดโครงการแถลงผลการดำเนินโครงการ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ผลสรุปปิดโครงการพบว่า โครงการ Consultancy ดำเนินการจัดอบที่ปรึกษาด้านธุรกิจแก่ SMEs โดยเน้นด้านการตลาดและการบัญชี ให้ความรู้ สอดแทรกด้วยการให้คำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างใกล้ชิดโดย นาง สุณี สถตินันท์ ประธานโครงการ ร่วมมือกับศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจมหาวิทยาลัยอัมสัมชัญ และผู้แทนศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านธุรกิจสมาคมนักศึกษาเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ก่อนที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้ ปัญหาที่พบคือเป็นองค์กรที่ยังไม่ได้จัดระบบและ 95% ที่พบยังไม่ค่อยสนใจในเรื่องของบัญชีและด้านการตลาดมากนัก หลังจากได้อบรมครั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการทุกองค์กรได้ให้ความสำคัญของด้านระบบบัญชีมากขึ้นเห็นเป็นรูปธรรม ได้ประโยนช์จริงๆ แล้วนำตรงนี้ไปวางแผนธุรกิจในอนาคตได้
ด้านนายคมสัน เหล่าศิลปเจริญ ประธานโครงการจัดกิจกรรม I-INSPIRE เสริมสร้างแรงจูงใจและพัฒนาองค์ความรู้ธุรกิจ SMEs โดยวิทยากรให้ความรู้ทรงคุณวุฒิจากบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศจัดไทยจัดโปรมแกรมดูงาน ณ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศ และ บริษัท S.P.S. COOPERATE ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อส่งออก และฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยตอนนี้มีหน่วยงานเกิดขึ้นมาก การจ้างงานลดลงจะเชื่อมโยงกับภาครัฐอย่างไรสร้าง SMEs จึงจะมีความแข็งแกร่ง จึงได้สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการที่เข้าอบรมสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อพัฒนาองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ