สสว. จับมือ สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) ต่อยอดองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs มุ่งเดินหน้านำระบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management: KM) ด้านต่างๆ หวังเสริมพลังศักยภาพธุรกิจ SMEs อย่างเป็นระบบ
นางนิรมล ทิรานนท์ นายกสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) หรือ TWoSA (ทูซ่า) เปิดเผยว่า ทางสมาคมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากจำนวนของผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี สตรีที่สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมเพิ่มขึ้นแล้วถึงกว่า 100 ราย หลังจากเปิดตัวสมาคมอย่างเป็นทางการเพียง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยจะแบ่งระดับของสมาชิกออกเป็น ผู้เริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจ ร้อยละ 10 , ผู้ประกอบการระดับ Domestic (ผลิตและจำหน่ายในประเทศ) คิดเป็นร้อยละ 60 และ ร้อยละ 30 เป็นผู้ประกอบการแบบขยายตัว โดยที่ผ่านมาทางสมาคมได้จัดโครงการอบรมสัมมนา และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆแก่ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การอบรมหลักสูตรด้านการตลาด, การเงินและบัญชี โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเป็นผู้ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลักสูตรต่างๆที่ทางสมาคมได้จัดขึ้นนั้น เราจะเน้นเรื่องการพัฒนาความรู้และการจัดการอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน ตลอดจนเน้นการปฏิบัติจริงและลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละโครงการ ทางสมาคมจะทำการคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดของหลักสูตรฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตรเข้าร่วมโครงการเพียงหลักสูตรละประมาณ 30-40 รายเท่านั้น
สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2551 นั้น ทางสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) ได้กำหนดแนวทางและแผนกิจกรรม โดยพุ่งเป้าหมายไปที่การนำระบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management หรือ KM) มาใช้กับภาคธุรกิจ SMEs โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดการความรู้ในด้านต่างๆอย่างเป็นระบบ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างเป็นระบบ อันจะส่งผลให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในเชิงแข่งขันให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงแรกทางสมาคมฯได้เปิดตัว “โครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับธุรกิจ SMEs” ขึ้น ซึ่งหลักสูตรและหัวข้อของการฝึกอบรมภายใต้โครงการดังกล่าว จะมีความเข้มข้น ชัดเจนและลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติ, Workshop จริงด้วยตัวเองอีกด้วย
ทั้งนี้ หลักสูตรต่างๆที่ทางสมาคมฯได้จัดขึ้น จะเน้นความสำคัญและประโยชน์ที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs มีความต้องการ และเติมเต็มในสิ่งที่ขาดอยู่เป็นหลัก เช่น หลักสูตรด้านการตลาด, การบัญชี, การเพิ่มผลผลิต ฯลฯ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจ นอกจากนี้ ยังมีการอบรมหลักสูตรด้าน IT ซึ่งปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ยังนำไอทีมาใช้เสริมการพัฒนาและจัดระบบต่างๆให้กับธุรกิจคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นเครื่องมือที่สามารถจะช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพรวดเร็วมากขึ้น ช่วยบริหารจัดการภายใน เช่น ทราบจำนวนสินค้าคงเหลือ สินค้าที่ขาดสต๊อค ฯลฯ ทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการทราบถึงต้นทุนการผลิต ราคาสินค้า ซึ่งมีส่วนช่วยให้การขายมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ดังนั้น ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 นี้ทางสมาคมฯจะจัดให้มีโครงการอบรมรวม 3-4 หลักสูตร และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ 60-70 อีกด้วย
สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) ได้เริ่มก่อตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมิถุนายน 2550 ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็น และความรู้ทางธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังมุ่งส่งเสริมและยกระดับศักยภาพบทบาทในการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สตรีในภาคเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทย ตลอดจนรวมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาและเสริมสร้าง SMEs ไทยให้เติบโตและเข้มแข็ง มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดไทยและในตลาดต่างประเทศ
นางนิรมล ทิรานนท์ นายกสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) หรือ TWoSA (ทูซ่า) เปิดเผยว่า ทางสมาคมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากจำนวนของผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี สตรีที่สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมเพิ่มขึ้นแล้วถึงกว่า 100 ราย หลังจากเปิดตัวสมาคมอย่างเป็นทางการเพียง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยจะแบ่งระดับของสมาชิกออกเป็น ผู้เริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจ ร้อยละ 10 , ผู้ประกอบการระดับ Domestic (ผลิตและจำหน่ายในประเทศ) คิดเป็นร้อยละ 60 และ ร้อยละ 30 เป็นผู้ประกอบการแบบขยายตัว โดยที่ผ่านมาทางสมาคมได้จัดโครงการอบรมสัมมนา และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆแก่ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การอบรมหลักสูตรด้านการตลาด, การเงินและบัญชี โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเป็นผู้ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลักสูตรต่างๆที่ทางสมาคมได้จัดขึ้นนั้น เราจะเน้นเรื่องการพัฒนาความรู้และการจัดการอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน ตลอดจนเน้นการปฏิบัติจริงและลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละโครงการ ทางสมาคมจะทำการคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดของหลักสูตรฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตรเข้าร่วมโครงการเพียงหลักสูตรละประมาณ 30-40 รายเท่านั้น
สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2551 นั้น ทางสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) ได้กำหนดแนวทางและแผนกิจกรรม โดยพุ่งเป้าหมายไปที่การนำระบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management หรือ KM) มาใช้กับภาคธุรกิจ SMEs โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดการความรู้ในด้านต่างๆอย่างเป็นระบบ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างเป็นระบบ อันจะส่งผลให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในเชิงแข่งขันให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงแรกทางสมาคมฯได้เปิดตัว “โครงการพัฒนาและนำระบบ Knowledge Management เพื่อใช้กับธุรกิจ SMEs” ขึ้น ซึ่งหลักสูตรและหัวข้อของการฝึกอบรมภายใต้โครงการดังกล่าว จะมีความเข้มข้น ชัดเจนและลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติ, Workshop จริงด้วยตัวเองอีกด้วย
ทั้งนี้ หลักสูตรต่างๆที่ทางสมาคมฯได้จัดขึ้น จะเน้นความสำคัญและประโยชน์ที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs มีความต้องการ และเติมเต็มในสิ่งที่ขาดอยู่เป็นหลัก เช่น หลักสูตรด้านการตลาด, การบัญชี, การเพิ่มผลผลิต ฯลฯ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจ นอกจากนี้ ยังมีการอบรมหลักสูตรด้าน IT ซึ่งปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ยังนำไอทีมาใช้เสริมการพัฒนาและจัดระบบต่างๆให้กับธุรกิจคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นเครื่องมือที่สามารถจะช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพรวดเร็วมากขึ้น ช่วยบริหารจัดการภายใน เช่น ทราบจำนวนสินค้าคงเหลือ สินค้าที่ขาดสต๊อค ฯลฯ ทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการทราบถึงต้นทุนการผลิต ราคาสินค้า ซึ่งมีส่วนช่วยให้การขายมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ดังนั้น ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 นี้ทางสมาคมฯจะจัดให้มีโครงการอบรมรวม 3-4 หลักสูตร และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ 60-70 อีกด้วย
สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสตรีไทย (สวสท.) ได้เริ่มก่อตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมิถุนายน 2550 ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็น และความรู้ทางธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังมุ่งส่งเสริมและยกระดับศักยภาพบทบาทในการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สตรีในภาคเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทย ตลอดจนรวมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาและเสริมสร้าง SMEs ไทยให้เติบโตและเข้มแข็ง มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดไทยและในตลาดต่างประเทศ
