ธุรกิจร้านซักอบรีด เติบโตขึ้นมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคนเมืองหลวง ที่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ เลือกที่จะอยู่อาศัยบนคอนโดเนียมเป็นหรือ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพราะต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตกับการทำงาน จึงต้องการที่อยู่อาศัยที่ใกล้ที่ทำงานมากที่สุด ซึ่งความคับแคบของสถานที่ และเวลาว่างที่น้อยลง ทำให้คนเมืองหลวงต้องการความสะดวกสบาย และการพักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงวันหยุด ภาระการดูแลเสื้อผ้า จึงตกไปอยู่ที่ร้านซักอบรีด
ปัจจุบันจึงมีร้านซักอบรีด เปิดให้บริการมากกว่า 348 แห่งทั่วประเทศ ข้อมูลจากการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์ในหนังสือเยลโล่ เพจเจท โดยแบ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯจำนวน 130 แห่ง ส่วนร้านที่ให้บริการแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้น มีเพียงไม่กี่แห่ง และหนึ่งในนั้นคือร้านที่มีชื่อว่า Lavanda ลาเวนด้า
สำหรับร้านซักรีด Lavanda แห่งนี้ เปิดให้บริการนานกว่า 23 ปี โดยการบริหารงานของ นายเกษมสุข ชินะพัฒนวงศ์ เจ้าของหนังสือ “ทำซักรีดให้รวย” ที่เริ่มปรากฏโฉมหน้าให้เห็นกันบ้างแล้วตามแผงหนังสือ ซึ่งร้านแห่งนี้ คุณเกษม ได้ปลุกปั้นขึ้นมากับมือตัวเอง โดยที่ไม่ได้ไปร่ำเรียนมาจากที่ไหน แต่อาศัยครูพักลักจำ และชอบทดลอง ลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเอง จนสามารถสร้างร้านซักรีดแห่งนี้ จนเป็นที่รู้จัก และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า จนทำให้วันนี้ ลูกค้า ของ Lavanda ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าประจำกัน
คุณเกษม เล่าว่า ได้เริ่มคิดทำร้านซักรีด เพราะวันหนึ่งเราต้องซักเสื้อผ้าเอง ก็รู้สึกว่าเหนื่อยมาก และได้ไปจ้างซัก เกิดความคิดว่า การทำร้านซักรีด น่าจะได้ผลตอบแทนดี เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรมาก จึงได้เปิดร้านซักรีดขึ้นในช่วง 23 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้ไปร่ำเรียนวิชาความรู้มาจากที่ไหน แต่อาศัยว่า ผมเป็นคนชอบเรื่องของเทคโนโลยี และพอมีทุนจากการที่ทางบ้านให้การช่วยเหลือ จึงได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรเข้ามาช่วย ซึ่งในช่วงนั้น ยังไม่มีร้านซักรีดที่ยอมลงทุนซื้อเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยมาช่วยมากนัก เรียกได้ว่า ร้านเราเป็นร้านแรกที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งไม่นับรวมร้านซักอบรีดที่ให้บริการลูกค้าในโรงแรม
สำหรับร้าน Lavanda เปิดให้บริการแบบครบวงจร โดยมีทั้งบริการซักรีดทั่วไป ซักแห้ง ซ่อมแซมเสื้อผ้า กรณีเกิดการชำรุดจากกระบวนการซัก รีด ปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั้งหมด 7 สาขา และกำลังจะเปิดอีก 2 สาขา ทำเลที่ตั้งส่วนใหญ่จะอยู่ใจกลางเมืองหลวง อย่าง สาธร สีลม สุขุมวิท เพราะเป็นแหล่งธุรกิจ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าของเรา ส่วนเซ็นเตอร์ที่เป็นสถานที่ซัก อบ รีด อยู่ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ส่วนสาขาอื่นจะเป็นหน้าร้านที่ไว้คอยรับลูกค้าเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีกลุ่มลูกค้าที่ร้านเวดดิ้ง ต่าง ๆ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ถึง 18 ร้าน ที่นำชุดแต่งงานมาใช้บริการที่ร้าน โดยจุดเด่นของร้าน นอกจากเครื่องมือที่ทันสมัย โดยในส่วนของซักแห้งมีแบบที่ซักน้ำมัน และแบบที่ซักน้ำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากในขณะนี้ เพราะจะทำให้ผ้ามีสีสันที่สดใส ไม่ซืดจาง และสิ่งสำคัญที่ทำให้มัดใจลูกค้าได้ คือ การใส่ใจดูแลเสื้อผ้าของลูกค้า แม้แต่จุดเล็กๆ น้อย พร้อมกับคอยให้คำแนะนำเพื่อช่วยลูกค้าในการดูแลเสื้อผ้าอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ จุดหนึ่ง ที่ทำให้ร้านLavanda มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากทางร้านมีการอัปเดทเทคโนโลยีด้านการซักรีดใหม่ตลอดเวลา เพราะปัจจุบันเสื้อผ้าส่วนใหญ่มีการพัฒนาเรื่องเส้นใยผ้า เพื่อให้เกิดความสบายในการสวมใส่ และมีลูกเล่นดีไซน์ใหม่ทำให้ซักได้ยากขึ้น ประกอบกับเสื้อผ้ามีราคาค่อนข้างสูง ทำให้ทุกคนใส่ใจในการดูแลรักษาเสื้อผ้ามากขึ้น และผ้าบางชนิดไม่สามารถซักและดูแลเองได้ ต้องพึ่งร้านซักรีดที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย
คุณเกษม เล่าว่า ปัจจุบัน เราทำร้านซักรีดออกมา 2 แบรนด์ คือ Lavanda และ Magic Clean สาเหตุที่ทำออกมา 2 แบรนด์ สืบเนื่องมาจาก ที่ผ่านมา ไม่กล้าที่จะปรับราคาลูกค้า ก็เลยออกอีกแบรนด์หนึ่ง เพื่อตั้งอีกราคาหนึ่งที่สูงกว่าเดิม แต่สุดท้ายปัจจุบัน มีการปรับราคา Lavanda ขึ้นมาใกล้เคียงและเท่ากับ Magic Clean โดยร้านที่เปิดใหม่จะใช้แบรนด์ Magic Clean ทั้งหมด เพราะตอนนี้ มี Lavanda อยู่แล้วหลายสาขา บางพื้นที่อยู่ใกล้เคียงกัน ถ้าใช้แบรนด์เดียวกันจะดูไม่ดี การมี 2 แบรนด์ เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ เพราะลูกค้าบางคนอาจจะชอบการให้บริการของพนักงานไม่เหมือนกัน
ส่วนราคาค่าบริการจะแบ่งเป็นรายเดือน คิดค่าบริการ 30 ชิ้น ราคา1,000 บาท รายชิ้นๆละ 40 บาท ซักแห้ง มีตั้งแต่ 80 บาท ไปจนถึง 150 บาท ผ้าน่วม 250 บาท เป็นราคากลางเมื่อเทียบกับร้านที่ให้บริการในลักษณะเดียวกัน เพราะทุกอย่างที่ทางร้านใช้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนจำนวนเสื้อผ้าที่มาใช้บริการต่อวัน ประมาณ 600 ชิ้น กำไรประมาณ 20-25%
"สาเหตุที่ผมประสบความสำเร็จในวันนี้ เพราะความเอาใจใส่และชอบที่จะศึกษาปัญหาต่างๆ และพยายามหาทางแก้ไข ที่ผ่านมามีโรงแรมชื่อดังหลายแห่งเวลามีปัญหาจะส่งเสื้อผ้ามาแก้ที่ร้านของผมเสมอ และประกอบกับผมเป็นคนชอบศึกษาเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ โดยจะเดินทางไปดูงานในต่างประเทศว่าเขามีการพัฒนาระบบการซักรีดอย่างไร โดยอันไหนไม่ต้องลงทุนสูงมากนักก็ซื้อและนำกลับมาใช้ที่ร้าน"
โทร. 0-2253-6190-1
