หลังจากวีดีโอคลิปของบุรุษผู้มีใบหน้าละม้ายคล้าย “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย ถูกเผยแพร่กระจายออกไปให้ทั่วทั้งสังคมไซเบอร์ได้ฮือฮา กระทั่งในเวปไซต์ชื่อดังระดับโลกอย่าง “ยูทูป” (http://www.youtube.com) ทำให้ช่องทางการเข้าถึงคลิปฉาวนี้กระพือกว้างไกลมากขึ้น
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ซึ่งต่อมานายสมชาย ปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดยนอกจากประเด็นถกเถียงกันด้วยความกังขาในความคล้ายของใบหน้า และท่าทาง ตลอดจนพฤติกรรมที่รับรู้กันในหมู่ข้าราชการบางกระทรวงที่อยู่ในฉากที่ปรากฎในวิดีโอคลิป กับนายสมชายผู้ที่เคยมีตำแหน่งเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน จนมามีตำแหน่งทางการเมืองเป็นนายกฯในปัจจุบันแล้ว คำกล่าวของบรรดาส.ส.ลูกพรรคพลังประชาชน และ ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ที่กล่าวแทนเป็นเชิงสงสัยว่า เป็นเพียงวีดีโอคลิปที่ใช้เทคโนโลยีตัดต่อ เพื่อมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของนายสมชายนั้น
ทีมงานผู้จัดการออนไลน์ จึงลงพื้นที่ตามสำรวจเส้นทางของชายหน้าคล้ายนายกฯ เพื่อหาข้อมูล และพยานแวดล้อมเพื่อพิสูจน์ข้อสังสัยดังกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับวิดีโอฉาวชายหน้าคล้ายนายสมชาย เป็นบันทึกเรื่องราวที่มีลักษณะเป็นการตามแอบถ่ายพฤติกรรมของผู้ที่เป็นเป้าหมายการติดตามของนักสืบเอกชนที่ถูกว่าจ้างให้ติดตามพฤติกรรมของสามีที่นอกใจภรรยา การบันทึกภาพเป็นไปในลักษณะการขับรถตาม และบันทึกภาพเป็นวีดีโอ พร้อมกับมีเสียงผู้ที่ถูกจ้างวานให้ติดตามพฤติกรรมของชายผู้เป็นตัวเอกของเรื่อง บรรยายเป็นข้อมูลเป็นระยะๆ
คลิปมีความยาวทั้งสิ้น 25.26 นาที ออกจะยาวกว่าคลิปหลุดอื่นๆ ที่เคยปรากฏ อาจจะด้วยเพราะเป็นการบันทึกแอบถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 ถึงวันที่ 28 มี.ค.49 เป็นเหตุการณ์ที่มีตัวละครชายเพียงคนเดียว คือบุรุษลึกลับที่หน้าเหมือนนายสมชาย แต่มีตัวละครหญิงให้เห็น 3 ราย พฤติกรรมมีตั้งแต่ไปรับ-ไปส่ง พาไปทานอาหารกลางวัน ชอปปิง และ เข้าโรงแรมม่านรูดซึ่งนับเป็นฉากที่ผู้ชมให้ความสนใจมากที่สุด
**รังรัก (ชั่วคราว) ราคาถูก
ทีมงานจึงเริ่มต้นจาก บุกเข้าโรงแรมม่านรูดที่ชื่อ “เวสตอิน” ตามที่ปรากฏอยู่ในคลิปนั้นก่อน พบว่า เป็นม่านรูดในย่านถนนรัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่เลขที่ 222/1-2 หมู่ 4 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อยู่ห่าง 7-8 กิโลเมตร ไม่ไกลจากหมู่บ้านซื่อตรง ตามคำบันทึกของหญิงสาวผู้สะกดรอยตามชายคนนี้ที่ระบุว่า “เป้าหมายรับหญิงสาวจากหมู่บ้านซื่อตรง”
จากสภาพด้านนอกของโรงแรมมีลักษณะเก่า ตัวอาคารไม่ทาสี เมื่อขับรถเข้าไปจะพบว่ามีทางขึ้น และเมื่อขับขึ้นไปจะพบกับสภาพที่เหมือนกับม่านรูดทั่วไป คือมีซองจอดรถที่มีม่านกั้นเป็นสัดส่วน บางห้องจะมีป้ายพลาสติกติดอยู่เหนือทางเข้าจอดว่า “VCD” เป็นที่เข้าใจได้ว่า ในห้องนั้นๆ จะมีบริการเสริมเป็นวีซีดีลับเฉพาะให้แขกชมด้วย ในขณะที่ตัวห้อง ซึ่งจะกลายร่างเป็น “คูหาสวรรค์” ชั่วคราวของเหล่าคู่รักนั้น จะต้องขึ้นบันไดจากที่จอดรถไปประมาณ 10 ขั้น นัยว่าอาจจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้ามากขึ้น
ส่วนภายในห้องขนาดค่อนข้างเล็ก กะด้วยสายตาคร่าวๆ น่าจะไม่เกิน 4x5 เมตร (รวมพื้นที่ส่วนห้องน้ำแล้ว) เตียงเป็นเตียงขนาด ควีนไซส์ ฟูกแข็งราวกับเบาะยูโด หมอนสีเก่าตุ่นถูกห่อไว้ภายในปลอกหมอนสีขาวเรียบๆ แข็งพอๆ กับเตียง เก้าอี้นวมเล็กๆ สองตัวถูกวางคั่นด้วยโต๊ะเบียร์ ที่วางเมนูอาหารเอาไว้บริการ ซึ่งอาหารก็ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้ง ชุดอาหารเช้า สเต๊ก สลัด และอาหารไทยอื่นๆ แต่ราคาสูงพอสมควร เช่น ปูอัดจานละ 100 บาท แกงจืดถ้วยใหญ่ถ้วยละ 180 บาท เป็นต้น
ปลายเตียงมีโทรทัศน์พานาโซนิครุ่นเก่าขนาด 16 นิ้ว หนึ่งเครื่อง ส่วนที่แปะป้ายไว้หน้าห้องว่า “VCD” นั้นเมื่อเปิดดูแล้วพบว่า ช่องหนึ่งของโทรทัศน์ถูกเซ็ทให้เป็นช่องที่ฉายภาพการเต้นของสาวๆ“โคโยตี้” ในชุดกระโปรงยีนส์สั้นๆ เส้นสายเดี่ยว หรือรัดรูปคล้ายมีไว้เพื่อปลุกอารมณ์
ถัดไปเป็นกระจกแต่งตัว ที่ด้านหน้ามีตะกร้าผ้าเช็ดตัวเนื้อหยาบกับสบู่แบนๆ ไร้สี ไร้กลิ่นไว้บริการ
สำหรับโทนสีของห้องนั้น เน้นสีขาวเรียบๆ เป็นหลัก ตัดคิ้วด้วยไม้สีน้ำตาล และในส่วนของห้องนอนถูกปูด้วยพรมแดงที่มีรอยบุหรี่เป็นหย่อมๆ ส่วนภายในห้องน้ำเป็นสีเทา สุขภัณฑ์ทุกชิ้น ทั้งอ่างอาบน้ำ โถชักโครก อ่างล้างหน้า ล้วนเป็นเซ็ทสีเดียวกัน ที่แย่และไร้สุขอนามัยโดยสิ้นเชิงก็คือ “ถังขยะ” ใบเดียวภายในห้อง มีสภาพเปล่าเปลือย ไร้ซึ่งถุงขยะมากรุรองไว้
ขณะเดียวกัน สนนราคาค่าใช้บริการของเวสตอินนั้น ชั่วคราว 3 ชั่วโมง อัตรา 280 บาท หรือหากจะนับชั่วโมง 90 บาทต่อชั่วโมง ค้างคืนเต็มวัน 570 บาท ค้างคืน (เข้าหลัง 21.00น.) 480 บาท แทบนึกภาพไม่ออกว่า นี่คือ รังรักของผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง หรือว่า แรงปรารถนาไม่เข้าใครออกใคร?
**รังอยู่อาศัยสบายผิดกัน
จากนั้นทีมงานได้ย้อนกลับมาสำรวจ ที่ซอยเพชรเกษม 7/2 อันปรากฏอยู่ในคลิปซึ่งมีหญิงสาวอายุราวยี่สิบต้นๆ หน้าตาดี ผิวสองสี รูปร่างสูงเพรียว สวมชุดสีขาว คู่ควงของชายหน้าคล้ายนายสมชาย มายืนรอให้เก๋งคันงามมาจอดรับไปรับประทานอาหาร ก่อนจะแวะมาส่งที่ปากซอยนี้อีกครั้ง ซึ่งเธอก็ได้ยืนซื้อผลไม้หน้าซอยนี้ ส่งผลให้ “สายลับ” ผู้บันทึกภาพ มีโอกาสซูมใบหน้าสาวน้อยคนนี้ได้อย่างชัดเจน
หลังจากการตรวจสอบซอยดังกล่าวนั้น ปรากฏว่าเป็นซอยตื้นๆ ด้านหน้าสุดเป็นที่พักที่ชื่อว่า “คานาแมนชั่น” และลึกเข้าไปด้านในเป็นบ้านพักอาศัยเป็นกลุ่มๆ ส่วนสถานที่ให้เช่าที่พักประเภทหอพัก อพาร์ทเมนท์ แมนชั่น ภายในซอยนี้มีเจ้าเดียวคือ “คานาแมนชั่น” ที่อยู่ต้นซอยนั่นเอง ซึ่งก็สอดคล้องกับภาพในคลิปฉาว ที่มีการบันทึกเสียงว่า ที่แห่งนี้คือที่พักของ“เป้าหมาย”
สำหรับคานาแมนชั่นนี้ มีทั้งหมด 8 ชั้น อัตราค่าที่พักถือว่าไม่ถูกนัก ห้องราคาต่ำที่สุดอยู่ที่ 3,200 บาทต่อเดือน ไล่ไปจนถึง 5,000 บาท ตามขนาดของห้องและแบ่งเป็นห้องพัดลมและติดเครื่องปรับอากาศ ด้านล่างมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นร้านเสริมสวย มินิมาร์ท ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ หรือบริการซักอบรีด รวมไปถึงระบบการรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีที่แม้จะไม่มีวงจรปิด แต่ก็มี รปภ. 24 ชั่วโมง และใช้คีย์การ์ดผ่านประตู
เจ้าหน้าที่ของที่พักดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ส่วนใหญ่ผู้เช่ามักจะเป็นคนวัยทำงานมากกว่าที่จะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือวัยรุ่น ที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง
**พยานยันเห็นชายหน้าคล้ายควงสาวมา
ส่วนร้านอาหารปักษ์ใต้ที่หนุ่มใหญ่ใส่แว่นพาสาวน้อยชุดขาวไปกินนั้น อยู่ในซอยธนาคาร บนถนนราชพฤกษ์ ใกล้กับซอยราชพฤกษ์ 11 แต่ปัจจุบันร้านอาหารดังกล่าวปิดตัวไปแล้ว และมีเนิร์สเซอรี่รับดูแลเด็ก และคนชรามาตั้งแทนที่
ผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามคนละแวกใกล้เคียง ได้รับคำตอบที่น่าประหลาดใจว่า แม้แต่ผู้สูงอายุที่เป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำต่างก็รับทราบ และเคยดูวิดีโอของชายหน้าคล้ายนายสมชายมาแล้วทั้งนั้น ขณะเดียวกันความดังของวีดีโอคลิปนี้ ก็ทำให้มีคนมาตามหาร้านอาหารปักษ์ใต้ ที่ปรากฏในฉากดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อถามว่า รู้จักและเคยเห็นคนในคลิปหรือไม่ ลุงคนหนึ่งถึงกับยืนยันว่า เคย และมารับประทานอาหารกับผู้หญิงที่ร้านนี้บ่อย
ส่วนร้านอาหารที่ “ชายหน้าเหมือน” พา “หญิงร่างท้วม” จากกระทรวงยุติธรรม ไปนั่งทานข้าวเที่ยงกันอย่างชื่นมื่นอีกร้านคือ “เก็จแก้ว” ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมืองทองธานี ข้างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราชนั้น
ผู้จัดการออนไลน์ พบว่า หากเห็นในคลิป ก็ดูเป็นร้านอาหารธรรมดา แต่เมื่อมาสัมผัสเข้าจริง ถือว่าหรูหราพอสมควร สามารถเรียกเต็มปากได้ว่า “ภัตตาคาร” ได้เลยทีเดียว ร้านกว้างขวาง ติดแอร์เย็นฉ่ำ มีห้องอาหารรวมและมีห้องแยกเพื่อจัดเลี้ยงโดยเฉพาะต่างหาก และในช่วงเที่ยงๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมากันเป็นกลุ่ม ลักษณะเหมือนเพื่อนร่วมงานมารับประทานอาหารร่วมกันไม่มีโต๊ะไหนที่มาเป็นคู่เหมือนอย่างหนุ่มใหญ่ และสาวผิวคล้ำร่างอวบในคลิป
อาหารที่ร้านเก็จแก้ว เป็นอาหารไทย มีทั้งอาหารไทยภาคกลางทั่วไปและอาหารปักษ์ใต้ โดยเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ที่สื่อหลายแห่งจากสายข่าวประเภท “พาชิม” ได้เขียนถึงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจากแดนด้ามขวาน ไม่ว่าจะเป็น “สะตอผัดกุ้ง” (120 บาท / 1จาน) หรือ “แกงเหลืองปลากะพง” (180 บาท /1 ถ้วย)
สำหรับรสชาติของจานเด็ดนับเป็นอาหารรสจัด อร่อยตามสไตล์อาหารปักษ์ใต้ แต่สำหรับคนภาคกลางอาจจะรู้สึกเผ็ดจัด ดังนั้น ผู้ที่จะกินจานเด็ดของร้านนี้ได้ ต้องเป็นพวกชอบกินเผ็ด หรือไม่ก็บรรดา “ไอ้หนุ่มแดนสะตอ” ของแท้นั่นละ จึงจะกินได้อร่อยลิ้น
และสุดท้ายก่อนกลับ ผู้จัดการออนไลน์ ไม่ลืมที่จะถามคำถามที่เชื่อว่าพนักงานของร้านนี้ต้องโดนถามมาแล้วแน่นอน
“น้อง ดูคลิปคนหน้าคล้ายหรือยัง”
พนักงานคนนั้นพยักหน้า ก่อนตอบมาว่า“ดูแล้วค่ะ”
“แล้วใช่เขาหรือไม่? มาบ่อยแค่ไหน?”
“ใช่ค่ะ เมื่อก่อนมาบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว แต่ส่วนใหญ่เขามากับลูกน้องเขานะคะ ไม่ได้มาอะไรแบบนั้น” พนักงานคนเดิมตอบ พร้อมกับเลี่ยงจากไปคล้ายถูกกำชับมาว่าไม่ให้พูดอะไรเกี่ยวกับคลิปนั้นมาก
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ซึ่งต่อมานายสมชาย ปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดยนอกจากประเด็นถกเถียงกันด้วยความกังขาในความคล้ายของใบหน้า และท่าทาง ตลอดจนพฤติกรรมที่รับรู้กันในหมู่ข้าราชการบางกระทรวงที่อยู่ในฉากที่ปรากฎในวิดีโอคลิป กับนายสมชายผู้ที่เคยมีตำแหน่งเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน จนมามีตำแหน่งทางการเมืองเป็นนายกฯในปัจจุบันแล้ว คำกล่าวของบรรดาส.ส.ลูกพรรคพลังประชาชน และ ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ที่กล่าวแทนเป็นเชิงสงสัยว่า เป็นเพียงวีดีโอคลิปที่ใช้เทคโนโลยีตัดต่อ เพื่อมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของนายสมชายนั้น
ทีมงานผู้จัดการออนไลน์ จึงลงพื้นที่ตามสำรวจเส้นทางของชายหน้าคล้ายนายกฯ เพื่อหาข้อมูล และพยานแวดล้อมเพื่อพิสูจน์ข้อสังสัยดังกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับวิดีโอฉาวชายหน้าคล้ายนายสมชาย เป็นบันทึกเรื่องราวที่มีลักษณะเป็นการตามแอบถ่ายพฤติกรรมของผู้ที่เป็นเป้าหมายการติดตามของนักสืบเอกชนที่ถูกว่าจ้างให้ติดตามพฤติกรรมของสามีที่นอกใจภรรยา การบันทึกภาพเป็นไปในลักษณะการขับรถตาม และบันทึกภาพเป็นวีดีโอ พร้อมกับมีเสียงผู้ที่ถูกจ้างวานให้ติดตามพฤติกรรมของชายผู้เป็นตัวเอกของเรื่อง บรรยายเป็นข้อมูลเป็นระยะๆ
คลิปมีความยาวทั้งสิ้น 25.26 นาที ออกจะยาวกว่าคลิปหลุดอื่นๆ ที่เคยปรากฏ อาจจะด้วยเพราะเป็นการบันทึกแอบถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 ถึงวันที่ 28 มี.ค.49 เป็นเหตุการณ์ที่มีตัวละครชายเพียงคนเดียว คือบุรุษลึกลับที่หน้าเหมือนนายสมชาย แต่มีตัวละครหญิงให้เห็น 3 ราย พฤติกรรมมีตั้งแต่ไปรับ-ไปส่ง พาไปทานอาหารกลางวัน ชอปปิง และ เข้าโรงแรมม่านรูดซึ่งนับเป็นฉากที่ผู้ชมให้ความสนใจมากที่สุด
**รังรัก (ชั่วคราว) ราคาถูก
ทีมงานจึงเริ่มต้นจาก บุกเข้าโรงแรมม่านรูดที่ชื่อ “เวสตอิน” ตามที่ปรากฏอยู่ในคลิปนั้นก่อน พบว่า เป็นม่านรูดในย่านถนนรัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่เลขที่ 222/1-2 หมู่ 4 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อยู่ห่าง 7-8 กิโลเมตร ไม่ไกลจากหมู่บ้านซื่อตรง ตามคำบันทึกของหญิงสาวผู้สะกดรอยตามชายคนนี้ที่ระบุว่า “เป้าหมายรับหญิงสาวจากหมู่บ้านซื่อตรง”
จากสภาพด้านนอกของโรงแรมมีลักษณะเก่า ตัวอาคารไม่ทาสี เมื่อขับรถเข้าไปจะพบว่ามีทางขึ้น และเมื่อขับขึ้นไปจะพบกับสภาพที่เหมือนกับม่านรูดทั่วไป คือมีซองจอดรถที่มีม่านกั้นเป็นสัดส่วน บางห้องจะมีป้ายพลาสติกติดอยู่เหนือทางเข้าจอดว่า “VCD” เป็นที่เข้าใจได้ว่า ในห้องนั้นๆ จะมีบริการเสริมเป็นวีซีดีลับเฉพาะให้แขกชมด้วย ในขณะที่ตัวห้อง ซึ่งจะกลายร่างเป็น “คูหาสวรรค์” ชั่วคราวของเหล่าคู่รักนั้น จะต้องขึ้นบันไดจากที่จอดรถไปประมาณ 10 ขั้น นัยว่าอาจจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้ามากขึ้น
ส่วนภายในห้องขนาดค่อนข้างเล็ก กะด้วยสายตาคร่าวๆ น่าจะไม่เกิน 4x5 เมตร (รวมพื้นที่ส่วนห้องน้ำแล้ว) เตียงเป็นเตียงขนาด ควีนไซส์ ฟูกแข็งราวกับเบาะยูโด หมอนสีเก่าตุ่นถูกห่อไว้ภายในปลอกหมอนสีขาวเรียบๆ แข็งพอๆ กับเตียง เก้าอี้นวมเล็กๆ สองตัวถูกวางคั่นด้วยโต๊ะเบียร์ ที่วางเมนูอาหารเอาไว้บริการ ซึ่งอาหารก็ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้ง ชุดอาหารเช้า สเต๊ก สลัด และอาหารไทยอื่นๆ แต่ราคาสูงพอสมควร เช่น ปูอัดจานละ 100 บาท แกงจืดถ้วยใหญ่ถ้วยละ 180 บาท เป็นต้น
ปลายเตียงมีโทรทัศน์พานาโซนิครุ่นเก่าขนาด 16 นิ้ว หนึ่งเครื่อง ส่วนที่แปะป้ายไว้หน้าห้องว่า “VCD” นั้นเมื่อเปิดดูแล้วพบว่า ช่องหนึ่งของโทรทัศน์ถูกเซ็ทให้เป็นช่องที่ฉายภาพการเต้นของสาวๆ“โคโยตี้” ในชุดกระโปรงยีนส์สั้นๆ เส้นสายเดี่ยว หรือรัดรูปคล้ายมีไว้เพื่อปลุกอารมณ์
ถัดไปเป็นกระจกแต่งตัว ที่ด้านหน้ามีตะกร้าผ้าเช็ดตัวเนื้อหยาบกับสบู่แบนๆ ไร้สี ไร้กลิ่นไว้บริการ
สำหรับโทนสีของห้องนั้น เน้นสีขาวเรียบๆ เป็นหลัก ตัดคิ้วด้วยไม้สีน้ำตาล และในส่วนของห้องนอนถูกปูด้วยพรมแดงที่มีรอยบุหรี่เป็นหย่อมๆ ส่วนภายในห้องน้ำเป็นสีเทา สุขภัณฑ์ทุกชิ้น ทั้งอ่างอาบน้ำ โถชักโครก อ่างล้างหน้า ล้วนเป็นเซ็ทสีเดียวกัน ที่แย่และไร้สุขอนามัยโดยสิ้นเชิงก็คือ “ถังขยะ” ใบเดียวภายในห้อง มีสภาพเปล่าเปลือย ไร้ซึ่งถุงขยะมากรุรองไว้
ขณะเดียวกัน สนนราคาค่าใช้บริการของเวสตอินนั้น ชั่วคราว 3 ชั่วโมง อัตรา 280 บาท หรือหากจะนับชั่วโมง 90 บาทต่อชั่วโมง ค้างคืนเต็มวัน 570 บาท ค้างคืน (เข้าหลัง 21.00น.) 480 บาท แทบนึกภาพไม่ออกว่า นี่คือ รังรักของผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง หรือว่า แรงปรารถนาไม่เข้าใครออกใคร?
**รังอยู่อาศัยสบายผิดกัน
จากนั้นทีมงานได้ย้อนกลับมาสำรวจ ที่ซอยเพชรเกษม 7/2 อันปรากฏอยู่ในคลิปซึ่งมีหญิงสาวอายุราวยี่สิบต้นๆ หน้าตาดี ผิวสองสี รูปร่างสูงเพรียว สวมชุดสีขาว คู่ควงของชายหน้าคล้ายนายสมชาย มายืนรอให้เก๋งคันงามมาจอดรับไปรับประทานอาหาร ก่อนจะแวะมาส่งที่ปากซอยนี้อีกครั้ง ซึ่งเธอก็ได้ยืนซื้อผลไม้หน้าซอยนี้ ส่งผลให้ “สายลับ” ผู้บันทึกภาพ มีโอกาสซูมใบหน้าสาวน้อยคนนี้ได้อย่างชัดเจน
หลังจากการตรวจสอบซอยดังกล่าวนั้น ปรากฏว่าเป็นซอยตื้นๆ ด้านหน้าสุดเป็นที่พักที่ชื่อว่า “คานาแมนชั่น” และลึกเข้าไปด้านในเป็นบ้านพักอาศัยเป็นกลุ่มๆ ส่วนสถานที่ให้เช่าที่พักประเภทหอพัก อพาร์ทเมนท์ แมนชั่น ภายในซอยนี้มีเจ้าเดียวคือ “คานาแมนชั่น” ที่อยู่ต้นซอยนั่นเอง ซึ่งก็สอดคล้องกับภาพในคลิปฉาว ที่มีการบันทึกเสียงว่า ที่แห่งนี้คือที่พักของ“เป้าหมาย”
สำหรับคานาแมนชั่นนี้ มีทั้งหมด 8 ชั้น อัตราค่าที่พักถือว่าไม่ถูกนัก ห้องราคาต่ำที่สุดอยู่ที่ 3,200 บาทต่อเดือน ไล่ไปจนถึง 5,000 บาท ตามขนาดของห้องและแบ่งเป็นห้องพัดลมและติดเครื่องปรับอากาศ ด้านล่างมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นร้านเสริมสวย มินิมาร์ท ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ หรือบริการซักอบรีด รวมไปถึงระบบการรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีที่แม้จะไม่มีวงจรปิด แต่ก็มี รปภ. 24 ชั่วโมง และใช้คีย์การ์ดผ่านประตู
เจ้าหน้าที่ของที่พักดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ส่วนใหญ่ผู้เช่ามักจะเป็นคนวัยทำงานมากกว่าที่จะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือวัยรุ่น ที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง
**พยานยันเห็นชายหน้าคล้ายควงสาวมา
ส่วนร้านอาหารปักษ์ใต้ที่หนุ่มใหญ่ใส่แว่นพาสาวน้อยชุดขาวไปกินนั้น อยู่ในซอยธนาคาร บนถนนราชพฤกษ์ ใกล้กับซอยราชพฤกษ์ 11 แต่ปัจจุบันร้านอาหารดังกล่าวปิดตัวไปแล้ว และมีเนิร์สเซอรี่รับดูแลเด็ก และคนชรามาตั้งแทนที่
ผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามคนละแวกใกล้เคียง ได้รับคำตอบที่น่าประหลาดใจว่า แม้แต่ผู้สูงอายุที่เป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำต่างก็รับทราบ และเคยดูวิดีโอของชายหน้าคล้ายนายสมชายมาแล้วทั้งนั้น ขณะเดียวกันความดังของวีดีโอคลิปนี้ ก็ทำให้มีคนมาตามหาร้านอาหารปักษ์ใต้ ที่ปรากฏในฉากดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อถามว่า รู้จักและเคยเห็นคนในคลิปหรือไม่ ลุงคนหนึ่งถึงกับยืนยันว่า เคย และมารับประทานอาหารกับผู้หญิงที่ร้านนี้บ่อย
ส่วนร้านอาหารที่ “ชายหน้าเหมือน” พา “หญิงร่างท้วม” จากกระทรวงยุติธรรม ไปนั่งทานข้าวเที่ยงกันอย่างชื่นมื่นอีกร้านคือ “เก็จแก้ว” ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมืองทองธานี ข้างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราชนั้น
ผู้จัดการออนไลน์ พบว่า หากเห็นในคลิป ก็ดูเป็นร้านอาหารธรรมดา แต่เมื่อมาสัมผัสเข้าจริง ถือว่าหรูหราพอสมควร สามารถเรียกเต็มปากได้ว่า “ภัตตาคาร” ได้เลยทีเดียว ร้านกว้างขวาง ติดแอร์เย็นฉ่ำ มีห้องอาหารรวมและมีห้องแยกเพื่อจัดเลี้ยงโดยเฉพาะต่างหาก และในช่วงเที่ยงๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมากันเป็นกลุ่ม ลักษณะเหมือนเพื่อนร่วมงานมารับประทานอาหารร่วมกันไม่มีโต๊ะไหนที่มาเป็นคู่เหมือนอย่างหนุ่มใหญ่ และสาวผิวคล้ำร่างอวบในคลิป
อาหารที่ร้านเก็จแก้ว เป็นอาหารไทย มีทั้งอาหารไทยภาคกลางทั่วไปและอาหารปักษ์ใต้ โดยเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ที่สื่อหลายแห่งจากสายข่าวประเภท “พาชิม” ได้เขียนถึงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจากแดนด้ามขวาน ไม่ว่าจะเป็น “สะตอผัดกุ้ง” (120 บาท / 1จาน) หรือ “แกงเหลืองปลากะพง” (180 บาท /1 ถ้วย)
สำหรับรสชาติของจานเด็ดนับเป็นอาหารรสจัด อร่อยตามสไตล์อาหารปักษ์ใต้ แต่สำหรับคนภาคกลางอาจจะรู้สึกเผ็ดจัด ดังนั้น ผู้ที่จะกินจานเด็ดของร้านนี้ได้ ต้องเป็นพวกชอบกินเผ็ด หรือไม่ก็บรรดา “ไอ้หนุ่มแดนสะตอ” ของแท้นั่นละ จึงจะกินได้อร่อยลิ้น
และสุดท้ายก่อนกลับ ผู้จัดการออนไลน์ ไม่ลืมที่จะถามคำถามที่เชื่อว่าพนักงานของร้านนี้ต้องโดนถามมาแล้วแน่นอน
“น้อง ดูคลิปคนหน้าคล้ายหรือยัง”
พนักงานคนนั้นพยักหน้า ก่อนตอบมาว่า“ดูแล้วค่ะ”
“แล้วใช่เขาหรือไม่? มาบ่อยแค่ไหน?”
“ใช่ค่ะ เมื่อก่อนมาบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว แต่ส่วนใหญ่เขามากับลูกน้องเขานะคะ ไม่ได้มาอะไรแบบนั้น” พนักงานคนเดิมตอบ พร้อมกับเลี่ยงจากไปคล้ายถูกกำชับมาว่าไม่ให้พูดอะไรเกี่ยวกับคลิปนั้นมาก