สถาบันฝึกฯ ชี้ปัญหาเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ไม่กระทบต่อภาคการส่งออกไทยมากนัก เหตุทำตลาดใหม่กระจายความเสี่ยง แนะผู้ประกอบการใช้ศาสตร์บวกศิลป์ ทำการค้าฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกซึม เสนอหลักสูตรเทคนิคการทำแผนการตลาดอย่างมีกึ๋น เติมเต็มความมั่นใจผู้ส่งออก โค้งสุดท้าย 51
รอ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า แม้ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู้ค้าสำคัญของประเทศไทย กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติทางการเงินอย่างรุนแรง โดยทางการสหรัฐเองกำลังเร่งแก้ปัญหาให้ยุติอย่างรวดเร็ว แต่ในภาพการส่งออกของไทยเอง ยังไม่กระทบมากนักเนื่องจากผู้ส่งออกได้กระจายความเสียงไปยังตลาดใหม่ๆไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยภาพรวมการส่งออกระยะ 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) ถือว่ายังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่า 15,887.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 โดยในจำนวนนี้เฉพาะตลาดใหม่ เช่น ตลาดแอฟริกา อินโดจีนและพม่า เป็นต้น ที่มีอัตราการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 32.5 ขณะที่ตลาดหลักขยายตัวร้อยละ 17.8 ทำให้สัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดใหม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 48.3 และสัดส่วนของตลาดหลักลดลงเป็นร้อยละ 51.7
“ทั้งนี้จากทิศทางการส่งออก และการขยายตัวยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในภาวะเช่นนี้ผู้ประกอบการจะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการบริหารการส่งออก โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2551 นี้ สถาบันฝึกอบรมกาค้าระหว่างประเทศจะจัดฝึกอบรม “เทคนิคการจัดทำแผนการตลาดเพื่อการส่งออก” ระหว่างวันที่ 27- 28 พ.ย. นี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีความรู้และทักษะการจัดทำแผนการตลาดอย่างเข้าใจ สามารถนำแผนการตลาดมาใช้ปฏิบัติการได้จริง และนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ในการวางแผนการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกธุรกิจ” ผอ.สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
รอ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า แม้ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู้ค้าสำคัญของประเทศไทย กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติทางการเงินอย่างรุนแรง โดยทางการสหรัฐเองกำลังเร่งแก้ปัญหาให้ยุติอย่างรวดเร็ว แต่ในภาพการส่งออกของไทยเอง ยังไม่กระทบมากนักเนื่องจากผู้ส่งออกได้กระจายความเสียงไปยังตลาดใหม่ๆไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยภาพรวมการส่งออกระยะ 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) ถือว่ายังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่า 15,887.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 โดยในจำนวนนี้เฉพาะตลาดใหม่ เช่น ตลาดแอฟริกา อินโดจีนและพม่า เป็นต้น ที่มีอัตราการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 32.5 ขณะที่ตลาดหลักขยายตัวร้อยละ 17.8 ทำให้สัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดใหม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 48.3 และสัดส่วนของตลาดหลักลดลงเป็นร้อยละ 51.7
“ทั้งนี้จากทิศทางการส่งออก และการขยายตัวยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในภาวะเช่นนี้ผู้ประกอบการจะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการบริหารการส่งออก โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2551 นี้ สถาบันฝึกอบรมกาค้าระหว่างประเทศจะจัดฝึกอบรม “เทคนิคการจัดทำแผนการตลาดเพื่อการส่งออก” ระหว่างวันที่ 27- 28 พ.ย. นี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีความรู้และทักษะการจัดทำแผนการตลาดอย่างเข้าใจ สามารถนำแผนการตลาดมาใช้ปฏิบัติการได้จริง และนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ในการวางแผนการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกธุรกิจ” ผอ.สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
