Mt.Sapola (เมาท์ เซโพลา) น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเทือกเขานี้ เป็นต้นกำเนิดของสบู่ทำมือที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน จนกลายมาเป็นโปรดักต์แบรนด์ของผลิตภัณฑ์สปาจากธรรมชาติ ที่เจ้าของได้คลุกคลีกับสมุนไพรไทยมาตั้งแต่เกิด และหวังให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักและนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ ไม่แพ้คนไทยเห่อเครื่องสำอางนอก
อัมพร หริพจน์พรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท หริกุล กรุ๊ป จำกัด เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะเริ่มทำธุรกิจนั้น เกิดจากความชอบส่วนตัวที่ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ และชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม จนย้อนกลับมามองของดีในเมืองไทยอย่างสมุนไพร ที่มีสรรพพคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของต่างชาติเลย เพราะตนเองได้สัมผัสและเข้าถึงสมุนไพรไทยด้วยตัวเอง ที่อาจเรียกได้ว่าตนเองเกเติบโตมากับสมุนไพรไทยก็ไม่ผิดนัก เพราะไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็มาจากธรรมชาติล้วนๆ จากการที่ผู้เป็นแม่สั่งสมประสบการณ์ด้านนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า
“ด้วยความที่เราเป็นเด็กต่างจังหวัด จึงได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าคนเมือง ดังนั้นเมื่อเจ็บป่วยเล็กๆ น้อย แม่ก็จะนำสมุนไพรไทยที่มีอยู่ในบ้านมาให้รับประทาน ทำให้เราได้รับความรู้ถึงสรรพคุณสมุนไพรไปโดยไม่รู้ตัว และความรู้นั้นก็ติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นการตัดสินใจเลือกที่จะดำเนินธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นเรื่องสมุนไพร ประกอบกับธุรกิจของผู้เป็นสามีที่เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือเกี่ยวกับงานวิจัย วิเคราะห์ และสกัดสารสมุนไพรในห้องปฏิบัติการ ดังนั้นหากเราจะเริ่มทำผลิตภัณธ์ธรรมชาติจึงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก”
จากจุดเล็กๆ ที่ต้องการประกาศสรรพคุณสมุนไพรให้ทั่วโลกได้รู้จัก ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งสินค้าที่ง่ายที่สุดคือการทำสบู่ทำมือ ทำให้ อัมพร ตัดสินใจไปเรียนการทำสบู่ขั้นพื้นฐาน และนำมาฝึกฝน พร้อมเพื่อค่าดด้วยสมุนไพรไทย ภายใต้แบรนด์ Mt.Sapola ตามชื่อภูเขาที่เป็นแหล่งกำเนิดสบู่ ในปี พ.ศ.2540 ต่อมาจึงแตกไลน์เป็นน้ำมันหอมระเหย และผลิตภัณฑ์สปาครบวงจรอย่างในปัจจุบัน เช่น เกลือขัดผิว น้ำมันนวด โฃลชั่น น้ำมันหอมระเหย และเจลอาบน้ำ เป็นต้น โดยเป็นการส่งออกเกือบ 100%
“หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว คำว่าสปาในเมืองไทยนั้น ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทำให้ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ เราจึงเน้นไปที่ตลาดส่งออกทั้งหมด แต่เมื่อได้มีโอกาสไปออกบูธกับกรมส่งกรมส่งเสริมการส่งออก (งาน Heath&Beauty) เป็นครั้งแรก ก็ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมาก รวมทั้งธุรกิจรีสอร์ท และโรงแรมต่างๆ ในไทย สนใจให้ผลิตสบู่ให้ ทั้งๆ มีสบู่เพียง 8 กลิ่นเท่านั้น เช่น อัญชัน ขมิ้น และมะขาม เนื่องจากในช่วงนั้นผลิตภัณฑ์สปาในไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก แต่ต่อมาเมื่อออกงานอีกเป็นครั้งที่ 2 เราก็เริ่มเห็นผู้ประกอบการด้านนี้มากขึ้น ประกอบกับคนไทยเริ่มกลับคืนสู่ธรรมชาติ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นตามไปด้วย”
เมื่อความตั้งใจแรกที่จะมุ่งเน้นไปที่การส่งออกเพียงอย่างเดียว ทำให้ที่ผ่านมา อัมพร ได้ เปิดร้านทั้งในประเทศแถบยุโรปและเอเชีย โดยที่เยอรมนีเป็นการร่วมทุน โดยให้ทางเยอรมนีเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าในยุโรปทั้งหมด รวม 25 สาขา รวมถึงยังมีการกระจายสินค้าไปตามโรงแรมระดับห้าดาวและตามเรือสำราญต่างๆ ส่วนในเอเชียเปิดเป็น Concept Store ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา และสาขาที่สองกำลังจะเปิดภายในเดือนกันยายนนี้ ในรูปแบบ Concept Spa และขยายสาขาไปที่มาเลเซีย ในขณะที่ปลายปีนี้จะอีกสาขาที่บาหลี นอกจากนี้ยังขยายตลาดไปที่ประเทศญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และอินเดีย ในในแถบตะวันออกลาง ประเทศบาร์เรน จะเปิดในรูปแบบของ Concept Spa ส่วนในไทย ได้เปิดสาขาที่ดิ เอ็มโพเลียม และสยามพารากอน ชั้น 4 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติได้อย่างทั่วถึง ด้วยโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP กว่า 40 ล้านบาท
นับเป็นนักธุรกิจหญิงอีกรายที่ถือว่าประสบความสำเร็จในธุรกิจ ที่สามารถนำของดีจากเมืองไทยไปนำเสนอและให้ชาวต่างชาติยอมรับในผลิตภัณฑ์ได้ แถมยังเป็นการตอกย้ำคุณภาพสินค้าไทยที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของนอกเลย
***สนใจติดต่อ 0-2274-2100 หรือที่ www.mtsapola.com***