xs
xsm
sm
md
lg

โปรแอคทีฟ โซลูชั่น” ปรับกลยุทธ์ใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจอห์น แรงกินส์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ไอเดียล แอพโพรช จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “โปรแอคทีฟ โซลูชั่น” (Proactiv® Solution) ผลิตภัณฑ์เพื่อจบทุกปัญหาผิว...ที่เกิดจากสิว ที่มียอดขายอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ “โปรแอคทีฟ โซลูชั่น” เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลรักษา และป้องกันปัญหาผิวที่เกิดจากสิว ที่มียอดขายอันดับ 1 ในทั้ง 2 ประเทศ ทำให้เรามั่นใจที่จะนำ “โปรแอคทีฟ โซลูชั่น” เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี เราได้รับการตอบรับที่ดีมากในระดับที่เกินกว่าที่เราคาดหวัง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ใช้ซึ่งเคยรู้จักชื่อเสียง หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเรามาก่อนในต่างประเทศ กลับมาซื้อใช้ต่อที่เมืองไทย และมีการบอกต่อ และอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาผิว และมีการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเราแล้วเห็นผลจึงเกิดการใช้อย่างต่อเนื่อง และมีการบอกต่อผู้ใช้อื่น ทำให้เรามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมาเราได้รับรางวัลสุดยอดสินค้าขายดีประเภทผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสิว จาก Health, Wellness and Beauty Awards 2008 ซึ่งมอบให้โดยร้านวัตสัน เป็นการการันตีความสำเร็จของ “โปรแอคทีฟ โซลูชั่น” ในประเทศไทย ได้เป็นอย่างดี
สำหรับในเมืองไทย เหตุที่เราต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ เนื่องจากเราได้ศึกษากลุ่มลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา และพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์ของผู้บริโภคคนไทยแล้วพบว่า ส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า เรื่องการดูแลผิว ให้ปราศจากสิว เป็นเรื่องของวัยรุ่น เป็นเรื่องของคนมีปัญหาสิว ซึ่งต่างจากในต่างประเทศ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราในการดูแลปัญหาผิว และใช้เป็นชุดบำรุงผิวประจำวันทั้งเช้า และก่อนนอนแทนผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยใช้ด้วยซ้ำ
เราจึงอยากสื่อสารกับคนไทยให้เข้าใจถึงปัญหาผิวที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าวิจัยจะพบว่า แม้ผู้ใหญ่ที่พ้นช่วงวัยรุ่นมาแล้ว ก็สามารถมีปัญหาผิว ที่เกิดจากสิวได้ในช่วงอายุระหว่าง 25-44 ปี ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ จะเสียเวลา และค่าใช้จ่ายไปกับการบำรุงผิว โดยมองข้ามสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผิว ทำให้กระบวนการรักษา และบำรุงผิวหน้า ไม่เกิดประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาไม่ได้ในที่สุด
จึงเป็นที่มาของแนวคิด ซึ่งถูกใช้เป็นสโลแกนใหม่ของผลิตภัณฑ์ คือ “จบทุกปัญหาผิว...ที่เกิดจากสิว” ขึ้น ซึ่งนับเป็นการปรับกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดครั้งใหญ่ของเรา โดยการดึงคุณสมบัติเด่นของสินค้าในความเป็น “ระบบการบำบัดแบบผสมผสาน 3 ขั้นตอน” ในการดูแลปัญหาผิวอย่างครบวงจร ออกมาสื่อสารให้ชัดเจนมากขึ้น และสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นด้วย นั่นคือ กลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งมีระดับรายได้ปานกลางขึ้นไป เพราะผลิตภัณฑ์ของเราจัดได้ว่าไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ทีมีราคาที่สูงมากนัก หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด
นางสาวสุมณี วัฒนา กรรมการผู้จัดการ ผลิตภัณฑ์โปรแอคทีฟ โซลูชั่น กล่าวเสริมถึงรายละเอียดของแคมเปญนี้ว่า เราใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท สำหรับการปรับกลยุทธ์ของเราในครั้งนี้ โดยอย่างแรกที่ทุกคนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงคือ การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้เรายังมีแผนในการโฆษณา และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ การโฆษณาทางนิตยสาร หรือแม้กระทั่งการใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง อย่างเช่น สื่อโฆษณาในลิฟท์ตามอาคารสำนักงานต่างๆ และภาพยนตร์โฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เราก็มีแผนที่จะทำตลอดทั้งแคมเปญนี้
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ ซึ่งถือเป็นสื่อสำคัญ เราเล็งเห็นว่า การใช้พรีเซนเตอร์ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “เจสสิกา ซิมป์สัน” นักร้อง นักแสดงชื่อดังระดับโลก และ “เซเรน่า วิลเลี่ยมส์” นักเทนนิสหญิงชื่อดังระดับโลก ซึ่งทั้งสองคนมีประสบการณ์ที่ดี ที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์จริงและออกมาบอกกล่าวให้กับคนทั่วโลกได้รู้ นับเป็นวิธีการสื่อสาร ที่สอดคล้องกับความเป็นผลิตภัณฑ์ของเราในแง่ของการ “ใช้ดี และผู้ใช้บอกต่อ” เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงประสิทธิภาพ และคุณสมบัติของสินค้า รวมทั้งเข้าใจว่าปัญหาผิว ที่เกิดจากสิว เกิดขึ้นได้กับทุกคนแม้แต่ดารา หรือผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ก็มีปัญหาและทุกคนก็สามารถจบทุกๆ ปัญหานั้นได้ ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ “โปรแอคทีฟ โซลูชั่น”
นางสาวสุมณี วัฒนา กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับแผนการตลาดในครึ่งปีหลัง 2551 ไปจนถึงต้นปี 2552 นี้ เรามั่นใจว่าแคมเปญนี้ จะประสบความสำเร็จ และเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เราได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์ ไว้อย่างสมบูรณ์ ทั้งด้านช่องทางจัดจำหน่าย ซึ่งสามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในเซ็นทรัล, วัตสัน, บู๊ทส์, P&F, เพรียว, เอ็กซ์ตร้า, ศูนย์รวมยาฟาร์แม็กซ์ , ร้านวีเอเอ็น และ Health Choice เป็นต้น นอกจากนี้เรายังจัดให้มีระบบ Call Center สำหรับบริการลูกค้าในการให้คำปรึกษาแนะนำปัญหาผิวโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ
โดยในปัจจุบัน ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในกลุ่มพรีเมี่ยมที่ราคาค่อนข้างสูง มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอยและบำรุงผิว มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 11,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมั่นใจว่า ภายในปีนี้ บริษัทจะมียอดขายรวมประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะส่งผลให้ในปี 2552 เราจะมียอดขายก้าวกระโดดไปที่ 200 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น