xs
xsm
sm
md
lg

"โฆสิต"เชื่อ SMEsไทยยังโตต่อได้ ผปก.ปรับตัวเร็วพร้อมรับวิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"โฆสิต" เผยการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอียังโต ต่อเนื่อง เอ็นพีแอล 7-8% ถือยังไม่น่าห่วง เชื่อสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไม่กระทบมากนัก หลังผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับตัวแล้ว พร้อมแนะทางรอดเอสเอ็มอีอยู่รอดได้นานอีก 10 ปี ต้องเน้นผลิตสินค้ามีนวัตกรรม พร้อมเชื่อมโยงองค์ความรู้ภาครัฐฯ เอกชน และนักวิชาการ

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์
ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ธุรกิจเอสเอ็มอีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า ทางธนาคารได้พัฒนาปรับปรุงการปล่อยสินเชื่อและพัฒนากลุ่มเอสเอ็มอี และปีนี้หากดูการปล่อยสินเชื่อกลุ่มเอสเอ็มอีของธนาคารกรุงเทพ มีมากถึง 380,000 ราย คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 12-15 ส่วนปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ยังไม่น่าวิตกกังวล เพราะปีนี้ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีจะมีเอ็นพีแอลประมาณร้อยละ 7-8 แต่หากดูเอ็นพีแอลในกลุ่มนี้ ถือว่า ไม่มากเกินไป ถือว่าดูแลได้ ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพ ยังจะดำเนินการต่อเนื่องในการสนับสนุนภาคธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อให้กลุ่มเอสเอ็มอีของไทยมีเงินทุนไปดำเนินการทางธุรกิจได้

"ในภาวะเช่นนี้ถือว่าธุรกิจเอสเอ็มอียังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายรายได้มีการปรับตัวไปบางส่วนแล้ว ส่วนรายที่ยังไม่คิดจะปรับตัว คาดว่ายังรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองอยู่ ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวทางแบงก์ต้องการเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ และเพื่อเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงความพร้อมในการแข่งขันกับต่างชาติ" ประธานกรรมการบริหารกล่าว

ทั้งนี้สำหรับการแข่งขันกับต่างชาติของธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ถือว่าขณะนี้กระบวนการผลิตสินค้าและบริการของไทยจะต้องมีการพัฒนาให้เทียบเท่ากับประเทศจีนในยุคการแข่งขันเสรี รวมถึงต้องลดระดับลงมาแข่งกับประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม ในขณะที่ภาคเอกชนจะต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์จากกระบวนโลกาภิวัฒน์ให้ได้ ซึ่งหัวใจอยู่ที่การเพิ่มผลิตภาพมากกว่าการเพิ่มปัจจัยการผลิต คือ การยกระดับนวัตกรรมของธุรกิจไทยผ่านเทคโนโลยีความรู้ ซึ่งจะสามาถรสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ ซึ่งกระบวนการเรียนรู้ของเอสเอ็มอีจะไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพัง แต่จะต้องดำเนินการร่วมกันระหว่าง 3 ฝ่ายคือ ภาครัฐ เอกชน แบะภาคปัญญาชน คือ มหาวิทยาลัย โดยเน้นไปที่การต่อยอดงานวิจัย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นายโฆสิต เชื่อว่าคุณสมบัติของธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ที่จะสามารถอยู่รอดได้อีก 10 ปี ข้างหน้า คือ ผู้ที่มีความสามารถที่จะควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดจากกระบวนการโลกาภิวัฒน์ คือ การมีกระบวนการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การยกระดับการเพิ่มผลผลิต และนวัตกรรมใหม่ และการมีพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเชื่อมโยงกับต่างประเทศทั้งในรูปแบบของการลงทุนในประเทศ การพัฒนาซัพพลายเชนกับคู่ค้าเพื่อลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจในยุคนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น