ก.มหาดไทยเตรียมอัดงบ 400 ล้านบาท ฟื้นฟูโอทอป เร่งขึ้นทะเบียนกลุ่มผู้ผลิตใหม่ ด้านกรมการพัฒนาชุมชนขานรับจับมือสถาบันการเงิน และห้างค้าปลีก เป็นแนวร่วม
นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีว่าช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้กรมการพัฒนาชุมชน เร่งดำเนินการส่งเสริมสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ สินค้าโอทอป (OTOP) เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานราก โดยได้เตรียมงบประมาณสนับสนุนจำนวน 400 ล้านบาท เพื่อให้ในการฟื้นฟู ส่งเสริม และสนับสนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วประเทศ ในเบื้องต้นได้มอบหมายกรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการสินค้าโอทอป เพื่อจัดทำฐานข้อมูลให้มีความเป็นปัจจุบัน และมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ในส่วนของการส่งเสริมภาคการตลาด ยังคงให้ดำเนินกิจกรรมการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์โอทอป เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเองเข้ารับการคัดเลือกและรับรองคุณภาพ สร้างมาตรฐานให้แก่ผลิตภัณฑ์ และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในตลาด
ด้านนายปรีชา บุตรศรี อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2551 กรมฯ กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมสินค้าโอทอปของชุมชน โดยร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพื่อสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้ง ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ เครือข่ายองค์ความรู้ (KBO) ช่วยเหลือกลุ่มผลิตสินค้าโอทอปที่ประสบปัญหาด้านการผลิตให้สามารถยกระดับสินค้าของตนเองได้มีคุณภาพและมาตรฐานดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังได้ร่วมกับ เทสโก้ โลตัส เพื่อรับสินค้าโอทอปในแต่ละชุมชนไปจำหน่ายตามสาขาต่างๆ
ทั้งนี้ จากข้อมูลในปี 2550 ที่ผ่านมา พบว่ามีกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าโอทอปได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการพัฒนาชุมชนราว 30,000 – 37,000 ราย ซึ่งในปีนี้จะให้มีการขึ้นทะเบียนใหม่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ประกอบการสินค้าโอทอปทั้งหมดทั่วประเทศ
นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีว่าช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้กรมการพัฒนาชุมชน เร่งดำเนินการส่งเสริมสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ สินค้าโอทอป (OTOP) เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานราก โดยได้เตรียมงบประมาณสนับสนุนจำนวน 400 ล้านบาท เพื่อให้ในการฟื้นฟู ส่งเสริม และสนับสนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วประเทศ ในเบื้องต้นได้มอบหมายกรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการสินค้าโอทอป เพื่อจัดทำฐานข้อมูลให้มีความเป็นปัจจุบัน และมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ในส่วนของการส่งเสริมภาคการตลาด ยังคงให้ดำเนินกิจกรรมการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์โอทอป เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเองเข้ารับการคัดเลือกและรับรองคุณภาพ สร้างมาตรฐานให้แก่ผลิตภัณฑ์ และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในตลาด
ด้านนายปรีชา บุตรศรี อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2551 กรมฯ กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมสินค้าโอทอปของชุมชน โดยร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพื่อสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้ง ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ เครือข่ายองค์ความรู้ (KBO) ช่วยเหลือกลุ่มผลิตสินค้าโอทอปที่ประสบปัญหาด้านการผลิตให้สามารถยกระดับสินค้าของตนเองได้มีคุณภาพและมาตรฐานดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังได้ร่วมกับ เทสโก้ โลตัส เพื่อรับสินค้าโอทอปในแต่ละชุมชนไปจำหน่ายตามสาขาต่างๆ
ทั้งนี้ จากข้อมูลในปี 2550 ที่ผ่านมา พบว่ามีกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าโอทอปได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการพัฒนาชุมชนราว 30,000 – 37,000 ราย ซึ่งในปีนี้จะให้มีการขึ้นทะเบียนใหม่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ประกอบการสินค้าโอทอปทั้งหมดทั่วประเทศ