เป็นที่รู้กันว่าเสื่อตาตามิ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดจากการนำต้นหญ้ามาสานเป็นเสื่อผืน เพื่อนำมาปูพื้นห้อง ถึงกับวัดขนาดห้องตามจำนวนของเสื่อตาตามิที่นำมาปูเลยทีเดียว แต่ใครจะคิดว่าพันธุ์ของต้นหญ้าชนิดนี้จะปลูกได้ในเมืองไทย และนำไปทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับประเทศต้นตำรับ พร้อมทั้งส่งออกได้อีกด้วย ซึ่งต้องยกนิ้วให้กับ “บริษัท ไทตาตามิ โปรดักซ์ จำกัด” ที่ได้นำพันธุ์พืชจากต่างประเทศมาสร้างเป็นธุรกิจ
เจริญศิริ ชิมาด้า ผู้จัดการ บริษัท ไทตาตามิ โปรดักซ์ จำกัด เล่าว่า แต่เดิมธุรกิจของครอบครัวบริษัททัวร์ เน้นการนำเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่นิยมมาเที่ยวที่จ.เชียงใหม่ เป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะชื่นชอบงานหัตถกรรมของกลุ่มชาวบ้าน จนกระทั่งเห็นศักยภาพในงานหัตถกรรมของไทย จึงคิดร่วมลงทุนทำธุรกิจ “เสื่อตาตามิ” โดยนำพันธุ์ของต้นหญ้ามาปลูกในไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 โดยในช่วงแรกจะเป็นการทอเป็นเสื่อผืนเท่านั้น แล้วส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งผ่านไป 2 ปี ทางบริษัทของญี่ปุ่น ได้เริ่มลดจำนวนการสั่งซื้อ และกดราคา เนื่องจากได้ตลาดใหม่ที่มีราคาถูกกว่า คือ ประเทศจีน ทำให้เริ่มมองหาลูกค้ารายอื่น รวมถึงได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของผลิตภัณฑ์ด้วย เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น
“เมื่อทางประเทศญี่ปุ่น สั่งสินค้าของเราน้อยลง ทำให้เราต้องคิดทำการตลาดใหม่ๆ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์ โดยได้เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานเข้าไป นอกเหนือจากการผลิตเพียงแค่เสื่อเท่านั้น เช่น หมอน ที่นอน หมอนข้าง และที่รองจาน เป็นต้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากเดิมที่กว่า 50% จะอยู่ที่เสื่อผืน แต่มาในระยะหลัง สินค้าที่ขายดี จะเป็นประเภทผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเสื่อตาตามิ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งลูกค้าในประเทศที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์เหล่านี้ คือ ฝรั่งเศส สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง”
สำหรับพันธุ์ของหญ้าที่นำมาปลูกในไทยนั้น หลายคนคงสงสัยว่าผลผลิตที่ได้จะเหมือนการปลูกในประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ ซึ่ง เจริญศิริ บอกว่า พันธุ์ของต้นหญ้าที่นำมาทำเป็นเสื่อตาตามิ ของญี่ปุ่นนั้น มีอยู่ประมาณ 2-3 พันธุ์ ซึ่งพันธุ์ที่นำมาทำเสื่อตาตามิโดยตรงของญี่ปุ่น จะมีลักษณะลำต้นที่ผอม สูง ประมาณ 1.40 เมตร แต่ทางไทตาตามิ ได้เลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของไทย คือ ลำต้นจะไม่สูงมากนัก แต่จะอวบกว่า ซึ่งความสูงจะไม่เกิน 1.20 เมตร ทำให้เมื่อนำมาทอเป็นเสื่อผืนจะได้เสื่อตาตามิขนาดหน้ากว้าง 40,55,60,88 และ 90 เซนติเมตร
ส่วนการทำตลาดในประเทศไทย ในช่วงแรกจะส่งผลิตภัณฑ์ขายตามห้างสรรพสินค้าประมาณ 25 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ แต่ขณะเหลือเพียงไม่กี่ห้าง เช่น อีเซตัน สยามพารากอน โตคิว เซ็นทรัล ชิดลม เสรีเซ็นเตอร์ เดอะมอลล์ บางกะปิ และเดอะมอลล์รามคำแหง แต่ขณะนี้จะเน้นการสั่งซื้อโดยตรงจากลูกค้าเป็นหลัก เช่น ลูกค้าที่เป็นร้านอาหาร สปา และร้านนวดแผนไทย ซึ่งสินค้าที่ขายดีคือ ที่นอน 3 พับ, 4 พับ และเบาะรองนั่ง จากสินค้าที่มีอยู่กว่า 100 รายการ โดยราคาเริ่มต้นที่ 70 - 3,500 บาท
นอกจากนี้ล่าสุดทางไทตาตามิ ได้ช่วยลดปริมาณขยะเพื่อเป็นการช่วยรักษษสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง คือ การนำเศษของหญ้าที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ก่อนนำมาทอ จะต้องตัดหัว-ท้าย ก่อน ทำให้มีเศษของต้นหญ้าจำนวนมาก จึงคิดนำมาทำเป็นกระดาษ ที่สามารถนำไปประดิษฐ์ทำโคมไฟได้
อย่างไรก็ตามแผนธุรกิจในอนาคต เจริญศิริ บอกว่า จะรักษาฐานลูกค้าในปัจจุบันไว้ให้ได้ก็พอใจแล้ว เพราะขณะนี้ความไม่แน่นอนทางการเมือง และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงตามไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มลูกค้าในประเทศให้มากขึ้น เน้นไปที่รีสอร์ท โรงแรม และโรงเรียนสอนการนวด ให้มากขึ้น
***สนใจติดต่อ 053-431-032-3 หรือที่ www.thaitatami.com***