การแพทย์แผนไทย หรือ แพทย์ทางเลือก จะเป็นที่หนทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วย หรือ ผู้ที่รักในสุขภาพ ได้มีทางเลือกในการเข้าหาวิธีการป้องกันหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยวิธีทางธรรมชาติไม่ต้องพึ่งพายา ที่มีสารประกอบทางเคมี ปัจจุบันความนิยมแพทย์ทางเลือกของคนไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นธุรกิจสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างเอสเอ็มอี
สำหรับแพทย์ทางเลือกที่มีชื่อว่า “กวาซา” อาจจะเป็นเรื่องใหม่ของใครหลายคน ในขณะที่บางคนก็ได้รู้จักมานานแล้วเช่นกัน เพราะกวาซา เป็นแพทย์ทางเลือกที่ต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา และได้เข้ามาเมืองไทยเมื่อ 2,000 ปี และด้วยกวาซาเป็นแพทย์แผนทางเลือกที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่ม ทำให้เริ่มจางหายไปในปัจจุบัน มีใช้เฉพาะชาวเขา ชาวพื้นเมืองทางภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไม่ได้เป็นที่นิยมในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ และไม่ได้รับการเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก
ด้วยเหตุนี้เองนายวรพล หวังสงวนกิจ นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง เห็นช่องว่างทางการตลาด ประกอบกับแนวทางการรักษาสุขภาพในแนวธรรมชาติบำบัดเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และน่าจะเติบโตได้ดีในอนาคต จึงได้ขอเข้ามาสานต่อ คลินิกพุทธเวช คลินิกรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนทางเลือกแบบ “กวาซา” โดยการนวดน้ำมันแบบปรับสมดุลเพื่อวิเคราะห์โรค ด้วยอุปกรณ์ที่ทำจากเขาควาย
การนวดน้ำมันแบบปรับสมดุลตามแนวทางเรียกว่า “กวาซา” นั้น เป็นการใช้อุปกรณ์ที่ทำจากเขาควายที่กล่าวมาข้างต้น มาขูดไปตามกล้ามเนื้อในลักษณะของการขูดพิษเพราะจะเมื่อขูดไปตามกล้ามเนื้อจะเกิดผื่นแดง ซึ่งผื่นแดงที่เกิดขึ้นบนผิวหนังนี่เอง จะช่วยให้หมอที่เรียนมาด้านนี้บอกได้ว่าสุขภาพของแต่ละคนเป็นอย่างไร เนื่องจากรอยผื่นแดงช้ำที่เกิดขึ้นมาบนผิวของแต่ละคนจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ซึ่งรอยผื่นแดงจะเริ่มหายไปใน 3 วันและเป็นปกติภายใน 7 วัน
นายวรพล เล่าว่า ได้ตัดสินใจทำธุรกิจทางด้านนี้ เริ่มต้นมาจากความเชื่อและความศรัทธา จากประสบการณ์ของตัวเองที่มีโอกาสได้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่เห็นบริการลักษณะนี้เปิดให้บริการ โดยได้เข้ามาบริหารกิจการต่อจาก อาจารย์สุจิตรา เจริญภัทรเภสัช ซึ่งเปิดให้บริการมานานกว่า 4 ปี หลังจากนั้น ตนเองก็เข้ามาร่วมทำงานกับอาจารย์ด้านการส่งเสริมการขายและด้านการตลาด ในขณะที่วิธีการและแนวทางในการให้บริการ ยังเป็นหน้าที่ของอาจารย์ที่คอยดูแล
"ทั้งนี้ หลังจากที่ผมได้เข้ามารับบริหารกิจการตรงนี้ สิ่งที่ผมเห็นปัญหา คือ สถานที่ตั้งของเรายังไม่อยู่ในแหล่งชุมชน การเข้ามารับบริการของลูกค้ายังลำบาก และที่ผ่านมาขาดการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ดังนั้นแผนที่วางไว้ คือ การหาที่ตั้งใหม่ และทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆให้คนได้รู้จัก กวาซามากขึ้น"
นอกจากนี้ ได้มีการนำเทคนิคกวาซา มาใช้กับการให้บริการด้านความงามเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าทางด้านเสริมความงามทั้งหลายได้นำไปใช้และให้บริการภายในคลินิก ในลักษณะของการนวดยกกระชับใบหน้า และการนวดสลายไขมัน ทางคลินิกจะเน้นการสอนเพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อเครื่องมือและนำไปทำเอง เพื่อจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องเข้ามารับบริการที่คลินิก
โดยทางคลินิกจะให้บริการนวดหน้าฟรี ด้วยเครื่องมือดังกล่าวแก่ลูกค้าที่เข้ามารับบริการรักษาแบบกวาซา ที่เป็นการนวดทั้งตัว ซึ่งการนวดแบบกวาซาทั้งตัวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง คิดค่าบริการครั้งละ 400 บาท ผู้ที่เข้ามารับบริการได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน ไปจนไม่จำกัดอายุ
ปัจจุบันกลุ่มที่เข้ามารับบริการมีหลากหลาย ลูกค้าเดือนหนึ่งประมาณ 400 รายถึง 500 ราย ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก รายได้ต่อเดือนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือเป็นกำไร รายได้จะมาจาก 2 ทาง โดย 60%ของรายได้มาจากค่าบริการ และ 40% มาจาการขายโปรดักส์ เช่น อุปกรณ์เครื่องขูดทำจากเขาควาย และตัวสมุนไพรต่างๆ ที่ทางคลินิกพัฒนาออกมาจำหน่าย
นอกจากนี้ ทางคลินิกได้เปิดสอนให้กับผู้สนใจทั่วไป ที่ต้องการนำเทคนิคกวาซาไปใช้เสริมในธุรกิจเสริมความงาม หรื อนำไปประกอบอาชีพส่วนตัว ค่าเรียนคอร์สละ 3,900 บาท ที่ผ่านมาร้านเสริมสวยหลายแห่งสนใจเรียนและนำไปให้บริการลูกค้าภายในร้าน
คลินิกพุทธเวช ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นคลินิกแพทย์ทางเลือกแผนไทย โดยตั้งอยู่ที่ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2545 ถือได้ว่าเป็นแห่งแรกในปัจจุบันที่ใช้เทคนิคกวาซาในการให้บริการเป็นหลัก และเป็นตัวอย่างแนวคิดของของคนรุ่นใหม่ที่ประยุกต์แพทย์แผนโบราณให้เข้ากับตลาดความงามปัจจุบัน
สนใจ โทร. 0-2983-0095,08-9141-5533