ด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่พักอาศัยของคนเมือง จึงเป็นเรื่องยากถ้าจะมีสวนไว้ผ่อนคลาย จากอุปสรรคดังกล่าว นำมาสู่ไอเดียผลิตสินค้าอุปกรณ์แต่งสวนขนาดเล็ก หรือ “มินิการ์เด้น” และที่พิเศษกว่านั้น อุปกรณ์ทุกชิ้นล้วนใส่ความคิดสร้างสรรค์ มีทั้งดีไซน์สวยงามแปลกตา และยังใช้งานได้จริง
เจ้าของสินค้าดังกล่าว บริษัท ลิเคน ยุโรป ยูเนียน จำกัด ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ลิเคน” (LIKEN) บริหารโดย “กัลยาณี เจียมสินกุล” ซึ่งเคยทำงานด้านส่งออกให้แก่บริษัทเซรามิกรายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนก้าวมาสร้างธุรกิจของตัวเองในประเทศไทย
***เพิ่มไอเดีย เพิ่มมูลค่า***
กัลยาณี เล่าว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตสินค้าเซรามิกรายเล็กๆ ถ้าจะแข่งเรื่องราคาถูก ไม่มีทางสู้กับผู้ผลิตรายใหญ่ได้ แนวทางอยู่รอดและเติบโตในธุรกิจนี้ จึงเลือกที่ผลิตสินค้าให้ต่างออกไป เพิ่มความยุ่งยาก และรายละเอียดต่างๆ ลงไป โดยนำวัสดุหลายๆ อย่างมาผสมกันในสินค้าหนึ่งชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเซรามิก ไม้ กระดาษ ผ้า เชือก ฯลฯ ออกมาแล้วสามารถใช้งานได้จริง รวมถึง จัดเป็นชุด เพื่อสร้างเรื่องราวความเป็นมา
“ธุรกิจนี้ มาจากตัวดิฉันเองเป็นคนรักการอยู่บ้าน เวลาคิดจะผลิตสินค้า จึงอยากจะตอบสนองการใช้ชีวิตของคนให้ครบถ้วนในบ้านหนึ่งหลัง โดยเริ่มจากผลิตอุปกรณ์เซรามิกบนโต๊ะอาหาร ตามด้วยอุปกรณ์ในสวนขนาดเล็ก ซึ่งมาจากตัวเองเคยอยู่คอนโด ก็อยากมีสวนเล็กๆ ไว้ผ่อนคลาย ซึ่งคนเมืองทั่วไปก็คงมีความต้องการเช่นนี้เหมือนกัน”
เจ้าของธุรกิจ เล่าต่อว่า สินค้าที่สร้างสรรค์ขึ้น ถ้าแยกเป็นรายชิ้น จะดูไม่โดดเด่น คล้ายสินค้าที่วางขายทั่วไป แต่เมื่อนำมาจัดเป็นชุด ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มมูลค่ามากกว่าสินค้าตามท้องตลาด 3-4 เท่าตัว
“ถ้าเราขายกระถางเซรามิกแล้วเอาต้นไม้มาเสียบ ก็ไม่มีความต่างจากสินค้าทั่วไป ใครๆ ก็ทำกัน แต่เราเลือกที่จะเพิ่มความยุ่งยาก นำอุปกรณ์หลายอย่างมาผสมกลายเป็นสินค้าชิ้นเดียว หรือจัดเป็นชุด มีแพ็คเกจจิ้ง แทนที่จะขายกระถางอย่างเดียว เราก็นำมาร้อยด้วยเชือก ระบายสี เอาบัวรดน้ำมาผูก ฯลฯ นี่คือความใส่ใจที่สัมผัสได้ ช่วยเพิ่มคุณค่าในตัวเองและยังป้องกันโดนก๊อปปี้ เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่มีทางจะมาเสียเวลาทำแบบนี้ได้”
***สร้างดีไซน์ แรงบันดาลใจจากรักบ้าน ***
ด้านการออกแบบนั้น เกือบทั้งหมดมาจากสมองของกัลยาณี ซึ่งไม่เคยเรียนด้านศิลปะหรือการออกแบบมาก่อน อาศัยชอบงานดีไซน์ และรักการแต่งบ้านเป็นแรงบันดาลใจ วัสดุต่างๆ ที่มาใช้ผลิต เธอจะเป็นคนสรรหาด้วยตัวเอง เน้นนำวัสดุที่มีในท้องตลาดมาพลิกแพลงไปแตกต่างออกไป
สินค้าแบรนด์ “ลิเคน” นอกจากอุปกรณ์แต่งสวนที่เป็นพระเอกแล้ว ยังผลิตสินค้าชิ้นเล็กๆ เกี่ยวกับของแต่งบ้าน และเครื่องใช้ในบ้านทั้งหมด เช่น อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร โต๊ะทำงาน และอุปกรณ์เพื่อสัตว์เลี้ยง เป็นต้น รวมแล้วมีกว่าพันแบบ ราคาเริ่มต้นที่หลักสิบถึงหลักพันบาท
จุดแข็งอีกประการที่ช่วยให้สินค้าไทยรายนี้ ยืนอยู่ได้ท่ามกลางบริษัทยักษ์ใหญ่ คือ สามารถจะรับผลิตในปริมาณไม่มากนัก เริ่มต้นที่ 50-100 ชิ้น ต่างกับสินค้าจีนต้องสั่งครั้งละเป็นหมื่นๆ ชิ้น อย่างไรก็ตาม ในข้อดีต้องมีข้อเสียอยู่เสมอ การผลิตปริมาณน้อย ทำให้ต้นทุนผลิตสูง ราคาของ “ลิเคน” เทียบกับสินค้าจีนแล้วสูงกว่า 3-4 เท่าตัว บางครั้งจึงเป็นจุดอ่อนให้ถูกชิงลูกค้าไป
***แจ้งเกิดส่งออก ต่อยอดในประเทศ***
สำหรับจุดเริ่มธุรกิจนั้น กัลยาณี เผยว่า เริ่มธุรกิจแบบซื้อมาขายไป เมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น พัฒนาผลิตสินค้าด้วยตัวเอง ใช้ทุนตั้งต้นหลักแสนบาท ปัจจุบันมีพนักงานประจำ เพียง 12 คน ส่วนการผลิตงานเซรามิกว่าจ้างโรงงานที่เป็นคู่ค้ากันตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ส่วนงานแฮนด์เมดว่าจ้างกลุ่มแม่บ้านในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่
ขณะที่การตลาด ระยะแรกส่งออกต่างประเทศทั้งหมด มีคู่ค้าสำคัญ คือ อังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เปิดตลาดในประเทศ รับผลิตสินค้าพรีเมียมให้แก่องค์กรต่างๆ นำเสนอจุดเด่นเป็นสินค้าที่มีดีไซน์โดดเด่น รวมถึง ส่งขายปลีกในร้าน Loft ซึ่งการปรับตัวหาตลาดใหม่ดังกล่าว ช่วยให้ทุกวันนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากตลาดในประเทศ สูงกว่าตลาดส่งออกแล้ว คาดว่าสิ้นปีนี้ ยอดขายประมาณ 70 ล้านบาท
“เมื่อก่อนดิฉันจะกังวลโดนก๊อบปี้มาก ทำให้ไม่เปิดตลาดในประเทศเลย กระทั่งเมื่อ 2-3 ปี ไปออกงานแสดงสินค้า มีเจ้าหน้าที่ธนาคารคนหนึ่งมาซื้อสินค้าไปแจกลูกค้า หลังจากนั้น สินค้าได้ผลตอบรับอย่างดีมาก เกิดการบอกต่อจนมีลูกค้าองค์กรอื่นๆ เข้ามาจ้างผลิตสินค้าพรีเมียมจำนวนมาก จากการเปิดตลาดใหม่ ทุกวันนี้ ค่าเงินบาทแข็งตัว ธุรกิจจึงไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงนัก”
ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตนั้น จะเน้นทำตลาดภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มลูกค้าองค์กรในส่วนงานพรีเมียม และกำลังเปิดหน้าร้านจำหน่ายปลีก เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนทำงาน และวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น รวมถึง จะพยายามลดต้นทุนการผลิต เพื่อจำหน่ายสินค้าได้ราคาต่ำลง รองรับกับลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย
*********************
โทร.081 870 4432 , 02 729 2568-9