จากนักวิทยาศาสตร์ ที่คลุกคลีอยู่กับงานวิจัย และงานด้านการตลาด ของบริษัทที่ผลิตสินค้าอุปโภครายใหญ่ของไทย มานานกว่า 18 ปี ทำให้ได้รับประสบการณ์อันมีค่ายิ่ง เมื่อออกมาดำเนินธุรกิจด้านความสวยความงามเอง จนสินค้าได้รับความนิยม ผู้บริโภคใช้แล้วได้ผลจนเกิดกระแสการบอกต่อ
นิตยา สิทธิปัญญาพิทักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเวอร์กลอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมความงามภายใต้แบรนด์ “แคทเธอรีน” เล่าว่า ธุรกิจเป็นการร่วมหุ้นกับเพื่อนคือ ชลธิชา มหัทธนารักษ์ กรรมการผู้จัดการ โดยตนเองเป็นเป็นผู้คิดค้นสูตร โดยอาศัยความรู้ด้านเคมี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทที่ผลิตสินค้าเกี่ยวกับสินค้าอุปโภครายใหญ่ของไทย ในตำแหน่งนักวิจัย มีหน้าที่รับผิดชอบสูตร และพัฒนาสูตร ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยาสีฟัน แชมพู และน้ำยารีดผ้า เป็นต้น
จนกระทั่งย่างเข้าปีที่ 18 ของการทำงาน ทางบริษัทต้องย้ายฐานการผลิตไปที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และเปิดโอกาสให้ลูกจ้างสามารถเออรี่ รีไทร์ ได้ ทำให้นิตยา ตัดสินใจลาออกทันที แต่ไม่ได้คำนึงถึงว่าในช่วงที่ลาออกนั้น เป็นช่วงปี 2540 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หางานทำไม่ได้ จนเพื่อมาชวนทำธุรกิจร่วมกันที่ประเทศพม่า โดยให้เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคให้ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงาม จากทานาคา ที่ประเทศพม่า เพราะที่ผ่านมาชาวพม่าก็นิยมใช้สินค้าอุปโภคจากไทย ดังนั้นหากมีการตั้งฐานการผลิตที่พม่าน่าจะมีความเหมาะสม แต่ดำเนินธุรกิจไปได้ประมาณ 1 ปี ก็ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร และปัญหาทางการเมือง การปิดผ่านบริเวรณชายแดน ทำให้การค้าไม่คล่องตัวเท่าที่ควร จึงต้องย้ายกลับมาไทย
“หลังจากที่เราดำเนินธุรกิจที่ประเทศ แต่ประสบปัญหาหลายด้านรุมเร้า ทำให้ต้องย้ายกลับมาไทย ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงหน้า ก็ได้ลองแจกจ่ายให้เพื่อนใช้ ต่างก็ติดใจในคุณภาพ และประสิทธิภาพที่ใช้แล้วได้ผล จึงเริ่มคิดที่จะทำขายในไทย โดยในช่วงนั้นกระแสสมุนไพรมาแรง ผู้คนหันกลับสู่ธรรมชาติมากขึ้น ทำให้เริ่มหันมาใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสมุนไพรอย่างจริงจัง รวมถึงการนำภูมิปัญญาไทยเข้ามาผสมผสานมากขึ้นด้วย”
เมื่อนิตยา และเพื่อนร่วมหุ้น ตัดสินใจที่จะผลิตสินค้าจากสมุนไพรอย่างจริงจัง จึงจำเป็นต้องหาความแตกต่าง และคิดผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาเฉพาะด้าน เพื่อสร้างจุดแข็ง โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ปกปิดผมขาว ผมร่วง และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับใบหน้า แก้ไขปัญหาสิว ฝ้า กระ จุด ด่าง ดำ เป็นต้น โดยล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์หน้าใสเอาใจวัยรุ่น พร้อมเปลี่ยนแพคเกจให้ทันสมัย มากขึ้นด้วย
“ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ โดยใช้สมุนไพรของไทย และไม่มีสารไฮโรเจนไดออกไซด์ ที่เป็นสารก่อมะเร็ง ใช้แล้วผมไม่เสีย แห้งกระด้าง เหมือนผลิตภัณฑ์ปิดผมขาวที่มาจากสารเคมีทำให้ลูกค้าไม่เกิดอาการแพ้ เพราะเราได้ทดลองและทำการวิจัยผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของแบรนด์แคทเธอรีน รวมถึงทีมงานนอกจากจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรแล้ว ยังมีความรู้เรื่องงานวิจัยควบคู่กันไปด้วย ซึ่งขณะนี้เรากำลังเร่งสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกบูธตามงานเกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ หรือนำผลิตภัณฑ์ไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ตามห้างสรรพสินค้า หลังจากที่ผ่านมาอาศัยลูกค้าใช้แล้วได้ผล จึงเกิดกระแสการบอกต่อ”
ส่วนช่องทางจำหน่ายในปัจจุบันเป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตามร้านเสริมสวย ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย และร้านที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพร, ขายผ่านเซเว่น แคตตาล็อก, เดอะมอลล์ ทุกสาขา, สหกรณ์กรุงเทพ, ห้างเอ็มโพรเรียม และสยามพารากอน รวมถึงการขายผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแคทเธอรีน ถือได้ว่าสามารถครอบคลุมทุกเพศทุกวัย คือ ผลิตภัณฑ์ปิดผมหงอก ผมร่วง เป็นลูกค้าที่มีอายุ 30 ปีขึ้น โดยเฉพาะคนวัยทำงาน แม่บ้าน และข้าราชการ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ชุดหน้าใส จะเป็นนิยมของกลุ่มวัยรุ่นมาก เนื่องจากราคาไม่สูงเกินไปนัก และหลังจากที่ได้มีการปรับเปลี่ยนแพคเกจจิ้ง ให้ดูทันสมัย ก็สามารถดึงดูกลุ่มวัยรุ่นให้หันมาใช้สินค้าของแคทเธอรีนเพิ่มขึ้นด้วย
***สนใจติดต่อ 02-748-9124-5, 02-7488155 และ 08-6310-5576***
