อุตฯ อัดงบ 72 ล้านบาท เดินหน้าสานต่อโครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรเป็นปีที่ 2 คัดเลือกเอสเอ็มอีร่วมโครงการกว่า 250 ราย หลังประสบผลสำเร็จจากปีแรก สามารถเพิ่มศักยภาพลดต้นทุนการผลิตได้รายละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ถึง 9 ล้านบาท จากเอสเอ็มอีนำร่อง 151 แห่งทั่วประเทศ ส่วนแผนปี 51 เน้นทำงานแบบเจาะลึกให้ผู้ประกอบการเลือกแผนจาก 2 ใน 6 แผน
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยถึง โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร หรือ “1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร” ว่า ขณะนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการดังกล่าวมาครบตามกำหนดเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา สามารถคัดเลือกโรงงานเอสเอ็มอีด้านแปรรูปสินค้าเกษตร เข้าร่วมโครงการได้เป็นจำนวน 151 แห่งทั่วประเทศ ใช้งบประมาณไปจำนวน 72 ล้านบาท ผลสำเร็จของโครงการ สามารถพัฒนาศักยภาพและลดต้นทุนการจัดการและการผลิตได้รายละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ไปจนถึง 9 ล้านบาท แล้วแต่ขนาดของโรงงาน และผู้ประกอบกว่าร้อยละ 60 สามารถลดต้นทุนด้านพลังงานกว่า 3-5 แสนบาทต่อเดือน
สำหรับสัดส่วนการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการจาก 3 ใน 5 แผนงานพบว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นแผนงานที่ผู้ประกอบการและโรงงาน ต้องการเสริมศักยภาพมากที่สุดจำนวน 120 ราย แผนการลดต้นทุนทรัพยากรและพลังงาน จำนวน 100 ราย และแผนบริหารจัดการวัตถุดิบและโลจิสติกส์จำนวน 97 ราย ตามลำดับ
ทั้งนี้ โรงงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้ง 151 แห่งทั่วประเทศจะถูกนำไปใช้เป็นกรณีศึกษาในเรื่ององค์ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการแบบเดียวกัน ได้นำไปประยุกต์ใช้ต่อไป ซึ่งโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค หรือ โครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร เป็นโครงการต่อเนื่องระยะ 3 ปี ระหว่าง ปี พ.ศ. 2551-2553 เพื่อพัฒนาศักยภาพของโรงานเอสเอ็มอีด้านอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร สำหรับในปี 2551 ทางกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งงบไว้จำนวน 72 ล้านบาท โดยจะมีการคัดเลือกผู้ประกอบเข้าร่วมโครงการเพิ่มเป็น 250 ราย และเพิ่มที่ปรึกษาโครงการเพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนผู้ประกอบการ
สำหรับแผนงานในการพัฒนาขีดความสามารถในช่วงที่ผ่านมา มีอยู่ด้วยกัน 5 แผนงาน ได้แก่ บริหารวัตถุดิบและโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนทรัพยากรและพลังงาน แผนงานยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือระบบการจัดการสู่มาตรฐานสากล แผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ โดยในปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะต้องเลือกอย่างน้อย 3 แผนจาก 5 แผนงาน แต่สำหรับในปี 2551 จะใช้วิธีการทำงานแบบเจาะลึกมากขึ้น โดยผู้ประกอบการจะต้องเลือกแผนเพียง 2 แผนจาก 6 แผนในการทำงาน
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยถึง โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร หรือ “1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร” ว่า ขณะนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการดังกล่าวมาครบตามกำหนดเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา สามารถคัดเลือกโรงงานเอสเอ็มอีด้านแปรรูปสินค้าเกษตร เข้าร่วมโครงการได้เป็นจำนวน 151 แห่งทั่วประเทศ ใช้งบประมาณไปจำนวน 72 ล้านบาท ผลสำเร็จของโครงการ สามารถพัฒนาศักยภาพและลดต้นทุนการจัดการและการผลิตได้รายละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ไปจนถึง 9 ล้านบาท แล้วแต่ขนาดของโรงงาน และผู้ประกอบกว่าร้อยละ 60 สามารถลดต้นทุนด้านพลังงานกว่า 3-5 แสนบาทต่อเดือน
สำหรับสัดส่วนการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการจาก 3 ใน 5 แผนงานพบว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นแผนงานที่ผู้ประกอบการและโรงงาน ต้องการเสริมศักยภาพมากที่สุดจำนวน 120 ราย แผนการลดต้นทุนทรัพยากรและพลังงาน จำนวน 100 ราย และแผนบริหารจัดการวัตถุดิบและโลจิสติกส์จำนวน 97 ราย ตามลำดับ
ทั้งนี้ โรงงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้ง 151 แห่งทั่วประเทศจะถูกนำไปใช้เป็นกรณีศึกษาในเรื่ององค์ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการแบบเดียวกัน ได้นำไปประยุกต์ใช้ต่อไป ซึ่งโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค หรือ โครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร เป็นโครงการต่อเนื่องระยะ 3 ปี ระหว่าง ปี พ.ศ. 2551-2553 เพื่อพัฒนาศักยภาพของโรงานเอสเอ็มอีด้านอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร สำหรับในปี 2551 ทางกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งงบไว้จำนวน 72 ล้านบาท โดยจะมีการคัดเลือกผู้ประกอบเข้าร่วมโครงการเพิ่มเป็น 250 ราย และเพิ่มที่ปรึกษาโครงการเพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนผู้ประกอบการ
สำหรับแผนงานในการพัฒนาขีดความสามารถในช่วงที่ผ่านมา มีอยู่ด้วยกัน 5 แผนงาน ได้แก่ บริหารวัตถุดิบและโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนทรัพยากรและพลังงาน แผนงานยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือระบบการจัดการสู่มาตรฐานสากล แผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ โดยในปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะต้องเลือกอย่างน้อย 3 แผนจาก 5 แผนงาน แต่สำหรับในปี 2551 จะใช้วิธีการทำงานแบบเจาะลึกมากขึ้น โดยผู้ประกอบการจะต้องเลือกแผนเพียง 2 แผนจาก 6 แผนในการทำงาน
