“น้ำแข็งอะไรเนี้ย ถุงหนึ่งตั้ง 12 บาท” เป็นอีกหนึ่งคำอุทานหรือคำถามของใครบางคน หรือหลายคนที่ตั้งใจไปซื้อน้ำแข็งยูนิตที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 - ELEVEN แต่ต้องแปลกใจตอนที่พนักงานคิดเงินเป็นจำนวนเงินถึง 12 บาท ซึ่งหน้าตาน้ำแข็งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับน้ำแข็งถุงละ 6 บาทที่เคยซื้อตามตลาดทั่วไป
“สุขุม ศรีโสภณางกูร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคคุโบะ ร็อกไอซ์ (ประเทศไทย) จำกัด คือผู้ที่จะมาให้คำตอบกับเราในเรื่องนี้
สุขุมย้อนความถึงจุดเริ่มต้นของน้ำแข็งยี่ห้อ “ร็อกไอซ์” ว่า ร็อกไอซ์เป็นน้ำแข็งที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 35 ปีที่แล้ว ผู้ก่อตั้งคือ Yoshi Kokubo แห่งบริษัท โคคุโบะ ไอซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นน้ำแข็งที่ถือครองส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่นสูงถึง 40% และมีโรงงานอยู่ทั่วประเทศถึง 17 โรงงานด้วยกัน
คนไทยเริ่มรู้จักและเห็นหน้าตาของน้ำแข็งร็อกไอซ์เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว จากการนำเข้าของบริษัทตัวแทนที่ตั้งขึ้นโดยบริษัท โคคุโบะ ไอซ์ ประเทศญี่ปุ่น โดยขณะนั้นร็อกไอซ์มีช่องทางการจำหน่ายอยู่เพียงซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารญี่ปุ่นในบางแห่งเท่านั้น ซื้อขายกันเป็นกิโล ตกราคากิโลกรัมละ 45 บาท จากเดิมที่ขายในประเทศญี่ปุ่นที่ 85 บาท
สุขุมเปิดเผยอีกว่า การนำเข้าน้ำแข็งจากญี่ปุ่นแต่ละครั้ง บริษัทตัวแทนจะทำการเช่าทั้งห้องเย็นและรถในการจัดส่ง ซึ่งการลดราคาน้ำแข็งจาก 85 บาทเป็น 45 บาทนั้นย่อมขาดทุนแน่นอน แต่สาเหตุที่ลดราคาก็เพื่อเป็นการเปิดตลาดให้คนไทยได้รู้จักร็อกไอซ์มากขึ้น และอีก 2 ปีต่อมาก็ลดราคาเหลือกิโลกรัมละ 22 บาท
จนกระทั่งในปี 2548 บริษัท โคคุโบะ ไอซ์ ประเทศญี่ปุ่น จึงเปิดโรงงานน้ำแข็งร็อกไอซ์ในประเทศไทยขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคนไทยเป็นหุ้นส่วนในรูปแบบนิติบุคคลในชื่อบริษัทว่า บริษัท โคคุโบะ ร็อกไอซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตน้ำแข็งยูนิตภายใต้แบรนด์ “ร็อกไอซ์” จำหน่ายราคาถุงละ 12 บาท
คุณสมบัติพิเศษของน้ำแข็งร็อกไอซ์ที่แตกต่างจากน้ำแข็งที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป ถ้ามองจากภายนอกจะมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมตัน สะอาด ใส ไม่มีสีขุ่น ไม่มีกลิ่นคลอรีนตกค้าง บรรจุในถุงขนาด 1 กิโลกรัม เมื่อซื้อออกจากตู้แช่แล้ว ความแข็งและแห้งจะยังคงอยู่โดยไม่มีน้ำหยดซึมออกจากถุง ซึ่งถึงแม้เวลาจะผ่านไปครึ่งชั่วโมง ร็อกไอซ์จะคงสภาพแค่มีน้ำซึมอยู่ภายในถุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยที่น้ำจากภายในถุงจะไม่ซึมออกนอกถุงเลย
“ในการบรรจุน้ำแข็งร็อคไอซ์ เราจะใช้ถุงลามิเนต 2 ชั้นมาใช้ในการบรรจุ ซึ่งเป็นถุงฟู้ดเกรดที่มีความสะอาดและป้องกันการรั่วจากภายในและการซึมจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
พิสูจน์ง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราไปซื้อน้ำแข็งจาก 7 - ELEVEN แล้วซื้อตัวอย่างของร็อกไอซ์ 1 ถุง และน้ำแข็งยี่ห้ออื่นอีก1 ถุง เสร็จแล้วก็เดินถือออกมาโดยที่ไม่ต้องใส่ถุงก๊อบแก๊บ ให้ถือถุงแบบสภาพเปลือย ๆ อย่างนั้นเลย ถือออกมายังไม่ทันพ้นหน้าร้านเราจะสังเกตเห็นได้เลยว่า น้ำแข็งหลอดธรรมดามันจะละลายแล้วก็หยด แต่ว่าของร็อกไอซ์ มันจะเริ่มมีปฏิกิริยาหลังจาก 30 นาทีผ่านไปแล้ว จะมีไอเย็น ๆ ออกมาที่ผิวนอก ไม่มีการรั่ว ไม่มีการซึมอะไร สาเหตุที่ยังไม่รั่วซึมก็เพราะว่ามันยังไม่ละลาย แต่ว่าพอประมาณ 30 นาทีผ่านไปแล้วมันก็เริ่มที่จะละลายทีละนิด”
ด้วยคุณสมบัติภายนอกที่กล่าวมานั้น สืบเนื่องมาจากกระบวนการในการผลิตน้ำแข็งที่มีการควบคุมคุณภาพทั้งด้านฟิสิกส์, เคมี และจุลชีววิทยา ตามหลักมาตรฐานของระบบ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งในทางฟิสิกส์นั้น ถ้าน้ำมีความแข็งมากเท่าไหร่ก็จะทำให้น้ำแข็งมีความบริสุทธิ์มากเท่านั้น และความแข็งของร็อกไอซ์ก็มาจากควบคุมอุณภูมิในการผลิตที่ต่ำกว่าการผลิตน้ำแข็งทั่วไปถึง 3 เท่า
นอกจากนี้ ร็อกไอซ์ยังผ่านมาตรฐานการตรวจเชื้อโรคต่างๆจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งจะตรวจหาสารอี โคลัย (พาหะของโรคท้องร่วง E. coli / Coliforms) และจุลินทรีย์ต่างๆจากน้ำที่นำมาใช้ในการผลิต ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
“ตอนนี้เราได้มาตรฐานของอ.ย. กับเครื่องหมายเชลล์ชวนชิมของคุณชายถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ซึ่งท่านรับรองว่ายังไม่เคยกินน้ำแข็งที่สะอาดแล้วก็ละลายช้าอย่างนี้มาก่อนเลย ซึ่งท่านบอกไว้ว่าท่านไปชิมอาหารมาแล้วทั่วโลก แต่น้ำแข็งที่สะอาดแบบนี้ท่านไปเจอมาที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็คือน้ำแข็งร็อกไอซ์ของเรานั่นเอง” สุขุมกล่าวด้วยความภูมิใจ
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศไทยนั้น ขณะนี้ร็อกไอซ์มีวางจำหน่ายอยู่ใน 7 - ELEVEN เฉพาะในกรุงเทพฯ ประมาณ 1,500 สาขา, ฟู้ดแลนด์ประมาณ 7 สาขา, ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต, จัสโก้, วิลล่า ซูเปอร์มาร์เก็ต, ฟูจิ, สยามพารากอน, ดิเอ็มโพเรียม และร้านอาหารญี่ปุ่นบางแห่ง รวมถึงส่งออกไปที่เซี่ยงไฮ้ด้วย
ในอนาคตนั้น บริษัท โคคุโบะ ร็อกไอซ์ (ประเทศไทย) ยังได้มีแผนที่จะเพิ่มไลน์สินค้าที่เกี่ยวกับน้ำแข็งร็อกไอซ์อีก แต่จะเป็นสินค้าอะไรนั้น คงต้องรอสรุปในเร็วๆนี้
ทั้งหมดนี้คือที่มาของ “ร็อกไอซ์” น้ำแข็งพันธุ์ใหม่ที่ออกมาตีตลาดด้วยความต่าง ความพิถีพิถันในการนำเสนอตัวเองให้ขึ้นมาเป็นที่รู้จัก แข่งขันกันด้วยคุณภาพแทนราคา ซึ่งจะไปได้ดีขนาดไหนคงต้องพิสูจน์กันต่อไป หรือถ้าผู้ประกอบการไทยได้ไอเดียอะไรจากเรื่องนี้บ้าง ก็คงเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง
**** ข้อมูลจาก นิตยสาร SMEs Today ฉบับประจำเดือน มกราคม 2551 ******