สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) GISTDA เผยข้อมูลจากเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่าในหลายจังหวัดภาคเหนือ ช่วงวันที่ 27 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 โดยมี 5 พื้นที่เสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดไฟป่า ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน ลำปาง เพชรบูรณ์ โดยเฉพาะพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ และ ป่าสงวนแห่งชาติ
ในเรื่องของจุดความร้อน ข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) เผย ไทยพบจุดความร้อน 5,396 จุด เพื่อนบ้านอย่างพม่ายังครองแชมป์อยู่ 6,877 จุด, สปป.ลาว 4,076 บาท, กัมพูชา 739 จุด, เวียดนาม 626 จุด และ มาเลเซีย 16 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 3,024 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,790 จุด, พื้นที่เกษตร 251 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 167 จุด , พื้นที่เขต สปก. 157 จุด , และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ น่าน 555 จุด แม่ฮ่องสอน 429 จุด และ อุตรดิตถ์ 382 จุด
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่