สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ไทยพบจุดความร้อน จำนวน 398 จุด ในขณะที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังนำโด่งจำนวน 4,141 จุด สปป.ลาว 2,173 กัมพูชา 1,400 จุด จุด เวียดนาม 439 จุด และมาเลเซีย 62 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 140 จุด, พื้นที่เขต สปก. 91 จุด, ป่าอนุรักษ์ 57, พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 52 จุด, ป่าสงวนแห่งชาติ 49 จุด และริมทางหลวง 9 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ กาญจนบุรี 40 จุด
ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 09:00 น. ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในระดับเกินมาตรฐานสลับกับปานกลาง โดยจังหวัดที่พบค่า PM2.5 มากที่สุดคือ มหาสารคาม นครพนม ซึ่งอยู่ในระดับ 52 ไมโครกรัม ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับปานกลาง
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่