(ชมคลิป) หุ่นยนต์อิตาลี แกะสลักรูปปั้นจากหินอ่อน ใกล้เคียงผลงานจริงยุคนีโอคลาสสิก 99% ทำช่างกังวลความรู้อาจสูญหาย

ในปัจจุบันความนิยม "รูปปั้นหินอ่อน" ได้เริ่มหดหายไป เนื่องจากระยะเวลารอคอยการแกะสลักโดยช่างฝีมือที่ค่อนข้างใช้เวลานานหลายเดือนไปจนถึงหลายปี บริษัทโรโบเตอร์ (Robotor) จึงได้พัฒนาหุ่นยนต์แกะสลักเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องนี้

บริษัทโรโบเตอร์ (Robotor) เป็นบริษัทจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี เมืองที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่สมัยของจักรวรรดิโรมัน ในฐานะเมืองที่ผลิตก้อนหินอ่อนสำหรับรูปปั้นต่างๆ ที่ก่อตั้งโดย Giacomo Massari และ Filippo Tincolini ได้พัฒนาเทคโนโลยีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มาทำงานร่วมกับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ในการช่วยแกะสลักหินอ่อน พร้อมสร้างสรรค์ผลงานเลียนแบบศิลปินระดับโลกได้ใกล้เคียงถึง 99% ในชื่อ “Robotor” บริษัท


หุ่นยนต์แกะสลักหินอ่อน Robotor มีความสูงประมาณ 4 เมตร สามารถแกะสลักผลงานได้ในเวลาไม่กี่วัน เช่น การลอกเลียนรูปปั้นแกะสลัก เทพีเทิร์ปซิคอเร (Terpsicore) ของอันอันโตนิโอ คาโนวา (Antonio Canova) ศิลปินยุคนีโอคลาสสิก (Neoclassic) หรือยุคที่สร้างผลงานศิลปะกรีกและโรมันขึ้นมาใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่ใช้เวลาแกะสลักไม่ถึง 1 สัปดาห์ จากปกติการแกะสลักด้วยคนจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีตามแต่ขนาด ซึ่งในปัจจุบัน ศิลปินชื่อดังหลายท่านก็พยายามที่จะสร้างรูปภาพสามมิติในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะให้หุ่นยนต์แกะสลักหินอ่อนนี้รังสรรค์ผลงานออกมาได้ตามใจนึก ราวกับว่าเป็น Photoshop แห่งวงการแกะสลัก


Giacomo ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตหุ่นยนต์แกะสลักหินอ่อน กล่าวว่า หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถช่วยประหยัดการใช้หินอ่อนได้จากทักษะในการแกะสลักที่แม่นยำ หรือไม่ก็หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมา ผู้ใช้งานก็สามารถกลับไปเริ่มทำใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และเทคโนโลยีนี้ก็ยังช่วยให้ศิลปินสามารถรังสรรค์ผลงานออกมาได้โดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ อีกด้วย และแขนกลเหล่านี้ช่วยให้มนุษย์ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเผชิญกับฝุ่นหรือการบาดเจ็บต่างๆ ที่เกิดจากการสกัดหินมากกว่า


ในส่วนของความคิดเห็นช่างแกะสลักหินอ่อนด้วยมือได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากเกรงว่าความรู้ในการแกะสลักด้วยมืออาจสูญหายไปในอนาคต และอาจลดทอนคุณค่าของงานศิลปะให้ตกต่ำลงได้ แต่ผู้ก่อตั้งโรโบเตอร์ ย้ำว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ไม่ได้เข้ามาแย่งงานของมนุษย์ แต่เข้ามาช่วยยกระดับการทำงานของมนุษย์เท่านั้น แต่ในอนาคต วันแอลอาจจะเป็นเพียงหุ่นยนต์อีกตัวที่ตอกย้ำว่ายุคสมัยของการทำงานของมนุษย์นั้นได้จบลงแล้วก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : ROBOTOR / TNN / CBS / New York Times