xs
xsm
sm
md
lg

อว. สรุปผลงาน “อว.ช่วยชาติฝ่าวิกฤติโควิด- 19” ขอบคุณหน่วยงานและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่ระดมกำลังจนสถานการณ์ดีขึ้น “เอนก” ลั่นโควิด คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า อว. คือยักษ์ที่ตื่นแล้วพร้อมช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อว. สรุปผลงาน “อว.ช่วยชาติฝ่าวิกฤติโควิด- 19” พร้อมขอบคุณหน่วยงานและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่ระดมกำลังจนสถานการณ์ดีขึ้น “เอนก” ลั่นโควิด-19 คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า อว. คือยักษ์ที่ตื่นแล้วพร้อมช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งเรื่องเฉพาะหน้า สถานการณ์วิกฤติ และการพัฒนาระยะยาว เผยมีพร้อมทั้งวิชาความรู้ กำลังคนที่ทำหน้าที่เป็นกองหนุนที่ไว้ใจได้เสมอ ด้านปลัด อว.ชี้โควิด- 19 ทำให้เกิดเครือข่ายระหว่าง อว. กับ ก.สาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ ร่วมแก้วิกฤติโรคระบาด
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) จัดประชุมสรุปผลงาน “อว.ช่วยชาติฝ่าวิกฤติโควิด- 19” โดยมี ศ.(พิเศษ)ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว.เป็นประธาน มี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว.พร้อมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ผู้บริหารหน่วยงาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของ อว.เข้าร่วม พร้อมมีการมอบโล่เพื่อขอบคุณให้กับหน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาที่มาช่วยในวิกฤติโควิด – 19 ในครั้งนี้

โดย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว.กล่าวถึงสรุปผลงาน “อว.ช่วยชาติฝ่าวิกฤติโควิด- 19” ว่า ที่ผ่านมา อว.ได้เข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาโควิด – 19 มาตั้งแต่ต้น โดยส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจากโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ในสังกัด 27 แห่ง เข้าร่วมทีมกับกระทรวงสาธารณสุข ดูแลผู้ป่วยหนัก เข้าตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ พร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์แยกกักชุมชน อว. เพื่อให้บริการบุคลากร นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนเตียงรองรับได้ถึง 16,500 เตียง ได้ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วทั้งสิ้นจำนวน 118,433 คน นอกจากนั้น ยังเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามวาระแห่งชาติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่พร้อมกันทั่วไทย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 11 ศูนย์ โดยให้บริการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 1 ล้านคน รวมทั้งจัดทำโครงการ “อว. พารอด” ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนคนที่รอเป็นคนที่รอด” ซึ่งเป็นการรวมพลังกันของทุกภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ผ่านช่องทางต่าง ๆ

“ทั้ง 4 เรื่องเกี่ยวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนามก็ดี เรื่องการวัคซีนก็ดี เรื่อง อว.พารอดก็ดี ถือเป็นเรื่องการระดมกำลังครั้งใหญ่ในสภาวะวิกฤตเฉพาะหน้า รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมโดยคนไทย เพื่อป้องกัน บรรเทา และรักษา แต่เดิม อว.ไม่เคยมีภาพที่มาช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนในเรื่องเฉพาะหน้า ปัจจุบันทันด่วน เรื่องวิกฤติ คนทั่วไปไม่ค่อยคิดถึง อว. แต่อันที่จริงแล้ว อว.สามารถทำได้ เรามีวิชาความรู้และมีกำลังคนทำหน้าที่เป็นกองหนุนที่ไว้ใจได้เสมอ ในยามที่กองหน้าพะว้าพะวังว่าสรรพกำลังจะมีพอหรือไม่ และในยามที่กองหน้าไม่แน่ใจว่าจะมีคนมาสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน อว.ได้รีบดำเนินการโดยที่ไม่ถามว่ามีงบประมาณเท่าไหร่จะได้คนมาช่วยเพิ่มหรือไม่ ด้วยความเป็นผู้นำของท่านอธิการบดี และผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทุกท่าน โควิด-19 คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า อว. คือยักษ์ที่ตื่นแล้ว” ศ.(พิเศษ)ดร.เอนก กล่าว 


ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว.กล่าวเสริมว่า อว.ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับสถานการณ์ โควิด-19 จึงได้ประสานความร่วมมือร่วมใจกันของทุกหน่วยงานในกระทรวง อว. ทุกสถาบันอุดมศึกษา โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาล สถาบันวิจัยต่าง ๆ รวมถึงภาคเอกชนและภาคประชาชน ได้ร่วมมือกันต่อสู้กับโควิด-19 และสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการบริหารสถานการณ์วิกฤติของประเทศ

“ที่สำคัญคือ อว. ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์เชิญพระราชทรัพย์พระราชทานเพื่อสนับสนุนการดำเนินการรับรองสถานการณ์โควิด-19 และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระราชทานสมทบ โดย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว.รับพระราชทานทรัพย์ 18,900,000 บาทด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และได้จัดสรรให้กับโรงพยาบาลสนามของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ และจัดซื้อชุด PPE นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้"

"ขณะนี้ได้ผ่านสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงวิกฤตแล้ว อว.จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วน รวมถึงบุคลากรที่ได้ร่วมมือกัน ทำงานจนประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนภารกิจสนับสนุนการแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งจะทำให้เกิดเครือข่ายระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและ อว. ในการร่วมมือร่วมใจช่วยแก้ปัญหาวิกฤติของโรคระบาดต่อไป” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น